เพื่อตอบสนองเทรนด์การลงทุนของคนยุคนี้ที่เน้นความรวดเร็ว “ตราสารอนุพันธ์ (Bond Derivatives)” จึงได้ถือกำเนิดขึ้น และกลายเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีบทบาทสำคัญในตลาดการเงินโลก ทว่า สำหรับเทรดเดอร์หน้าใหม่หรือแม้แต่ผู้ที่มีประสบการณ์ ตราสารอนุพันธ์คือเรื่องที่ดูซับซ้อนและยากที่จะเข้าใจ ดังนั้น บทความนี้จึงจะพาไปทำความรู้จักกับเครื่องมือทางการเงินรูปแบบนี้อย่างละเอียด ตั้งแต่นิยามพื้นฐานไปจนถึงเคล็ดลับในการลงทุน ติดตามเลย
ตราสารอนุพันธ์ หรือ Derivatives คือสัญญาทางการเงินที่มีมูลค่าอ้างอิง (Derive) มาจากสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) อื่น ๆ เช่น หุ้น พันธบัตร สกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ หรือดัชนีตลาด โดยมูลค่าของตราสารอนุพันธ์จะเปลี่ยนแปลงไปตามการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์อ้างอิงนั้น ๆ
ตราสารอนุพันธ์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์หลักสองข้อ คือ:
⦁ การป้องกันความเสี่ยง (Hedging): ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาสินทรัพย์อ้างอิง
⦁ การเก็งกำไร (Speculation): ทำกำไรจากการคาดการณ์ทิศทางของราคาสินทรัพย์อ้างอิง
ประเภทของอนุพันธ์นั้นมีหลากหลาย แต่เราสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ได้ดังนี้
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าคือข้อตกลงระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายในการซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิงในอนาคต ณ ราคาและเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า สัญญานี้มีการซื้อขายในตลาดที่มีการกำกับดูแล (Regulated exchange) และมีมาตรฐานชัดเจน
ตัวอย่าง: เทรดเดอร์ซื้อสัญญา Futures ทองคำที่ราคา 30,000 บาทต่อออนซ์ โดยมีกำหนดส่งมอบในอีก 3 เดือน หากราคาทองคำในตลาดสูงกว่า 30,000 บาทต่อออนซ์ ณ วันครบกำหนด เทรดเดอร์จะได้กำไร แต่ถ้าต่ำกว่าก็จะขาดทุน
ออปชันเป็นสัญญาที่ให้สิทธิ์ (แต่ไม่ใช่ภาระผูกพัน) แก่ผู้ถือในการซื้อ (Call Option) หรือขาย (Put Option) สินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (Strike Price) ภายในระยะเวลาที่กำหนด
ตัวอย่าง: เทรดเดอร์ซื้อ Call Option ของหุ้น ABC ที่ราคาใช้สิทธิ 50 บาท ถ้าราคาหุ้นในตลาดสูงกว่า 50 บาท เทรดเดอร์สามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นในราคา 50 บาทและขายทำกำไรในตลาดได้ทันที
สัญญา Forward คล้ายกับ Futures แต่เป็นการตกลงกันระหว่างคู่สัญญาโดยตรง (Over-the-Counter) โดยไม่ได้ซื้อขายในตลาดที่มีการกำกับดูแล ทำให้มีความยืดหยุ่นมากกว่าในแง่ของเงื่อนไขสัญญา
ตัวอย่าง: บริษัทนำเข้าทำสัญญา Forward กับธนาคารเพื่อซื้อดอลลาร์สหรัฐฯ ในอนาคตที่อัตราแลกเปลี่ยนที่ตกลงกันไว้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงิน
Swaps คือข้อตกลงระหว่างสองฝ่ายในการแลกเปลี่ยนกระแสเงินสดในอนาคตตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้า โดยทั่วไปมักเกี่ยวข้องกับอัตราดอกเบี้ยหรืออัตราแลกเปลี่ยน
ตัวอย่าง: บริษัท A มีหนี้สินที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ในขณะที่บริษัท B มีหนี้สินที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ โดยทั้งสองบริษัทอาจตกลงทำ Interest Rate Swap เพื่อแลกเปลี่ยนภาระดอกเบี้ยระหว่างกัน
ตราสารอนุพันธ์คือการลงทุนที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยเทรดเดอร์ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน ซึ่งบทความนี้จะมาบอกให้ครบทั้งสองด้าน
การป้องกันความเสี่ยง (Hedging)
⦁ ตราสารอนุพันธ์ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาสินทรัพย์อ้างอิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
⦁ ตัวอย่างเช่น การที่บริษัทนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศสามารถใช้สัญญา Forward เพื่อล็อกอัตราแลกเปลี่ยน จึงช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงิน
โอกาสทำกำไรสูง (High Profit Potential)
⦁ ด้วยการใช้เงินลงทุนน้อยแต่มีโอกาสทำกำไรสูง (Leverage)
⦁ สัญญา Futures ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถควบคุมปริมาณสินทรัพย์จำนวนมากด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นที่น้อยกว่าการซื้อสินทรัพย์จริง
สภาพคล่องสูง (High Liquidity)
⦁ ตราสารอนุพันธ์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะที่ซื้อขายในตลาดที่มีการกำกับดูแล มีสภาพคล่องสูง
