เนื้อหาโดยรวม
สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกยังคงปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะฝั่ง DM ยังแกร่งกว่าฝั่ง EM นำโดยตลาดหุ้นสหรัฐ ที่ได้ผลบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกดี แม้กรรมการ เฟดบางรายจะให้มุมมองว่าการลดดอกเบี้ยอาจช้าและน้อยกว่าคาดการณ์ของตลาด กลุ่มที่อ้างอิงกับเศรษฐกิจปรับตัวขึ้นได้ดี เช่น กลุ่มธนาคาร และพลังงาน ขณะที่กลุ่มเทคฯ มีแรงขายทำกำไร หลังปรับขึ้นแรง และความกังวลประเด็นการตอบโต้จากฝั่งจีน ทั้งนี้สำหรับ 1Q24 ดัชนี S&P500 ปรับขึ้น 10% และทำจุดสูงสุดใหม่ และปรับขึ้นดีกว่าดัชนี Nasdaq ส่งสัญญาณว่าตลาดเริ่มหันไปมองในหุ้นกลุ่มอื่นนอกเหนือจากกลุ่มเทคโนโลยี ด้านตลาดหุ้น EM ค่อนข้างทรงตัว โดยตลาดหุ้นเกาหลีและไต้หวันยังปรับตัวขึ้น แต่ถูกชดเชยจากตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงที่ลดลง ท่ามกลางค่าเงินภูมิภาคส่วนใหญ่ที่อ่อนค่า ส่งผลให้เงินไหลออกจากภูมิภาคในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลงเล็กน้อย หลังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ ตลาดน้ำมันปรับตัวได้ดีในสัปดาห์นี้ ปัจจัยบวกยังมาจากความกังวลอุปสงค์ชะลอตัวที่ผ่อนคลายลงทั้งจากเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังแข็งแกร่ง และฝั่งอุปทานยังได้ผลบวกจากการปรับลดการผลิตของ OPEC+ ต่อเนื่องไปถึง 2Q24 อีกทั้งยังมีปัจจัยด้านสงคราม ทำให้ IEA ประเมินตลาดน้ำมันกลับเป็นขาดแคลนในช่วงที่เหลือของปี
ตลาดหุ้นโลก
สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวดีขึ้นจาก (1) PMI ของสหรัฐและยุโรปทรงตัว แม้ว่าดัชนีราคาเพิ่มขึ้นบ้าง ขณะที่ตลาดยังคงเชื่อว่า Fed จะลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ (2) เงินเยนอ่อนค่าที่สุดในรอบ 34 ปี ทำให้ทางการส่งสัญญาณอาจเข้าแทรกแซง ขณะที่ (3) คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งใน FOMC กล่าวว่า Fed ไม่เร่งปรับลดดอกเบี้ย แต่น่าจะปรับลดได้ในปีนี้ โดยขึ้นอยู่กับเงินเฟ้อเป็นหลัก
ตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงในสัปดาห์นี้ จาก (1) ตัวเลขเศรษฐกิจไทยโดยรวมยังแย่ โดยการบริโภค-ลงทุนชะลอ ขณะที่ส่งออกขยายตัวชะลอลงมาก (2) นายกฯ มอบหมาย ก. คลัง เสนอความเป็นไปได้ของแหล่งที่มาในการทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดย 10 เม.ย. จะได้ความชัดเจน (3) วุฒิสภาผ่านร่าง พรบ. งบประมาณ ปี 67 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท และส่งกลับให้รัฐบาลนำขึ้นทูลเกล้าฯ ในเดือน เม.ย.
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับลดลงมาอยู่ที่ 4.06% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี ลดลงที่ 4.62% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ -56 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงที่ 2.52% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ทรงตัวที่ 2.15% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 13,613 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาปิดวันศุกร์ที่ 22 มี.ค. ที่ 85.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 87.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านราคาทองคำ (spot) ปรับเพิ่มขึ้นที่ 2,254.8 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) แข็งค่าขึ้นที่ 104.56 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 151.38 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.08 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยที่ 36.46 บาท ขณะที่เงินหยวนอ่อนลงที่ระดับ 7.23 หยวน
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Wealth weekend_InnovestX_240329_T