เนื้อหาโดยรวม
หนึ่งในหุ้นที่โตแรงที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคือ ‘หุ้นเทคโนโลยีต่างประเทศ’ แต่ในตอนนี้หุ้นกลุ่มนี้ยังน่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาวหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ!
ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา หนึ่งในประเภทหุ้นที่เติบโตและให้ผลกำไรแก่นักลงทุนได้มากที่สุดก็คือ ‘หุ้นเทคโนโลยี’ โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยีต่างประเทศจากเหล่าบริษัทสตาร์ตอัปชื่อดังในซิลิคอนวัลเลย์ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น ‘ศตวรรษแห่งการปฏิวัติเทคโนโลยี’ อย่างแท้จริงก็ว่าได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่เพิ่งหันมาสนใจหุ้นประเภทนี้ อาจสงสัยว่า “ตอนนี้ช้าไปแล้วหรือเปล่า?” หรือ “ลงทุนตอนนี้จะตกขบวนแล้วหรือไม่?” บทความนี้จึงจะมาตอบคำถามเหล่านี้ให้กระจ่าง พร้อมนำความเห็นจากสื่อและสถาบันทางการเงินชื่อดังระดับโลกมาอัปเดตให้รู้กัน ที่สามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน และปิดท้ายด้วยการแนะนำหุ้นเทคโนโลยีที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนเพื่อหวังผลกำไรในระยะยาวติดตามกันได้เลย
หุ้นเทคโนโลยียังน่าสนใจอยู่ไหมสำหรับการลงทุนระยะยาว?
หลังจากที่เติบโตต่อเนื่องมาหลายปี แต่เมื่อเข้าสู่ปี 2022 หุ้นเทคโนโลยีต่างประเทศกลับเข้าสู่ขาลงจากการที่ดัชนี NASDAQ 100 ซึ่งเป็นดัชนีตลาดหุ้นหลักที่ประกอบด้วยบริษัทเทคโนโลยีเป็นหลัก ยืนยันได้จากการที่หุ้นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ 7 ตัว หรือที่เรียกกันว่า ‘The Big 7 Tech’ ซึ่งประกอบไปด้วย Alphabet, Amazon, Apple, Meta, Microsoft, Nvidia และ Tesla นั้นมีสัดส่วนมูลค่ารวมกันมากกว่า 50% ของดัชนี ปรับตัวลง –32.4% ทำให้ปี 2022 คือปีที่เลวร้ายที่สุดของหุ้นเทคโนโลยีต่างประเทศ นับตั้งแต่ปี 2008 ที่เกิดวิกฤติการเงิน Hamburger Crisis
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ก็คือ การได้รับผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปลดพนักงานจำนวนมากของบริษัทเทคโนโลยีหลาย ๆ แห่ง
ทั้ง ๆ ที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงวิกฤติโควิด สวนทางกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ เนื่องจาก เมื่อโลกเข้าสู่ช่วงล็อกดาวน์ อินเทอร์เน็ต และโซเชียลมีเดีย เช่น Zoom และ Microsoft Teams ก็เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์เริ่มกลับคืนสู่ปกติ อุปสงค์ในตลาดนี้ก็เริ่ดลดลง จนนำไปสู่ความตกต่ำที่เกิดขึ้น
ถึงตรงนี้ จริงอยู่ที่หุ้นเทคโนโลยีต่างประเทศกำลังปรับฐาน ทำให้ราคาขึ้นลงผันผวน และมีช่วงเวลาที่ราคาลดต่ำลง อย่างไรก็ตาม หากยึดถือหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investing) ที่ Warren Buffet นักลงทุนระดับตำนานเน้นย้ำอยู่เสมอ การลงทุนใน หุ้นเทคโนโลยีต่างประเทศที่หวังผลกำไรในระยะยาวก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากบรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่างก็มีศักยภาพในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาวางจำหน่าย เพื่อสร้างผลกำไรได้อยู่เสมอ
นอกจากนั้นเมื่อยังมีสัญญานบอกชัดอีกว่า หุ้นเทคโนโลยีอาจกลับเข้าสู่เรดาร์การลงทุนอีกครั้ง โดยมีสิ่งที่เรียกว่า ‘AI’ เป็นปัจจัยให้ทุกคนจับตามอง เพราะนับตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT ที่พัฒนาโดย OpenAI เมื่อช่วงปลายปี 2022 ที่ผ่านมา โลกแห่งเทคโนโลยีก็พลิกกลับตาลปัตร ยืนยันจากจำนวนผู้ใช้งานที่พุ่งสูงกว่า 100 ล้านคนในเวลาไม่ถึงเดือน เป็นเครื่องยืนยันว่ายุคของ AI ได้มาถึงแล้ว และบริษัทที่มีเทคโนโลยีนี้ก็เปรียบดั่งเครื่องบินที่เตรียมพุ่งทะยานอีกครั้ง
Ben Rogoff หัวหน้าผู้จัดการกองทุนของ Polar Capital Technology Trust ได้แสดงความเห็นไว้ว่า “ตื่นเต้นอย่างมากที่ AI กำลังจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง เช่นเดียวกับผู้คนในช่วงปลายยุค 90 ตื่นเต้นกับอินเทอร์เน็ต”
ส่วน Investment Trusts ด้านเทคโนโลยี ระบุในการอัปเดตไตรมาสที่ 4 ปี 2022 ว่า บริษัทตั้งใจที่จะ “พึ่งพา AI ในฐานะตัวขับเคลื่อนเทคโนโลยีหลักสำหรับการเปลี่ยนแปลง”
ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังถือว่าเป็นตัวเลือกการลงทุนระยะยาวที่ดี แต่หุ้นเทคโนโลยีที่น่าสนใจควรที่จะเป็นบริษัที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาหรือลงทุนใน AI ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ มีหรือที่บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกจะปล่อยโอกาสทองให้หลุดมือไป ตรงกันข้าม แทบทุกบริษัทที่ชื่อคุ้นหู ไม่ว่าจะ APPLE, Google, META, Tesla ต่างก็แอบซุ่มพัฒนา AI ด้วยกันทั้งสิ้น
แนะนำหุ้นเทคโนโลยีที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาว
ปิดท้ายบทความนี้ด้วยการแนะนำหุ้นเทคโนโลยีที่น่าสนใจ เผื่อเป็นตัวเลือกสำหรับนักลงทุน ไม่ว่าจะหน้าใหม่หรือหน้าเก่า แต่เห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่ายุคของ AI กำลังจะมาถึง โดยมีดังต่อไปนี้
● Adobe (ADBE): ด้วย AI ซอฟต์แวร์สำหรับการสร้างเนื้อหา การตลาด การวิเคราะห์ข้อมูล และการจัดการเอกสาร ในชื่อ Creative Cloud จึงทำให้ Adobe เป็นหนึ่งในหุ้นเทคโนโลยีที่น่าสนใจ
● Alphabet (GOOGL): Alphabet บริษัทแม่ของ Google เพิ่งเปิดตัวเวอร์ชันทดสอบแชตบอต AI ของตัวเองที่ชื่อว่า Bard ซึ่งทำงานเหมือนกับ ChatGPT ที่สามารถเข้าถึง รวบรวม และสรุปข้อมูลออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วในการให้คำตอบ และนอกจาก Bard แล้ว Alphabet ยังมี AI ทางธุรกิจและโครงสร้างพื้นฐานผ่านหน่วยคอมพิวเตอร์คลาวด์ของ Google ด้วย
● Amazon (AMZN): Amazon ให้บริการ AI และ ML และโครงสร้างพื้นฐานผ่าน Amazon Web Services (AWS) ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ ที่ใช้ AI ในร้านค้าออนไลน์ของตนเองเพื่อให้คำแนะนำสินค้า รวมถึง Alexa ผู้ช่วยเสมือนของอุปกรณ์ Echo ที่ขับเคลื่อนด้วย AI
● C3 AI (AI): ให้บริการแอปพลิเคชัน SaaS (ซอฟต์แวร์บริการ) เพื่อพัฒนา ปรับใช้ และเรียกใช้แอปพลิเคชัน AI ระดับองค์กร จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งหุ้นเทคโนโลยีต่างประเทศที่ควรจับตามองอย่างยิ่ง
● Microsoft (MSFT): มหาอำนาจด้านซอฟแวร์ที่ทุ่มงบมหาศาลในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ไม่แพ้บริษัทอื่น ๆ และเมื่อนำมาใช้ร่วมกับซอฟแวร์ดั้งเดิมที่ทาง Microsoft เป็นเจ้าตลาดอยู่แล้ว ทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึง AI ได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็น Microsoft 365 Copilot, Microsoft Azure Cognitive Services, และ Microsoft Dynamics 365 AI นอกจากนั้น Microsoft ยังเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนรายใหญ่ของ OpenAI ผู้ผลิต ChatGPT โมเดลปัญญาประดิษฐ์ทางภาษาที่ได้รับความนิยมที่สุดในขณะนี้อีกด้วย
ลงทุนหุ้นเทคโนโลยีต่างประเทศได้ง่าย ๆ ที่ InnovestX
การลงทุนมีความเสี่ยง แต่หากไม่ลงทุนเลยอาจเสี่ยงยิ่งกว่า โดยผู้ที่สนใจลงทุน ขณะนี้สามารถศึกษาและซื้อหุ้นต่างประเทศในกลุ่มเทคโนโลยีผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX ได้แบบง่าย ๆ แค่เปิดบัญชี เติมเงิน แลกสกุลเงิน และเริ่มลงทุนได้เลย แล้วจักรวาลการลงทุนจะอยู่ในมือคุณ นอกจากนั้น การลงทุนในหุ้นเทคโนโลยียังน่าสนใจยิ่งกว่าเดิม เพราะเรามีบริการ Robo Advisor เทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) ที่ให้บริการแนะนำการลงทุนแบบออนไลน์แก่นักลงทุนทั่วไป โดยการแนะนำการลงทุนเป็นบริการในหมวดบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ซึ่งรวมการจัดการการลงทุน (Investment Management) ที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor) และการวางแผนทางการเงิน (Financial Planning) เข้าไว้ด้วยกัน จุดเด่นคือการตัดสินใจลงทุนตามสถิติและความน่าจะเป็นจริง ๆ โดยตัด ‘ความรู้สึกและอารมณ์’ ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่สุดในการลงทุนของคนออกไป เริ่มต้นลงทุนง่าย ๆ ด้วยงบเพียง 5,000 บาทเท่านั้น ดาวน์โหลดแอป InnovestX ได้แล้ววันนี้ที่ App Store และ Google Play Store
คำเตือน
* การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน