เนื้อหาโดยรวม
สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นฟื้นตัวได้ หลังปรับลดลงแรงในสัปดาห์ก่อนหน้า หลังอิหร่านระบุจะยังไม่มีมาตรการตอบโต้ต่อการโต้กลับของอิสราเอล ทำให้การตอบโต้ดังกล่าวเป็นเพียงเชิงสัญลักษณ์ นอกจากนั้นยังได้ปัจจัยหนุนจากผลประกอบการหุ้นสหรัฐส่วนใหญ่ที่ออกมาดีกว่าตลาดคาด หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับขึ้นแรง หนุนโดยผลประกอบการของ MSFT และ GOOGL อย่างไรก็ตามแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มเห็นสัญญาณอ่อนตัวลงมากขึ้น ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ยังสูง โดย GDP ไตรมาส 1 ขยายตัว 1.6% QoQ ชะลอลงต่อเนื่อง 3 ไตรมาส และต่ำกว่าตลาดคาด นอกจากนั้นตัวเลข Flash composite PMI ชะลอลงมากขึ้นอยู่ที่ 50.9 ต่ำสุดตั้งแต่เดือน พ.ย. นอกจากนั้นตลาดยังติดตามตัวเลขเงินเฟ้อว่าจะเร่งตัวขึ้นหรือไม่ ทั้งนี้ตลาดเริ่มปรับความคาดหวังการลดดอกเบี้ยปีนี้ลงเหลือต่ำกว่า 2 ครั้ง และจะเริ่มในช่วงท้ายปี สะท้อนผ่านไปยังผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สหรัฐเร่งตัวขึ้นสู่ 4.7% ตลาด EM ได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่ออกมาต่อเนื่อง ในส่วนของตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวหลังปรับลงไปแรงในสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นโลก ด้านตลาดน้ำมันราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 2.2% WoW จากตัวเลขสินค้าคงคลังที่ลดลงกว่าคาด และสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางที่ยังไม่คลี่คลาย
ตลาดหุ้นโลก
สัปดาห์นี้ตลาดฟื้นตัวขึ้นหลังจากปรับลดลงใน 2 สัปดาห์ก่อนจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์และดอกเบี้ยที่สูงยาวนานขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดเริ่มกังวลจากภาพเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอลง ทั้งจากตัวเลข GDP และ PMI สหรัฐ แต่ดัชนีราคายังอยู่ระดับสูง ทำให้กังวลมากขึ้นว่า Fed อาจต้องคงดอกเบี้ยสูงยาวนานขึ้น
ตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวหลังจากตลาดคลายกังวลสถานการณ์ตะวันออกกลาง ด้านประเด็นเศรษฐกิจได้แก่ (1) ธปท. ส่งสัญญาณไม่ลดดอกเบี้ย จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่เงินเฟ้อจะเข้าสู่กรอบเป้าหมายช่วงปลายปี และออกจดหมายค้าน Digital Wallet (2) สมาคมธนาคารไทยประกาศปรับลดดอกเบี้ย MRR ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน (3) เงินบาทอ่อนทะลุ 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.70% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี ปรับเพิ่มขึ้นที่ 4.99% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ -29 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นที่ 2.75% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ลดลงที่ 2.4% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 1,047 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาปิดวันศุกร์ที่ 19 เม.ย. ที่ 87.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 89.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านราคาทองคำ (spot) ปรับลดลงที่ 2,344.9 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) อ่อนค่าลงที่ 105.6 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงที่ 155.52 เยน ด้านค่าเงินยูโรอ่อนลงที่ 1.07 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงที่ 37.02 บาท ขณะที่เงินหยวนทรงตัวที่ระดับ 7.25 หยวน
ดาวน์โหลดเอกสาร คลิก!