ซื้อกองทุน SSF ตัวไหนดี ที่ได้ทั้งลดหย่อนภาษีและผลตอบแทน

จะดีแค่ไหน? ถ้าการลงทุนของเราจะสามารถเป็นได้ทั้งตัวช่วยในการลดหย่อนภาษี และเป็นโอกาสที่จะช่วยให้เรามีผลตอบแทนที่ดีเพื่ออนาคต ชวนรู้จัก "กองทุนรวม SSF" กองทุนรวมระยะยาวที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักลงทุนยุคใหม่ มาดูกันว่ากองทุนนี้คืออะไร มีจุดเด่นที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง พร้อมแนะนำกองทุน SSF ที่น่าลงทุน!

 

กองทุนรวม SSF คืออะไร?

กองทุน SSF (Super Saving Fund) คือ กองทุนรวมเพื่อการออม ที่รัฐบาลอนุญาตให้จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการออมในระยะยาวให้กับประชาชน ซึ่งเป็นกองทุนที่สามารถเลือกลงทุนได้ในหลายสินทรัพย์ และยังสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้อีกด้วย

 

กองทุน SSF ลงทุนในสินทรัพย์อะไรบ้าง?

ความน่าสนใจของกองทุน SSF ก็คือ การที่เราสามารถเลือกลงทุนในสินทรัพย์ได้หลากหลายประเภท เช่น หุ้นไทย, หุ้นต่างประเทศ, ตราสารหนี้, อสังหาริมทรัพย์, ทองคำ และอื่น ๆ อีกมากมาย นักลงทุนจึงสามารถเลือกลงทุนในกองทุน SSF เพื่อบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ และสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่มากขึ้นในระยะยาว

 

จุดเด่นของกองทุนรวม SSF

● สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของรายได้ทั้งปี โดยไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อนำมารวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนการออมแห่งชาติ, ประกันชีวิตแบบบำนาญ หรือการออมเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

● มีเงื่อนไขว่าต้องถือครองให้ครบ 10 ปีนับตั้งแต่วันซื้อ ทำให้นักลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในอนาคต

● มีการจ่ายผลตอบแทน 2 แบบ คือ แบบปันผล และแบบสะสมมูลค่า

     ○ แบบปันผล: เมื่อกองทุนที่เราเลือกลงทุนได้รับผลกำไร เราก็จะได้รับเงินปันผล โดยจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10%

     ○ แบบสะสมมูลค่า: เมื่อกองทุนที่เราเลือกลงทุนได้รับผลกำไร ผู้จัดการกองทุนก็จะสะสมผลกำไรนั้น ๆ ไว้ในกองทุน และนำไปลงทุนต่อ เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มมากขึ้น

● กองทุนรวม SSF ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อ และไม่จำเป็นต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี

 

กองทุนรวม SSF เหมาะกับใครบ้าง?

☑ คนที่มีเงินได้มากกว่า 150,000 บาท เมื่อหักลบกับค่าลดหย่อนต่าง ๆ แล้ว และกำลังมองหากองทุนมาเป็นตัวช่วยลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม

☑ คนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว

☑ คนที่ต้องการกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์

☑ คนที่มีรายได้และมีสภาพคล่องเหมาะกับการลงทุน

☑ คนที่เข้าใจถึงความเสี่ยงในการลงทุนเป็นอย่างดี 

 

ซื้อกองทุน SSF ตัวไหนดี? แนะนำกองทุน SSF น่าลงทุน!

สำหรับใครที่สนใจอยากจะลงทุนในกองทุน SSF แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรจะซื้อกองทุน SSF ตัวไหนดี เราสรุปมาไว้ให้แล้ว แนะนำกองทุน SSF น่าลงทุนฉบับปี 2566 แบ่งตามระดับความเสี่ยง ตอบโจทย์นักลงทุนทุกประเภท!

 

สายความเสี่ยงสูง

● KKP GNP-H-SSF

กองทุนรวมหน่วยลงทุนประเภท Feeder Fund ที่มีนโยบายลงทุนในกองทุนหลัก Capital group New Perspective Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในหุ้นสามัญทั่วโลก โดยผู้จัดการกองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทที่มีส่วนร่วมกับการเปลี่ยนแปลงด้านการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศของโลกในอนาคต

● K-VIETNAM-SSF

กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศเวียดนาม ที่ดำเนินธุรกิจหรือได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนาม

● B-INNOTECHSSF

กองทุนที่เน้นลงทุนในหมวดอุตสาหกรรมเทคโนโลยี มีการบริหารจัดการแบบ Active เน้นการปรับพอร์ตลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์โลก เพื่อโอกาสการเติบโตที่ดีภายใต้ความผันผวน

 

สายความเสี่ยงปานกลาง

● PRINCIPAL IPROPEN-SSF

กองทุนที่เน้นลงทุนในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์คุณภาพดี มีรายได้มั่นคง และกระจายการลงทุนไปยังกลุ่มประเทศในเอเชีย-แปซิฟิก อย่าง ไทย สิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย

● KKP INCOME-H-SSF

กองทุนรวมผสมที่ลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย ได้แก่ ลงทุนในหุ้น 35% ตราสารหนี้ 50% และสินทรัพย์อื่น ๆ อีก 50% เป็นกองทุนที่บริหารความเสี่ยงได้ดี และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

 

สายความเสี่ยงต่ำ

● UGIS-SSF

กองทุนรวมตราสารหนี้ทั่วโลก ที่เน้นการลงทุนแบบเชิงรุก มีการปรับสัดส่วนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอ

● KKP ACT FIXED-SSF

กองทุนรวมตราสารหนี้ ที่กระจายการลงทุนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศ มีความผันผวนต่ำ และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ

 

ลงทุนในกองทุนรวม SSF อย่างมั่นใจที่ InnovestX แอปฯ ที่รวบรวมทุกการลงทุนแบบครอบจักรวาล ให้คุณเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว มีกองทุนให้เลือกหลากหลาย พร้อมบริการลงทุนรายเดือนแบบอัตโนมัติ และบริการบริหารพอร์ตลงทุนอัจฉริยะ ให้คุณลดหย่อนภาษีได้สะดวกสบายแบบไม่ต้องส่งเอกสารเพิ่มเติม สมัครเลย

 

คำเตือน

* การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน