Keyword
ลงทุนก้าวแรก

Web 3.0 อนาคตของโลกดิจิทัล

23 Sep 24 4:00 PM
MakerDAO กับการรีแบรนด์ครั้งใหญ่
สรุปสาระสำคัญ

ปัจจุบันเราอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านจาก Web 2.0 ไปสู่แนวคิด Web 3.0 ซึ่งยังคงเป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง และถูกมองว่าเป็นยุคถัดไปของอินเทอร์เน็ตที่จะมาพร้อมกับการปฏิวัติการใช้งานและการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นอิสระ การควบคุมข้อมูลของผู้ใช้งานผ่านการกระจายอำนาจ (Decentralization) ผ่านเทคโนโลยี Blockchain โดยบทความนี้จะเล่าถึงวิวัฒนาการของอินเทอร์เน็ตจากยุค Web 1.0 จนถึง Web 3.0 พร้อมทั้งสำรวจบทบาทของเทคโนโลยีอย่างบล็อกเชน (Blockchain) และสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ที่ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของ Web 3.0

Web_3.0_no_text-(1).png

 

Web 1.0: อินเทอร์เน็ตยุคเริ่มต้น

Web 1.0 เกิดขึ้นในช่วงปลายยุค 1990s โดยลักษณะเด่นของอินเทอร์เน็ตยุคนี้คือการเป็นอินเทอร์เน็ตแบบอ่านอย่างเดียว (read-only) ที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่เป็นผู้รับข้อมูลอย่างเดียวจากเว็บไซต์ต่าง ๆ โดยที่ไม่มีการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้งานและผู้ให้บริการ หรือที่เรียกกันว่าเป็นเว็บแบบ สแตติก (static) ซึ่งเว็บเพจส่วนใหญ่จะเป็นข้อความธรรมดาที่ไม่ซับซ้อน และมักถูกสร้างขึ้นเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้น เนื่องจากในยุคนั้นอินเทอร์เน็ตมีความเร็วจำกัด ตัวอย่างของ Web 1.0 เช่น  Yahoo และ Google ซึ่งเน้นการผลิตคอนเทนต์ให้ผู้ใช้งานอ่านอย่างเดียว โดยรายได้จากโฆษณาส่วนใหญ่จะเป็นของผู้ให้บริการเว็บไซต์ทั้งหมด

 

Web-In_blog-(1).png

 

Web 2.0: อินเทอร์เน็ตแห่งการแลกเปลี่ยนข้อมูล

ในช่วงต้นยุค 2000s Web 2.0 ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่การใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเพียงแค่การอ่านข้อมูล อินเทอร์เน็ตในยุค Web 2.0 ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมีปฏิสัมพันธ์และสร้างเนื้อหาบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้ (read-write) เช่น Facebook, YouTube, และ Twitter เป็นต้น Web 2.0 มาพร้อมกับแนวคิดของเว็บแบบโต้ตอบ (interactive) ซึ่งผู้ใช้งานสามารถสร้างเนื้อหาได้เอง (user-generated content) และแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้ใช้งานคนอื่นได้ Web 2.0 ไม่เพียงแต่ส่งผลให้เกิดการเติบโตของอุตสาหกรรม social media และ e-commerce อย่างรวดเร็ว แต่ยังสร้างบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google และ Amazon ซึ่งมีอิทธิพลต่อโลกอินเทอร์เน็ตในยุคนี้ด้วย

 

 Web 3.0: ยุคใหม่ของอินเทอร์เน็ต

ในอนาคตอันใกล้ เรากำลังเข้าสู่ยุคของ Web 3.0 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ของโลกอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง โดย Web 3.0 จะมุ่งไปสู่การเป็นอินเทอร์เน็ตแบบกระจายศูนย์ (decentralized) ที่ข้อมูลไม่ได้ถูกจัดเก็บและควบคุมโดยบริษัทใหญ่ ๆ หรือเซิร์ฟเวอร์ใดเซิร์ฟเวอร์หนึ่งอีกต่อไป แต่ข้อมูลจะกระจายผ่านบล็อกเชน ทำให้มีความโปร่งใสและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การที่ข้อมูลไม่ได้ถูกจัดเก็บกับหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ส่งผลให้ผู้ใช้งานมีความเป็นเจ้าของข้อมูลของตัวเองอย่างแท้จริงและทำให้ผู้ใช้งานซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลกลับมามีอำนาจในการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของตนอีกครั้ง โดยเทคโนโลยีที่เป็นหัวใจหลักสำคัญของ Web 3.0 ได้แก่ Blockchain, Cryptocurrency, และ Smart Contracts ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมแบบ Peer-to-Peer (P2P) และเก็บข้อมูลได้โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง  ผู้ใช้งานจะได้รับความสะดวกและความปลอดภัยจากการใช้งานแบบไร้ตัวกลาง (decentralized) นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดของ Metaverse ที่จะทำให้อินเทอร์เน็ตก้าวข้ามจากการเป็นแพลตฟอร์มสองมิติ ไปสู่สามมิติ (3D) ที่ผู้ใช้งานสามารถมีปฏิสัมพันธ์กันในโลกเสมือนจริงได้อย่างไร้ขีดจำกัด (Techsauce) (Techsauce).

