Wealth Weekend – มองเวลท์..รายวีค 04/08/2023

4 Aug 23 1:37 PM

สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้

สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวลดลงจาก (1) ความเสี่ยงตลาดการเงินมีมากขึ้นหลังสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Fitch Rating ปรับลดอันดับเครดิตสหรัฐ 1 Notch จาก AAA เป็น AA+ โดย Fitch กล่าวว่าเป็นผลจาก (1.1) "ธรรมาภิบาลถูกกัดกร่อน" (erosion of governance) กว่า 20 ปี (ล่าสุดคือการเพิ่มเพดานหนี้ในเดือน มิ.ย.) (1.2) ขาดแผนการคลังระยะกลาง (1.3) ขาดดุลการคลังเพิ่มขึ้น และ (1.4) ค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ยสูงขึ้น ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ที่ลดลง (2) กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศเพิ่มการคาดการณ์การกู้ยืมในไตรมาส 3 จาก 7 แสนล้านสู่ 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้น (3) ธ.กลางสำคัญทั้งยุโรป (ECB) อังกฤษ (BOE) ญี่ปุ่น (BOJ) และไทย (BOT) ทำนโยบายการเงินที่ตึงตัวขึ้น โดย (3.1) ECB ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากเป็น 3.75% จาก 3.5% ตรงกับการคาดการณ์ ขณะที่ยังคงไม่ปิดประตูสำหรับการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ชะลอลงมาอยู่ที่ 5.3% (3.2) BOE ขึ้นดอกเบี้ยอีก 25 bps สู่ 5.25% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ชะลอลงมาอยู่ที่ 7.9% (3.3) BOJ ผ่อนคลายมาตรการควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Yield-Curve Control: YCC) โดยขยายเพดานอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี จาก 0.5% เป็น 1% ขณะที่หลายฝ่ายมองว่าอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยจาก -0.1% ภายในหนึ่งปีนับจากนี้ และ (3.4) กนง.ของไทย มีมติเอกฉันท์ ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 25bps สู่ 2.25% ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ต่ำที่ 0.23% ขณะที่บ่งชี้ว่าการขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปขึ้นอยู่กับข้อมูล (Data Dependent) เป็นสำคัญ (4) ตัวเลข GDP สหรัฐและยุโรปไตรมาส 2/2023 ที่ออกมาดีเกินคาด โดย (4.1) GDP สหรัฐขยายตัวที่ 2.4% (QoQ, SAAR) สูงกว่าตลาดคาดที่ 1.8% และไตรมาสที่แล้วที่ 2.0% หากพิจารณารายไตรมาส ภาคเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวแรงขึ้นได้แก่ภาคการลงทุน อันได้แก่การสั่งซื้อเครื่องบินและเครื่องมือเครื่องจักรด้าน IT เป็นหลัก แต่ภาคเศรษฐกิจอื่นชะลอลงแรงหรือหดตัวมากขึ้น โดยเฉพาะภาคการบริโภค และการส่งออก และ (4.2) GDP ยุโรปขยายตัวต่ำที่ 0.3% QoQ หลังจากที่หดตัวในไตรมาส 4 และไม่ขยายตัวในไตรมาส 1 โดยเศรษฐกิจเยอรมนีไม่ขยายตัว ฝรั่งเศสขยายตัวเล็กน้อย ขณะที่อิตาลีหดตัว ท่ามกลางความเสี่ยงเศรษฐกิจยุโรปที่มากขึ้น ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ

ตลาดหุ้นโลก

•สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวลดลงหลังจากความเสี่ยงตลาดการเงินมีมากขึ้นหลังสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Fitch Rating ปรับลดอันดับเครดิตสหรัฐ 1 Notch จาก AAA เป็น AA+ จากความสามารถในการชำระหนี้ที่ลดลง ประกอบกับทางการสหรัฐประกาศเพิ่มการคาดการณ์การกู้ยืมในไตรมาส 3 จาก 7 แสนล้านสู่ 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้น ขณะที่ ธ.กลางสำคัญทั้งสหรัฐ ยุโรป และไทย ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ธปท. รวมถึงการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ขยายช่วงควบคุมผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลหรือ Yield Curve Control ท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจบางเครื่องชี้ที่ชะลอลงและเงินเฟ้อที่เริ่มลดลง

ตลาดหุ้นไทย

•ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงหลังจากพัฒนาการด้านการเมืองมีความซับซ้อนขึ้น โดย (1) ศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนพิจารณาคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีมติรัฐสภาห้ามโหวตนายกฯ รอบ 2 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ไปเป็นวันที่ 16 ส.ค. 66 (2) ประธานรัฐสภามีคำสั่งให้เลื่อนวาระการโหวตเลือกนายกฯ รอบที่ 3 ในวันที่ 4 ก.ค. ออกไปก่อน (3) พรรคเพื่อไทยยกเลิก MOU 8 พรรค เพื่อเปิดโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นไปได้มากขึ้น ขณะที่ภาพเศรษฐกิจชะลอลงแรงขึ้น โดย (1)ตัวเลขเศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณชะลอตัวลงชัดเจนขึ้น ขณะที่ (2) กนง. มติเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ 2.25% สูงสุดรอบ 9 ปี ขณะที่ส่งสัญญาณใกล้จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น

ตลาดพันธบัตร

•ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี เพิ่มขึ้นรุนแรงที่ 4.17% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 4.90% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี ลดลงมาอยู่ที่ -0.73 bps

•ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ปรับขึ้นเล็กน้อยที่ 2.63% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ปรับขึ้นเล็กน้อยที่ 2.26% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 1.5 พันล้านบาท

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

•ราคาน้ำมันดิบ Brent ทรงตัวจากราคาปิดวันศุกร์ที่ 28 ก.ค. ที่ 85.0 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 85.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านราคาทองคำ (spot) ปรับลดลงเล็กน้อยที่ 1,967.8 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน

•ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) แข็งค่าขึ้นที่ 102.7 จุด หลังจาก Fitch ปรับลดอันดับเครดิตสหรัฐ ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าที่ 142.8 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.09 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงที่ 34.64 บาท ขณะที่เงินหยวนอ่อนค่าขึ้นที่ระดับ 7.17 หยวน

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม WealthWeekend_230727_T