สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นสหรัฐค่อนข้างผันผวนตลอดสัปดาห์ มีแรงขายทำกำไรจากหุ้นกลุ่มเทคฯ เป็นปัจจัยกดดัน ขณะที่ตลาดหุ้น DM อื่นปรับตัวได้ดีกว่า หนุนโดยแถลงการณ์ของประธานเฟดที่ Jackson Hole ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยเดือน ก.ย.ชัดเจน
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นสหรัฐค่อนข้างผันผวนตลอดสัปดาห์ มีแรงขายทำกำไรจากหุ้นกลุ่มเทคฯ เป็นปัจจัยกดดัน ขณะที่ตลาดหุ้น DM อื่นปรับตัวได้ดีกว่า หนุนโดยแถลงการณ์ของประธานเฟดที่ Jackson Hole ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยเดือน ก.ย.ชัดเจน ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ 2Q24 ที่ออกมาดีกว่าคาดหนุนมุมมอง soft-landing ความคาดหวังที่สูงของหุ้นผู้นำกลุ่ม AI อย่าง NVDA ทำให้หุ้นปรับลดลง แม้จะรายงานผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าตลาดคาดทั้งรายได้และกำไร กดดันหุ้นกลุ่มเทคฯ ปรับลดลง 2.3% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝั่ง EM ปรับลดลงเช่นกันกดดันจากหุ้นจีน ที่มีแรงกดดันของเศรษฐกิจจีนยังมีต่อเนื่อง เริ่มเห็นการปรับคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจปีนี้และปีหน้าลง ก่อนจะฟื้นตัวในช่วงท้ายสัปดาห์ ขณะที่หุ้นในกลุ่มประเทศอาเซียนปรับตัวขึ้น ส่วนนึงเป็นผลจากมุมมองว่าประเทศเอเชีย รวมถึงไทยจะสามารถผ่อนคลายนโยบายได้ หลัง Fed เริ่มลดในเดือน ก.ย. รวมถึงการส่งออกในเอเชียปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยการส่งออกในไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยเฉพาะช่วงต้นสัปดาห์ ก่อนจะเริ่มเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ หลังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ได้นายกฯ ท่านใหม่ อย่างรวดเร็ว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่าน Digital Wallet ที่มีรูปแบบที่เปลี่ยนไป แต่เฟสแรกคาดจะเริ่มทำได้เร็ว นอกจากนั้นโอกาสลดดอกเบี้ยของ กนง. ในปีนี้เพิ่มขึ้น หลังการลดดอกเบี้ยของเฟดชัดเจนขึ้น เศรษฐกิจที่ชะลอลง ทำให้ความเสี่ยงคุณภาพสินเชื่ออาจเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นจากข่าวหยุดส่งน้ำมันของลิเบีย เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งภายใน รวมถึงแผนการลดการส่งออกของอิรักพื่อให้เป็นไปตามโควตาของกลุ่ม OPEC+
ตลาดหุ้นโลก
สัปดาห์นี้ตลาดสหรัฐปรับลดลงเล็กน้อยจากแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ตลาดอื่น ๆ ปรับตัวดีขึ้นจากสุนทรพจน์ของประธาน Fed ที่ Jackson Hole ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยเดือน ก.ย.ชัดเจน ขณะที่การส่งออกในเอเชียปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องทำให้เป็นบวกต่อตลาดเอเชียด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตลาดจีนปรับลดลงต่อเนื่องจากความเสี่ยงเศรษฐกิจ ภาคอสังหาฯ และการประท้วง
ตลาดหุ้นไทย
สัปดาห์นี้ ตลาดปรับตัวดีขึ้นต่อจากการจัดงาน Thailand Focus ที่สร้างความเชื่อมั่นให้ตลาดทุนไทยได้มากขึ้น ขณะที่ผู้ว่า ฯ ธปท. เริ่มเปิดโอกาสปรับดอกเบี้ยหากเสถียรภาพการเงินถูกกระทบจากการตึงตัวของนโยบายการเงิน ท่ามกลางบาทแข็งค่า ด้านรมช. คลังกล่าวว่าเป็นไปได้สูงที่โครงการจะแจกเงิน 1.22 แสนล้านบาทจากงบเพิ่มเติมปี 2567 ส่วนส่งออกไทยเดือน ก.ค. ขยายตัวเกินคาดที่ 15.2% จากส่งออกทองคำ น้ำมันและอิเล็กทรอนิกส์
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 3.86% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี ปรับลดลงมาอยู่ที่ 3.9% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ -4 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงเล็กน้อยที่ 2.55% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ทรงตัวที่ 2.20% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 3,367 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังกังวลอุปทานน้ำมันในตลาดโลกตึงตัว เนื่องจากลิเบียระงับการผลิตน้ำมัน และอิรักวางแผนปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันด้านราคาทองคำ (spot) ปรับเพิ่มขึ้นที่ 2,548.0 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ทรงตัวที่ 101.39 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นที่ 144.8 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.11 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งขึ้นรุนแรงที่ 34.0 บาท ขณะที่เงินหยวนแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 7.09 หยวน
กดอ่านเพิ่มเติมและดาวน์โหลดเอกสารได้จากปุ่มด้านล่าง