 

ความเชื่อมโยงกับ Blockchain และ Cryptocurrency

Web 3.0 มีความเกี่ยวข้องกับ Blockchain โดยตรง เทคโนโลยีบล็อกเชนช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสผ่านการเก็บข้อมูลในลักษณะที่ไม่สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ ทำให้การทำธุรกรรมออนไลน์ปลอดภัยมากขึ้น

 

ตัวอย่างกรณีศึกษาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Web 3.0

  1. Sign-in with Ethereum การนำ Ethereum Address มา login ได้ เช่นเดียวกับการลงชื่อเข้าใช้งานแพลตฟอร์มต่างๆ ด้วยบัญชี Facebook, Apple หรือ Google โดยเปลี่ยนจากการใช้ข้อมูลเพื่อเข้าสู่ระบบมาเป็นการใช้ Public Key และ Private Key แทน
  2. OpenSea: เป็น แพลตฟอร์มการซื้อขาย NFT บน Blockchain Ethereum ผู้สร้างสามารถออกแบบ NFT และซื้อขายแลกเปลี่ยนงานศิลปะได้โดยตรงแก่ผู้ซื้อ โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางต่างจากยุค Web 2.0 หรือก่อนหน้า และ ด้วยสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts) ผู้สร้างจะได้รับค่าลิขสิทธิ์ทุกครั้งที่ NFT มีการซื้อขายในตลาด โดยการทำธุรกรรมทั้งหมดโปร่งใสและตรวจสอบได้ผ่าน Blockchain

 

กรณีศึกษาเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงการใช้เทคโนโลยี Web 3.0 เพื่อสร้างรายได้จากการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ในด้านการพัฒนา Web 3.0 จะช่วยส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิจแบบไร้ศูนย์กลาง (Decentralized Economy) ซึ่งธุรกรรมการเงินและข้อมูลต่าง ๆ จะไม่จำเป็นต้องพึ่งพาธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินขนาดใหญ่ ขณะเดียวกัน การใช้งาน Smart Contract ที่สามารถดำเนินการอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในระบบ Blockchain ทำให้การทำธุรกรรมทางการเงินเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น เพราะไม่ต้องผ่านตัวกลางหรือกระบวนการตรวจสอบแบบดั้งเดิมที่ซับซ้อน เช่น การยืนยันผ่านสถาบันการเงิน นอกจากนี้ ความปลอดภัยก็เพิ่มขึ้นเนื่องจากข้อมูลธุรกรรมทั้งหมดถูกเก็บบน Blockchain ซึ่งมีการเข้ารหัสและกระจายข้อมูลไปยังผู้ใช้งานหลายจุด ทำให้ยากต่อการปลอมแปลงหรือแก้ไขข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ​(Techsauce) ​(Techsauce).

 

Web 3.0 กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกดิจิทัลอย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้อมูล การทำธุรกรรม หรือการพัฒนาประสบการณ์ออนไลน์ที่ล้ำสมัยขึ้น มีแนวโน้มว่าเทคโนโลยี Blockchain, AI, และ Cryptocurrency จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลใหม่ที่เป็นการกระจายศูนย์และโปร่งใส ผู้ใช้งานจึงควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลกอินเทอร์เน็ตนี้ในอนาคต

 

แหล่งข้อมูลอ้างอิง:

  1. What is Web 3.0 (Web3)

www.techtarget.com

  1. Web 3.0 คืออะไร ทำไมถึงเป็นอินเทอร์เน็ต The Next Era โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ในการสร้างจักรวาล Metaverse

techsauce.co

  1. Web 3.0 คืออะไร มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร ?

www.beartai.com

 

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจเกี่ยวกับ Web 3.0 และการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นในโลกดิจิทัล หากท่านสนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีอย่าง Web 3.0 และ Cryptocurrency สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและบทความจาก InnovestX เพื่อรับการอัปเดตล่าสุด ในโลกของการเงินดิจิทัลได้อย่างไม่พลาด ซึ่งจะเห็นได้ว่า คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัล ก็จัดเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่นักลงทุนอาจพิจารณานำมาจัดสรรในพอร์ตการลงทุนของตนเองเพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุน นักลงทุนที่มีความสนใจสามารถศึกษาและทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขาย Cryptocurrency การซื้อขาย Cryptocurrency และเริ่มต้นลงทุนได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX ที่รวมจักรวาลการลงทุนมาอยู่ในมือคุณ นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้หลากหลายผลิตภัณฑ์ ทั้งหุ้น และกองทุนรวมต่างประเทศ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันฟรีได้แล้ววันนี้ทั้งระบบ iOS และ Android

 

พิชิตเป้าหมายทางการเงินได้อย่างที่ตั้งใจ เริ่มลงทุนกับ InnovestX ได้แล้ววันนี้ แอปเดียวครบทุกจักรวาลการลงทุน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่อีเมล [email protected] หรือ เฟซบุ๊ก InnovestX

 

คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

 

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5