รู้จัก All Weather Portfolio: พอร์ตที่นักลงทุนระดับโลกอย่าง Ray Dalio ใช้เอาชนะทุกสภาพตลาด
ลองจินตนาการว่าพอร์ตการลงทุนของคุณคือ “เรือเดินสมุทร” เรือลำนี้ต้องออกเดินทางข้ามมหาสมุทรตลอดทั้งปี ผ่านทั้งท้องฟ้าแจ่มใส คลื่นลมสงบ, ฝนฟ้าคะนอง, พายุโหมกระหน่ำ, หรือแม้แต่หมอกหนาทึบที่มองไม่เห็นทาง
All Weather Portfolio คือการออกแบบ “เรือ” ให้แล่นได้อย่างมั่นคงในทุกสภาพอากาศของตลาดการเงิน
แนวคิดนี้ถูกพัฒนาโดย Ray Dalio นักลงทุนระดับตำนาน ผู้ก่อตั้งกองทุนยักษ์ใหญ่ Bridgewater Associates
เขามองว่าตลาดการเงินก็เหมือนฤดูกาล — มีทั้ง “ร้อน หนาว ฝน แห้งแล้ง” ซึ่งเปรียบได้กับ 4 ภาวะเศรษฐกิจหลัก:
- เศรษฐกิจเติบโต + เงินเฟ้อต่ำ (Disinflationary Growth) → หุ้นทำผลงานดี เพราะธุรกิจเติบโตและต้นทุนเงินต่ำ
- เศรษฐกิจชะลอตัว + เงินเฟ้อต่ำ (Recession)→ พันธบัตรให้ผลตอบแทนดี เพราะดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง
- เศรษฐกิจเติบโต + เงินเฟ้อสูง (Inflationary Growth)→ สินค้าโภคภัณฑ์และทองคำเด่น เพราะราคาสินค้าเพิ่มขึ้นตามเงินเฟ้อ
- เศรษฐกิจชะลอตัว + เงินเฟ้อสูง (Stagflation)→ ทองคำและพันธบัตรบางประเภทช่วยคุ้มกันพอร์ต
Dalio เชื่อว่า “ไม่มีใครทำนายฤดูกาลเศรษฐกิจได้แม่น 100%” ดังนั้น แทนที่จะพยายามเดาว่า “พรุ่งนี้ฝนจะตกหรือแดดจะออก” เขาจึงสร้างพอร์ตที่ พร้อมรับมือได้ทุกสถานการณ์ — ไม่ว่าตลาดจะเป็นแบบไหน
นี่จึงเป็นที่มาของชื่อ All Weather Portfolio หรือ “พอร์ตสำหรับทุกฤดูกาล” ซึ่งผสมผสานสินทรัพย์หลายประเภทเข้าด้วยกันในสัดส่วนที่คำนวณมาอย่างรอบคอบ เพื่อให้พอร์ตไม่เหวี่ยงแรงเกินไป และยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว
เจาะลึกแนวคิดและสัดส่วน ต้นแบบ การลงทุน All Weather Portfolio ของ Ray Dalio
มีสัดส่วนการลงทุนดังนี้ :
- หุ้น 30%
- VTI – Vanguard Total Stock Market (30%): ลงทุนในหุ้นสหรัฐทุกขนาด (Large, Mid, Small Cap) ครอบคลุมกว่า 4,000 บริษัท และทุกอุตสาหกรรม
- ตราสารหนี้ 55%
- TLT – iShares 20+ Year Treasury Bond (40%): ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุคงเหลือมากกว่า 20 ปี
- IEI – iShares 3-7 Year Treasury Bond (15%): ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุคงเหลือ 3–7 ปี
- สินค้าโภคภัณฑ์ 15%
- GLD – SPDR Gold Trust (7.5%): ลงทุนในทองคำแท่งจริง เก็บไว้ในคลังที่ปลอดภัย
- DBC – Invesco DB Commodity Tracking (7.5%): ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์หลายประเภท เช่น น้ำมัน, ก๊าซธรรมชาติ, ข้าวสาลี, ทองแดง
โดยมีการ Rebalance พอร์ตการลงทุน ทุกวันที่ 1 มกราคม ของทุกปี
เหตุผลของการจัดสัดส่วนแบบนี้:
- พันธบัตรจำนวนมากช่วยคุ้มครองพอร์ตในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวหรือภาวะเงินฝืด
- หุ้นช่วยให้พอร์ตเติบโตในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว
- ทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อหรือวิกฤตการณ์ต่าง ๆ
ผลตอบแทนย้อนหลัง:
Source: Bloomberg ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2025 โดยกำหนดให้น้ำหนักคงที่
Disclaimer: การทดสอบผลตอบแทนย้อนหลัง (Back testing) ดังกล่าวดำเนินการโดยใช้สินทรัพย์ตัวแทน ซึ่งอาจมิได้สะท้อนถึงสินทรัพย์ที่ใช้ลงทุนจริง ผลลัพธ์ที่ปรากฏอ้างอิงจากข้อมูลในอดีตและสมมติฐานที่กำหนดไว้ ซึ่งไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะสอดคล้องกับผลการดำเนินงานในอนาคตหรือสภาวะตลาดจริง การทดสอบย้อนหลังนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการอธิบายประกอบเท่านั้น
จากกราฟจะเห็นได้ว่า การลงทุนตามแนวทาง All Weather Portfolio มีความผันผวนต่ำกว่าการลงทุนในดัชนี MSCI ACWI และ SET Index อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีค่า Max Drawdown เพียง –23.18% ในขณะที่ MSCI ACWI และ SET Index มีค่าอยู่ที่ –33.70% และ –40.51% ตามลำดับ สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการจำกัดความเสี่ยงด้านขาลงได้อย่างชัดเจน ทำให้นักลงทุนสามารถถือลงทุนได้อย่างมั่นใจต่อเนื่องในระยะยาว และเพิ่มโอกาสบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้ง่ายยิ่งขึ้น
การลงทุนใน 5 กองทุนเพื่อเสริมการกระจายความเสี่ยงของพอร์ต
ในปี 2022 แม้ว่ากองทุน VTI, TLT, IEI และ GLD จะเผชิญกับผลตอบแทนติดลบ แต่กองทุน DBC ซึ่งลงทุนในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์สามารถสร้างผลตอบแทนเป็นบวกได้สูงถึง +20% ส่งผลให้พอร์ตการลงทุนโดยรวมได้รับการชดเชยและลดความเสียหายลงอย่างมีนัยสำคัญ
จากตารางจะเห็นว่า พอร์ต All Weather ไม่ได้มุ่งหวังที่จะเป็นพอร์ตที่ทำผลตอบแทนได้สูงที่สุดในแต่ละปี แต่มีเป้าหมายเพื่อสร้าง ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและมีความผันผวนต่ำ โดยจะเห็นได้จากตำแหน่งในตาราง โดยพอร์ตนี้มักจะอยู่ตรงกลางของตาราง ไม่เคยติดอันดับ 1 หรือ 2 แต่ก็ไม่เคยร่วงลงไปอยู่ท้ายสุดในแต่ละปี
โดยรวมแล้ว ภาพนี้แสดงให้เห็นว่าการกระจายความเสี่ยงในหลากหลายสินทรัพย์ (Diversification) เป็นสิ่งสำคัญ และพอร์ต All Weather เป็นตัวอย่างที่ดีของการลงทุนที่เน้นความมั่นคงและลดความผันผวนในระยะยาว
สรุป: All Weather Portfolio เหมาะกับคนที่ไม่อยากเดาว่าตลาดจะขึ้นหรือลง แต่ต้องการความมั่นคงในระยะยาว สามารถปรับใช้กับนักลงทุนไทยได้ โดยเลือกกองทุนหรือ ETF ที่มีนโยบายสอดคล้องกับสินทรัพย์แต่ละประเภทในพอร์ตนี้
ลงทุนอย่างมั่นใจ ในสไตล์ที่ผ่อนคลายแต่ไม่ประมาท พอร์ตนี้คือแนวคิดที่น่าพิจารณาและเก็บไว้เป็นแรงบันดาลใจ
คำเตือน: กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บล.อินโนเวสท์ เอกซ์
Reference:
Lazy Portfolio ETF. (n.d.). Ray Dalio All Weather Portfolio Allocation. Retrieved August 18, 2025, from https://www.lazyportfolioetf.com/allocation/ray-dalio-all-weather/
