สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวดีขึ้นจาก (1) ตัวเลขเศรษฐกิจที่เหมือนจะดูดีขึ้น ทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐจาก Conference Board ที่ปรับตัวดีขึ้นหลังประเด็นเพดานหนี้ผ่านพ้นไป แต่บ่งชี้ว่าจะซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ลดลง และ (2) คำสั่งซื้อสินค้าคงทนรายเดือนที่ฟื้นตัวขึ้น 1.7% ต่อเดือน ผลจากคำสั่งซื้อเครื่องบินที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ (3) ตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวยังคงส่งสัญญาณชะลอตัว โดยเฉพาะ Flash Composite PMI ของเศรษฐกิจขนาดใหญ่ โดยในสหรัฐลดลงสู่ระดับ 53 จากระดับ 54.3 ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ในยูโรโซนลดลงเหลือ 50.3 ในเดือน มิ.ย. จาก 52.8 ในเดือนก่อนหน้า การชะลอตัวรุนแรงเป็นพิเศษในฝรั่งเศส ทั้งนี้ กิจกรรมทางธุรกิจในประเทศขนาดใหญ่ในยุโรปชะลอตัวลงอย่างมากในเดือน มิ.ย. จากภาคบริการที่ชะลอลงเป็นหลัก บ่งชี้ว่าต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นอาจเริ่มกระทบเศรษฐกิจ ขณะที่การชะลอตัวจากภาคการผลิตกำลังเข้าสู่ภาคบริการ (4) ดัชนีราคาบ้าน S&P Case-Shiller หดตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2012 ที่ -0.2% ในเดือน เม.ย. จาก 0.7% ในเดือน มี.ค. ขณะที่ดัชนี 20 เมืองใหญ่หดตัว -1.7% ต่อเนื่องจาก -1.1% เดือนก่อน ผลจากดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านที่สูงขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ที่ 6.7% (5) ประธาน ธ. กลางซีกโลกตะวันตกยังคงส่งสัญญาณพร้อมขึ้นดอกเบี้ยต่อเพื่อคุมเงินเฟ้อ โดยประธาน Fed ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยใน ก.ค. และ ก.ย. เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่ ประธาน ECB และ BOE ระบุเงินเฟ้อยังสูงเกินไป และมีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน ทำให้ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ มีเพียงประธาน BOJ ที่ยังเงินเฟ้อพื้นฐานยังไม่ถึงเป้าที่ 2% จึงยังไม่จำเป็นต้องรีบขึ้นดอกเบี้ย และ WSJ รายงานว่า สหรัฐเตรียมออกมาตรการใหม่ในการจำกัดการส่งออกชิปไปยังประเทศจีน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการอย่างเร็วที่สุดในเดือน ก.ค. (6) ตัวเลข GDP ไตรมาส 1 สหรัฐ ประกาศครั้งสุดท้าย ปรับตัวขึ้นดีเกินคาดที่ 2% QoQ จากที่ตลาดคาดที่ 1.4%
ตลาดหุ้นโลก•สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวดีขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจที่เหมือนจะดูดีขึ้น ทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐและคำสั่งซื้อสินค้าคงทนรายเดือนที่ฟื้นตัวขึ้นหลังประเด็นเพดานหนี้ผ่านพ้นไป อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวยังคงส่งสัญญาณชะลอตัว เช่น Flash Composite PMI ของเศรษฐกิจขนาดใหญ่ รวมถึงดัชนีราคาบ้าน S&P Case-Shiller หดตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2012 ด้านส่วนต่างของผลตอบแทนพันธบัตร 2 และ 10 ปี สหรัฐต่ำสุดในรอบ 42 ปี ที่ -1% ขณะที่ประธาน ธ. กลางซึกโลกตะวันตกยังคงส่งสัญญาณพร้อมขึ้นดอกเบี้ยต่อเพื่อคุมเงินเฟ้อ
ตลาดหุ้นไทย•สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงแรง จากปัจจัยการเมืองในประเทศ รวมทั้งประเด็นความเชื่อมั่นหลังวิกฤต Stark ประกอบกับ ธ. กลางชั้นนำส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ด้านส่งออกของไทยหดตัวต่อเนื่อง8 เดือน ที่ -4.6% โดยสินค้าอุตสาหกรรมหลักยังคงหดตัวต่อเนื่อง แต่สินค้าอุตสาหกรรมบางตัว เช่น รถยนต์และเซมิคอนดักเตอร์เริ่มฟื้นตัวขึ้นบ้าง ด้านสินค้าเกษตรหดตัวครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ขณะที่ ส.อ.ท. ระบุผลสำรวจ ผบห. พบการส่งออกใน 5 เดือนข้างหน้ายังท้าทาย ท่ามกลางต้นทุนที่เพิ่ม การแข่งขันสูง สินค้าคงคลังเพิ่ม พร้อมเสนอแนะภาครัฐเร่งกระตุ้นส่งออก
ตลาดพันธบัตร
•ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี เพิ่มขึ้นที่ 3.84% หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี เพิ่มขึ้นมากที่ 4.87% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ -97 bps•ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงเล็กน้อยที่ 2.59% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ทรงตัวที่ 2.14% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 7.1 พันล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์•ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากราคาปิดวันศุกร์ที่ 23 มิ.ย. ที่ 73.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 74.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านราคาทองคำ (spot) ลดลงมาอยู่ที่ 1,918 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน•ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) แข็งขึ้นที่ 103.32 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงที่ 144.3 เยน ด้านค่าเงินยูโรอ่อนลงเล็กน้อยที่ 1.09 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงที่ 35.58 บาท ขณะที่เงินหยวนอ่อนลงที่ระดับ 7.24 หยวน
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม WealthWeekend_230630_T (1)