⦁ เทรดเดอร์สามารถเข้าและออกจากตำแหน่งการลงทุนได้อย่างรวดเร็ว
ความหลากหลาย (Diversity)
⦁ ประเภทของอนุพันธ์มีให้เลือกลงทุนหลากหลาย ตามความต้องการและกลยุทธ์การลงทุน
⦁ เทรดเดอร์สามารถเลือกลงทุนในสินทรัพย์อ้างอิงได้หลากหลายประเภท เช่น หุ้น พันธบัตร สกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ หรือแม้แต่ดัชนีตลาด
⦁ ช่วยในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน
การเข้าถึงตลาดที่ยากต่อการลงทุนโดยตรง
⦁ ตราสารอนุพันธ์คือตัวช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงตลาดหรือสินทรัพย์ที่อาจยากต่อการลงทุนโดยตรง
⦁ ตัวอย่างเช่น การลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ผ่านสัญญา Futures แทนการซื้อและเก็บรักษาสินค้าจริง
ความเสี่ยงสูง (High Risk)
⦁ ผลกระทบของ Leverage ทำให้สามารถเกิดการขาดทุนได้มากกว่าราคาทุนเริ่มต้น หรือที่เรียกกันว่า ‘พอร์ตแตก’ โดยเฉพาะในกรณีของ Futures และ Short Options
⦁ ความผันผวนของราคาตราสารอนุพันธ์มักสูงกว่าสินทรัพย์อ้างอิง ทำให้การบริหารความเสี่ยงทำได้ยากกว่า
ความซับซ้อน (Complexity)
⦁ ต้องใช้ความรู้ความเข้าใจสูงในการลงทุน
⦁ การประเมินมูลค่าของ Derivatives คือเรื่องที่ซับซ้อน และต้องใช้โมเดลทางคณิตศาสตร์ขั้นสูง
⦁ เทรดเดอร์มือใหม่อาจเข้าใจผิดเกี่ยวกับความเสี่ยงและกลไกการทำงานของตราสาร นำไปสู่การตัดสินใจลงทุนที่ผิดพลาด
ต้นทุนการทำธุรกรรม (Transaction Costs)
⦁ มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการลงทุนในสินทรัพย์อ้างอิงโดยตรง
⦁ ค่า Spread (ส่วนต่างระหว่างราคาเสนอซื้อและเสนอขาย) ของตราสารอนุพันธ์บางประเภทอาจกว้าง ทำให้ต้นทุนการเข้าและออกจากตำแหน่งสูง
⦁ ต้นทุนในการ Roll Over สัญญา (ต่ออายุสัญญา) สำหรับ Futures และ Options อาจสูงหากต้องการถือครองระยะยาว
ความเสี่ยงด้านคู่สัญญา (Counterparty Risk)
⦁ โดยเฉพาะในกรณีของ OTC Derivatives (ซื้อขายนอกตลาด) มีความเสี่ยงที่คู่สัญญาอาจไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง
⦁ แม้ในตลาดที่มีการกำกับดูแล ก็ยังมีความเสี่ยงจากการล้มละลายของ Clearing House หรือโบรกเกอร์
⦁ ศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้: ตราสารอนุพันธ์คือเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อน ดังนั้นก่อนเริ่มลงทุน จำเป็นต้องศึกษาและทำความเข้าใจอย่างละเอียดรอบด้าน
⦁ กำหนดกลยุทธ์การลงทุนที่ชัดเจน: ตั้งเป้าหมายว่าต้องการใช้ตราสารอนุพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงหรือเก็งกำไร จากนั้นวางแผนการลงทุนให้สอดคล้องกับเป้าหมายนั้น
⦁ บริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม: กำหนดจุด Stop Loss และ Take Profit ไว้ล่วงหน้า และอย่าลงทุนเกินกว่าที่สามารถรับความเสี่ยงได้
⦁ ติดตามข่าวสารและวิเคราะห์ตลาดอย่างสม่ำเสมอ: ราคาของตราสารอนุพันธ์มีความอ่อนไหวสูงต่อข่าวสารและปัจจัยต่าง ๆ ในตลาด การติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิดจะช่วยให้ตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น
⦁ เริ่มต้นด้วยการลงทุนขนาดเล็ก: เมื่อเริ่มต้น ควรลงทุนในปริมาณที่น้อยก่อนเพื่อเรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์
⦁ ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค: การวิเคราะห์กราฟ รวมถึงใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคต่าง ๆ สามารถช่วยในการคาดการณ์ทิศทางของราคาได้
⦁ ฝึกฝนด้วยบัญชีทดลอง: ก่อนลงทุนจริง ควรฝึกฝนการซื้อขายด้วยบัญชีทดลอง (Demo Account) เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับระบบและกลไกการทำงานของตราสารอนุพันธ์
เทรดเดอร์ที่สนใจอยากลงทุนในตลาดหุ้นอนุพันธ์ แต่ไม่รู้ว่าจะเปิดบัญชี TFEX ค่าคอมถูกที่ไหนดี ขอแนะนำ InnovestX ซื้อขายล่วงหน้าได้อย่างปลอดภัยและสะดวกกว่าใคร เพราะเทรดที่นี่สามารถเห็นราคาได้แบบ Real Time บน TradingView ทั้งยังง่ายต่อการดูกราฟ ใส่ Indicator และเทรด TFEX อนุพันธ์ต่าง ๆ รวมถึงตราสารหนี้อนุพันธ์ หุ้นไทย และ DR ได้ทันที ไม่ต้องสลับหน้าจอไปแอปอื่น สามารถเชื่อมต่อบัญชี InnovestX กับ TradingView ได้ง่าย ๆ ใน 3 ขั้นตอน ดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android การลงทุนมีความเสี่ยง แต่การไม่ลงทุนเลยอาจเสี่ยงยิ่งกว่า เริ่มลงทุนวันนี้เลย
คำเตือน
* การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
ข้อมูลอ้างอิง:
⦁ A Basic Guide To Financial Derivatives. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 จาก https://www.forbes.com/advisor/investing/derivatives/