สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจาก(1) การที่ Fed ขึ้นดอกเบี้ยตามคาดท่ามกลางเงินเฟ้อที่ชะลอแรงขึ้น ทำให้ตลาดมองว่า Fed คงจะคงดอกเบี้ยไปจนถึงสิ้นปีนี้ โดย (1.1) FOMC มีมติเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ย 25 bps ไปสู่ 5.25-5.50 % (ค่ากลาง 5.38%) ทำให้อัตราดอกเบี้ยขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี (1.2) ไม่ปิดประตูที่จะขึ้นต่อ แต่จะเป็นการพิจารณาในรายการประชุมไป (Meeting by meeting) (1.3) Fed ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจแข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่เจ้าหน้าที่ของ Fed เปลี่ยนการคาดการณ์จากที่เคยมองว่าจะเกิดภาวะถดถอยในปีนี้ เป็นชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด (Noticeable slowdown) แต่ไม่คาดว่าจะเกิดภาวะถดถอย (1.4) ยังมองว่านโยบายการเงินจะต้องใช้ระยะเวลาก่อนที่จะเห็นผล (2) IMF ปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกในปีนี้ขึ้น จากประเด็นการบริหารจัดการวิกฤตธนาคารที่ดีในอดีต โดยเป็นการปรับขึ้นของประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น เป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ยังให้การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนเท่าเดิม ขณะที่กังวลในประเด็นความเสี่ยงเงินเฟ้อมากขึ้นหลังความเสี่ยงสงครามรัสเซีย-ยูเครนจะกระทบกับราคาธัญพืช อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐและต่างประเทศส่งสัญญาณชะลอต่อเนื่อง ทั้ง (3) ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของ Conference Board หดตัวเป็นเดือนที่ 15 ติดต่อกัน (4) ดัชนี Flash composite PMI ของประเทศเจริญแล้วชะลอตัวลงอย่างพร้อมเพรียง โดยเฉพาะภาคบริการ โดยหดตัวมากในประเทศแถบยุโรป เช่น เยอรมนีและฝรั่งเศส ขณะที่ญี่ปุ่น สหรัฐ และอังกฤษ ชะลอตัวลงต่อเนื่อง ซึ่งภาพการชะลอตัวที่แรงขึ้นในยุโรปนี้ เป็นภาพเดียวกับตัวเลขเศรษฐกิจรายประเทศ เช่น ความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมเยอรมนีที่หดตัวแรงขึ้น ขณะที่ (5) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีนที่ประกาศจะเป็นในเชิงหลักการมากกว่า แต่ไม่มีรายละเอียดเท่าที่ควร โดยมีการพูดมากขึ้นว่าจะทำนโยบายเศรษฐกิจที่ต้านวัฏจักร (Counter-cyclical policy) และมุ่งเน้นกระตุ้นการบริโภคมากกว่าภาคอุตสาหกรรม รวมถึงมีแผนที่จะกระตุ้นการลงทุนรัฐบาลท้องถิ่น และแผนกระตุ้นภาคอสังหาฯ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่าทางการมีช่องทางไม่มากนักในการกระตุ้นเศรษฐกิจท่ามกลางความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกและอัตราการว่างงานคนหนุ่มสาวที่สูงขึ้น
สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากการที่ Fed ขึ้นดอกเบี้ยตามคาดท่ามกลางเงินเฟ้อที่ชะลอแรงขึ้น ทำให้ตลาดมองว่า Fed คงจะคงดอกเบี้ยไปจนถึงสิ้นปีนี้ ขณะที่ IMF ปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกในปีนี้ขึ้น จากประเด็นการบริหารจัดการวิกฤตธนาคารที่ดีในอดีตอย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐและต่างประเทศส่งสัญญาณชะลอต่อเนื่อง ทั้ง (1) ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของ Conference Board หดตัวเป็นเดือนที่ 15 ติดต่อกัน(2) ดัชนี Flash composite PMI ของประเทศเจริญแล้วชะลอตัวลงอย่างพร้อมเพรียง โดยเฉพาะภาคบริการ ขณะที่ (3) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีนที่ประกาศจะเป็นในเชิงหลักการมากกว่า แต่ไม่มีรายละเอียดเท่าที่ควร
ตลาดหุ้นไทย
ตลาดพันธบัตร
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากราคาปิดวันศุกร์ที่ 21 ก.ค. ที่ 81.1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 83.7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านราคาทองคำ (spot) ปรับขึ้นเล็กน้อยที่ 1,980.1 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม WealthWeekend_230727_T