
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2025 Netflix ประกาศแผน แยกหุ้น (Stock Split) อัตรา 10 ต่อ 1 เพื่อให้ราคาต่อหุ้น “ดูเข้าถึงได้มากขึ้น” สำหรับพนักงานและนักลงทุนรายย่อย ผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2025 จะได้รับหุ้นเพิ่มอีก 9 หุ้นต่อทุก 1 หุ้นที่ถืออยู่ และหุ้นแบบใหม่จะเริ่มซื้อขายตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2025 เป็นต้นไป หลังประกาศข่าว หุ้น Netflix ปรับขึ้นราว 2–3% ในช่วงหลังเวลาทำการ (after-hours) สะท้อนมุมมองบวกของตลาดต่อแนวโน้มการเติบโตของบริษัท
เบื้องหลังการแตกพาร์: กลยุทธ์ที่มากกว่าแค่ตัวเลข
แม้การแยกหุ้นจะไม่เปลี่ยนมูลค่ารวมของการถือครอง แต่มันคือการจัดโครงสร้างจิตวิทยา ที่ชาญฉลาดในตลาดทุน ผู้ถือ 1 หุ้นก่อนวันที่ 10 พฤศจิกายน จะถือหุ้นรวม 10 หุ้นหลังแตกพาร์ ในขณะที่ราคาต่อหุ้นจะลดลงตามสัดส่วน (โดยทฤษฎีคือหาร 10) แต่สัดส่วนการเป็นเจ้าของยังคงเท่าเดิม
สิ่งที่ต่างออกไปคือ ความรู้สึกของผู้ถือหุ้นและสภาพคล่องในตลาด ราคาหุ้นที่ลดลงต่อหน่วยช่วยให้การซื้อขายคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนรายย่อยและพนักงานที่ได้รับสิทธิถือหุ้น (ESOP/RSU) ซึ่งมักมองราคาหุ้นที่จับต้องได้ เป็นแรงจูงใจเชิงจิตวิทยา
กลยุทธ์ที่อยู่เบื้องหลังการแตกพาร์
สองซีอีโอร่วม Ted Sarandos และ Greg Peters อธิบายว่า การแยกหุ้นครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้หุ้นของ Netflix เปิดกว้างสำหรับทุกคนมากขึ้น หลังจากราคาหุ้นทะยานขึ้นกว่า 80% ในรอบปี และแตะระดับราว 1000 ดอลลาร์ก่อนแตกพาร์
การปรับโครงสร้างนี้จะช่วยให้ราคาหลังการแยกอยู่ราว 100 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งดูเข้าถึงได้มากกว่า และสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบิ๊กเทคหลายรายอย่าง Amazon และ NVIDIA ที่เคยใช้วิธีเดียวกันเพื่อต่อยอดฐานผู้ถือหุ้น การเคลื่อนไหวนี้ยังช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อ (demand) และสร้าง market psychology เชิงบวก ในช่วงที่บริษัทกำลังขยายเสาหลักรายได้ใหม่
ผลกระทบต่อมูลค่าและมุมมองนักลงทุน
ในทางเทคนิค การแยกหุ้นไม่เปลี่ยนพื้นฐานทางการเงินของบริษัท กำไรต่อหุ้นอาจถูกหารตามสัดส่วน แต่มูลค่ารวมของบริษัท (market cap) ยังคงเท่าเดิม อย่างไรก็ตาม ในทางพฤติกรรม การแตกพาร์ช่วยเพิ่มสภาพคล่อง (liquidity) และทำให้หุ้นดูน่าซื้อ สำหรับนักลงทุนทั่วไปมากขึ้น
นักวิเคราะห์จำนวนมากมองว่านี่เป็นสัญญาณบวกที่สะท้อนความมั่นใจของ Netflix ในแนวโน้มธุรกิจ โดยเฉพาะเมื่อบริษัทอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ จากโมเดลรายได้แบบ Subscription-only สู่ Subscription + Advertising + Gaming ซึ่งกำลังกลายเป็นสามเสาหลักใหม่ของการเติบโต
ภาพรวมธุรกิจ Netflix: จาก Streaming สู่แพลตฟอร์มความบันเทิงครบวงจร
Netflix ยังคงเป็นผู้นำระดับโลกในตลาด Streaming Entertainment ด้วยสมาชิกแบบชำระเงินกว่า 300 ล้านรายในกว่า 190 ประเทศ รายได้หลักยังคงมาจากค่าสมาชิก (Subscription Revenue) แต่บริษัทกำลังเดินหน้าขยายฐานผ่านบริการ โฆษณา (Ad-supported tier) และ เกม (Gaming & Interactive Content)
รายได้จากโฆษณาเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตใหม่ โดย Netflix ตั้งเป้า ดับเบิลรายได้โฆษณาภายในปี 2025 เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่ไม่ขึ้นกับจำนวนสมาชิกเพียงอย่างเดียว ส่วนธุรกิจเกม แม้ยังไม่สร้างรายได้ที่มีนัยสำคัญ แต่ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือเพิ่ม Engagement และช่วยรักษาสมาชิกให้ใช้งานแพลตฟอร์มต่อเนื่องยิ่งขึ้น
สิ่งที่นักลงทุนควรจับตาต่อไป
บทสรุป: การแตกพาร์ที่มากกว่าแค่ตัวเลข
การแยกหุ้น 10 ต่อ 1 ของ Netflix ไม่ได้เป็นเพียงการทำให้ราคาดูถูกลง แต่เป็นการส่งสัญญาณถึง ความมั่นใจในอนาคตระยะยาว และความพร้อมในการขยายฐานผู้ถือหุ้นทั่วโลก การเคลื่อนไหวครั้งนี้ช่วยเพิ่มสภาพคล่อง กระตุ้นความสนใจของนักลงทุนทั่วโลก และเปิดโอกาสให้นักลงทุนหน้าใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในเส้นทางการเติบโต
ในขณะที่ Netflix เดินหน้าขยายจากการสตรีม ไปสู่ การสเกล อย่างเต็มรูปแบบ การแตกพาร์ครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนการเปิดประตูใหม่ ให้ทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว From Streaming to Scaling ของ Netflix ได้อย่างแท้จริง
สนใจลงทุนในหุ้น Netflix (NFLX) และหุ้นเติบโตอื่น ๆ เปิดประสบการณ์ลงทุนไร้ขีดจำกัดกับแอป InnovestX! เข้าถึง 23 ประเทศ 31 ตลาดทั่วโลกได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว เปิดบัญชีลงทุน
คลิกเลย! 👉 https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน