ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}

AI เลือกหุ้นแม่นจริงไหม มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง?

blog_list_heading
02 ส.ค. 2566;
4454
แชร์บทความนี้
test_blog_details_img

เนื้อหาโดยรวม

    AI เลือกหุ้นแม่นจริงไหม? มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง และปัจจุบันมี AI ตัวไหนที่นักลงทุนใช้ในการวิเคราะห์หุ้นแบบจริงจังที่ให้ผลตอบแทนที่ดีจริง อ่านต่อที่นี่

การใช้ AI เลือกและวิเคราะห์หุ้น

AI เลือกหุ้นได้เก่งกว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์จริงไหม?

เมื่อช่วงหลายเดือนก่อน หลายคนคงเคยได้อ่านข่าว AI ที่สามารถช่วยเลือกหุ้นได้อย่างแม่นยำ จนสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าวอร์เรน บัฟเฟตต์ ทำให้นักลงทุนหลายคน โดยเฉพาะมือใหม่สนใจและตั้งข้อสงสัยว่า AI จะสามารถช่วยในการลงทุนได้จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่คำโฆษณาเท่านั้น

รู้จัก AI ที่ช่วยคัดหุ้นดี วิเคราะห์หุ้นเด็ด

AI เป็นเทคโนโลยีที่เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเข้ามาช่วยให้การทำงานของเราง่ายและรวดเร็วกว่าเดิม ด้วยความที่สามารถวิเคราะห์และประมวลผลจากข้อมูลจำนวนมากได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที อีกทั้งยังสามารถเรียนรู้ (Learning) และพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้นได้ ทำให้ AI กลายเป็นผู้ช่วยคนเก่งที่แทรกซึมไปในทุกอุตสาหกรรม

เช่นเดียวกับแวดวงการเงินและการลงทุน อย่างการซื้อ-ขายหุ้น AI ก็ได้เข้ามามีบทบาทในการช่วยวิเคราะห์ รวมไปถึงการเลือกหุ้นที่น่าลงทุนได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ โดยการรวบรวมตัวเลข สถิติ ทั้งในเรื่องของผลประกอบการ ราคา อัตราเงินเฟ้อ และปัจจัยอื่น ๆ ที่กระทบต่อราคาซื้อขาย มาวิเคราะห์และประมวลผลให้แก่นักลงทุนเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ หรือแม้แต่เลือกหุ้นที่ใช่ใส่ลงไปในพอร์ต

ปัจจุบันได้มีการพัฒนา AI ที่ช่วยเลือกหุ้นที่น่าลงทุน โดยเปิดให้คนทั่วไปได้ใช้งาน ซึ่งมี AI ตัวที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

Danelfin

Danelfin เป็นแพลตฟอร์ม AI ที่ใช้วิเคราะห์และให้คะแนนหุ้นและ ETF มากกว่า 10,000 รายการต่อวัน โดยเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนบนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้อง สามารถทำนายอนาคตได้อย่างแม่นยำ โดยปราศจากอคติ เหมาะทั้งนักลงทุนมือใหม่และนักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ อีกทั้งยังใช้งานง่าย โดย Danelfin เป็นหนึ่งใน AI เลือกหุ้นที่สามารถใช้สำหรับการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ChatGPT

ในช่วงปีที่ผ่านมา ChatGPT เป็นหนึ่งใน AI ที่มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูล การวิเคราะห์ และการเป็นผู้ช่วยในการตอบคำถามต่าง ๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การใช้ Open AI: Chat GPT ในการวิเคราะห์หุ้นตัวที่น่าสนใจ

ChatGPT จะแตกต่างจาก Danelfin ตรงที่ เราจะต้องป้อนคำสั่ง Prompt ในการให้ AI ช่วยวิเคราะห์หุ้นแบบรายตัว โดยสามารถสอบถามเกี่ยวกับงบการเงิน วิเคราะห์จุดอ่อน ประสิทธิภาพในอดีตและอนาคต วิเคราะห์ความเสี่ยง รวมถึงการประเมินราคาหุ้นต่าง ๆ ได้อย่างละเอียดและรวดเร็ว ทำให้สามารถลดขั้นตอนในการหาข้อมูลได้

Quantitative Investment Management

Quantitative investment เป็นรูปแบบการลงทุนอย่างหนึ่งที่ใช้อัลกอริทึมเชิงตัวเลขและสถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลหุ้นในการลงทุน ซึ่งปัจจุบันมีการนำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์ โดยจะช่วยวิเคราะห์ตัวเลขที่มีจำนวนมหาศาลและสรุปออกมาให้แก่นักลงทุน

Robo Advisor

นักลงทุนไทยคงจะคุ้นเคยกับบริการ Robo Advisor ซึ่งเป็น AI ที่ช่วยสร้างพอร์ตการลงทุนแบบอัตโนมัติ โดยปัจจุบันในประเทศไทยเปิดให้บริการเพียงการเลือกกองทุนรวมเท่านั้น แต่ยังไม่ได้เปิดให้ AI เลือกหุ้น และปรับแต่งพอร์ตหุ้นได้

ทำไม AI ถึงช่วยเราเลือกหุ้นได้

ทำไม AI ถึงช่วยเราในการตัดสินใจเรื่องการลงทุนได้?

ที่จริงแล้วการใช้ AI เลือกหุ้นไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะบรรดาบริษัทด้านการเงิน และ Hedge Fund ต่างก็ใช้ AI ในการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลมานานแล้ว แต่เพิ่งมีการนำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์หุ้นอย่างแพร่หลายให้กับนักลงทุนรายย่อย ซึ่งการใช้ AI มีข้อดีดังต่อไปนี้

1. สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว

การเล่นหุ้น ไม่ใช่เรื่องของดวงหรือโชคชะตา แต่เป็นเรื่องของการวิเคราะห์ข้อมูลและปัจจัย ที่ส่งผลต่อราคาหุ้น ไม่ว่าจะเป็นผลการดำเนินงาน วิสัยทัศน์ ไปจนถึงปัจจัยภายนอกอย่างการเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ เสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้มีจำนวนมหาศาล และใช้เวลาในการรวบรวม ซึ่ง AI สามารถวิเคราะห์และประมวลข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

2. มีความแม่นยำสูง ลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากคน

เนื่องจาก AI มีการเรียนรู้ ยิ่งมีผู้ใช้งานมากเท่าไร AI ก็จะยิ่งฉลาดขึ้นเท่านั้น การวิเคราะห์และประมวลผลของ AI จึงมีความแม่นยำสูง และช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากการทำงานของคนได้

3. ราคาถูกกว่าการจ้างที่ปรึกษาด้านการเงิน

สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา หรือไม่มีความรู้ด้านการเงินการลงทุนมากนัก การจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยดูแลและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่การลงทุนของเราจึงเป็นทางเลือกที่ใช่ แต่ก็แลกมาด้วยค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างสูง ทำให้ต้องลงทุนด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาลถึงจะคุ้มค่า แต่การใช้ AI เป็นที่ปรึกษาทางการเงินจะช่วยลดค่าใช้จ่าย ที่สำคัญยังมีความเป็นกลาง และไม่มีอคติใด ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง

4. ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้องในการตัดสินใจ

อารมณ์ความรู้สึกเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องพึงระวังและควบคุมเอาไว้ให้ดี เพราะหากว่ามีอารมณ์ความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง และบดบังข้อเท็จจริงเมื่อไร โอกาสที่จะลงทุนพลาดก็มีมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งข้อดีของ AI คือ เลือกและวิเคราะห์หุ้นด้วยข้อมูลและข้อเท็จจริงเท่านั้น ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง

5. ช่วยให้นักลงทุนมือใหม่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นได้ง่ายกว่าเดิม

AI สามารถช่วยเลือกหุ้นจากปัจจัยที่ส่งผลด้านราคาต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว สามารถให้คำแนะนำได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการปรับแต่งพอร์ตการลงทุนอย่างเหมาะสม ที่สำคัญคือ ไม่ต้องเริ่มลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก

ข้อจำกัดในการในการใช้ AI วิเคราะห์หุ้น

แม้ว่า AI จะมีข้อดีมากมาย แต่ปัจจุบันการใช้ AI ในการวิเคราะห์หุ้นก็ยังมีข้อจำกัดอยู่เช่นกัน

1. วิเคราะห์ได้เฉพาะข้อมูลในอดีต

AI ยังไม่สามารถนำข้อมูลปัจจุบันที่เพิ่งเกิดขึ้นมาใช้ในการวิเคราะห์หรือประกอบการตัดสินใจได้ ทำให้อาจมีการตัดสินใจที่ผิดพลาดตามมา

2. ไม่เหมาะกับตลาดที่มีความผันผวนสูง

ด้วยเหตุที่ข้อมูลที่ AI นำมาวิเคราะห์มักจะเป็นข้อมูลในอดีต ไม่ใช่ข้อมูลปัจจุบัน จึงไม่เหมาะกับตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือมีความผันผวนสูง อย่างเช่น ประเทศที่การเมืองขาดเสถียรภาพ หรือมีนโยบายทางการเงินที่ไม่แน่นอน

ใช้ AI ในการเลือกหุ้นอย่างไรให้เวิร์ก?

เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า AI ช่วยให้เราเลือกหุ้นได้แม่นยำยิ่งขึ้น แต่การปล่อยให้ AI เลือก โดยปราศจากการตัดสินใจของคนอาจจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ ด้วยเหตุนี้ เราจึงควรนำข้อมูลที่ได้ มาวิเคราะห์และพิจารณาก่อนตัดสินใจเสมอ

ที่สำคัญ เราไม่ควรจะปล่อยให้ AI เป็นผู้ดำเนินการโดยปราศจากการมอนิเตอร์ และปรับเปลี่ยนแผนให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะการที่ AI เลือกหุ้นได้ชนะวอร์เรน บัฟเฟตต์ได้ ไม่ได้มีแค่ AI เป็นปัจจัยสำคัญ แต่ต้องใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการลงทุนเสริมไปด้วย

สุดท้าย คำถามที่ว่า AI ชนะวอร์เรน บัฟเฟตต์ได้ไหม คำตอบคือ “ได้” และมีคนทำได้จริง แต่ก็ยังต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ของนักลงทุนอยู่ดี ซึ่งคนที่ใช้ AI ในการช่วยเทรดหุ้นจนได้ผลตอบแทนเหนือวอร์เรน บัฟเฟตต์ก็คือ จิม ไซมอนส์ (Jim Simons) นักเทรดสาย Quant ที่ได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 39% เอาชนะบัฟเฟตต์ที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 20% เรียกได้ว่าเครื่องมือเลิศ นักลงทุนก็เยี่ยม ส่งผลให้ได้ผลตอบแทนที่สูงตามไปด้วยนั่นเอง

การลงทุนมีความเสี่ยง แต่หากไม่ลงทุนเลยอาจเสี่ยงกว่า ก้าวไปข้างหน้าสู่ตลาดการลงทุน กับ InnovestX จักรวาลการลงทุนที่ช่วยให้การลงทุนเป็นเรื่องง่าย พร้อมใช้ AI เป็นผู้ช่วยคนเก่งในการวิเคราะห์และเลือกหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจให้แก่คุณ ต้องการเปิดพอร์ตหุ้นออนไลน์ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน InnovestX ได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android ให้คุณลงทุนในทรัพย์สินที่ต้องการได้ทุกที่ ทุกเวลา

คำเตือน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

หัวข้ออื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ
กลับด้านบน