ทำไมต้องลงทุนในธุรกิจกลุ่มอุตสาหกรรม Healthcare ?

ทำไมต้องลงทุนในธุรกิจกลุ่มอุตสาหกรรม Healthcare?

 

ปัจจุบันนี้ หนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีผู้คนให้ความสนใจจำนวนมาก คงจะต้องมีชื่อของกลุ่มอุตสาหกรรม Healthcare รวมอยู่ด้วย แล้วอะไรเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมในกลุ่มนี้เป็นที่น่าจับตามอง รวมถึงธุรกิจรูปแบบใดที่มาแรงจนทำให้นักลงทุนต้องหันมาให้ความสำคัญ วันนี้เราจะมาบอกให้รู้กัน พร้อมแนะนำกองทุนรวมหุ้นสุขภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศที่น่าสนใจ แต่จะมีตัวไหนน่าลงทุนบ้าง ติดตามได้เลย

 

 

 

ธุรกิจกลุ่ม Healthcare คืออะไร ?

 

 

ธุรกิจกลุ่ม Healthcare คือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล และการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล คลินิกทันตกรรม คลินิกความงาม การแพทย์ทางเลือก ไปจนถึงบริษัทผลิตและจัดจำหน่ายยา อาหารเสริม และอุปกรณ์เกี่ยวกับสุขภาพทุกรูปแบบ

ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจ Healthcare เติบโต และน่าลงทุน

 

แนวโน้มการเติบโตสูง

เนื่องจากโลกกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ บวกกับความตึงเครียดที่เกิดจากการทำงาน รวมถึงปัญหามลภาวะในปัจจุบัน ทำให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพของตนเองกันมากขึ้น ธุรกิจ Healthcare จึงมีแนวโน้มการเติบโตสูง

 

มีความต้องการสินค้าและบริการด้านสุขภาพมากขึ้น

มีความต้องการสินค้าและบริการด้านสุขภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ในปัจจุบันประชากรโลกมีอัตราการเจ็บป่วยที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโรคเรื้อรัง และโรคร้ายแรงต่าง ๆ อีกทั้งยังมีโรคอุบัติใหม่หลายโรคที่เกิดขึ้นอีกด้วย

 

รัฐบาลหลายประเทศให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบสาธารณสุขมากขึ้น

เนื่องจากอัตราการเจ็บป่วยและเสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้น แต่ตรงกันข้ามกับอัตราการเกิดที่น้อยลงทั่วโลก ทำให้รัฐบาลของหลายประเทศให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบสาธารณสุขมากยิ่งขึ้น ทำให้ธุรกิจ Healthcare เติบโตได้ดี

 

ด้วยปัจจัยเหล่านี้จึงช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรม Healthcare โดดเด่นในสายตาของนักลงทุน โดยมี 5 รูปแบบธุรกิจ Healthcare ที่เติบโตต่อเนื่องและมีแนวโน้มเป็นดาวเด่นในอนาคต

 

 

 

5 รูปแบบธุรกิจ Heathcare ที่เติบโตในปัจจุบัน และมีแนวโน้มเติบโตดีในอนาคต

 

 

1.ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ เนื่องจากโลกของเรากำลังเข้าใกล้ยุคสังคมผู้สูงอายุ ทำให้ธุรกิจ Healthcare ที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุเกิดขึ้นมากมาย เช่น บ้านพักคนชรา ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ รวมถึงบริการที่เกี่ยวข้องกับการชะลอวัย ยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

2.ธุรกิจเทคโนโลยีด้านสุขภาพ เมื่อผู้คนมีความต้องการในการดูแลตัวเองมากขึ้น ธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านการแพทย์และสุขภาพก็เติบโตตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีเพื่อการรักษาโรคทางไกล เทคโนโลยีเพื่อติดตามสุขภาพ เช่น อุปกรณ์สวมใส่ หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ ไปจนถึงเครื่องมือ AI เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล และวินิจฉัยโรค

 

3.ธุรกิจบริการด้านสุขภาพ ธุรกิจบริการด้านสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล คลินิกเฉพาะทาง บริการตรวจสุขภาพ หรือประกันสุขภาพ ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจ Healthcare ที่เติบโตได้ดีและน่าจับตามอง เพราะในปัจจุบันผู้คนเข้าไปใช้บริหารด้านสุขภาพกันมากขึ้น ด้วยเป้าหมายในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ปลอดโรค รวมถึงยังนิยมทำหัตถการด้านความงามกันมากขึ้นด้วย ธุรกิจยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์

 

4.ธุรกิจยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจด้าน Healthcare ที่เติบโตพร้อม ๆ กับความต้องการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนายาตัวใหม่ หรือยาสมุนไพรทางเลือก ไปจนถึงอุปกรณ์ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เข้ามาเสริมประสิทธิภาพการรักษาผู้ป่วย

 

5.ธุรกิจด้าน Wellness นอกจากการรักษาแล้ว อีกหนึ่งรูปแบบของธุรกิจ Healthcare ที่กำลังมาแรง ก็คือธุรกิจด้าน Wellness ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจฟิตเนส ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ รวมถึงสปารูปแบบต่าง ๆ

 

 

ข้อดีและข้อควรระวังในการลงทุนในธุรกิจ Healthcare

 

ข้อดี

• หุ้นสุขภาพทั้งในประเทศ และต่างประเทศมีแนวโน้มเติบโตสูง
• มีความเสี่ยงต่ำเพราะธุรกิจกลุ่ม Healthcare มีรายได้สม่ำเสมอ
• มีโอกาสในการกระจายความเสี่ยงมาก เพราะธุรกิจด้านสุขภาพแบ่งได้เป็นหลายกลุ่มย่อย
• เหมาะกับการลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว

 

ข้อเสีย

• จำเป็นต้องวิเคราะห์ และศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วน เพื่อเลือกลงทุนในอุตสาหกรรม Healthcare ที่มีศักยภาพ
• ธุรกิจด้านสุขภาพมีความเสี่ยงจากการแข่งขันในอุตสาหกรรม นโยบายของรัฐบาล และสภาวะเศรษฐกิจ
• ธุรกิจด้านสุขภาพยังคงมีความผันผวนไม่ต่างจากกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ

 

 

แนะนำกองทุนรวมที่ลงทุนในธุรกิจด้านสุขภาพ และเทรนด์โลก

 

หากสนใจลงทุนในธุรกิจกลุ่ม Healthcare กองทุนรวมถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่จะช่วยให้คุณสามารถเริ่มต้นลงทุนได้ไว และลดภาระในการศึกษา และวิเคราะห์ตลาดด้วยตัวเองได้ ซึ่ง InnovestX มีกองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นสุขภาพทั้งในประเทศ และต่างประเทศมาแนะนำ ได้แก่

 

1.กองทุน SCBGHC

2.กองทุน SCBGHCA

 

โดยทั้ง 2 กองทุนรวม จะเลือกลงทุนในหุ้น Mega Trends และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับด้านสุขภาพ โดยมีกลยุทธ์การลงทุนที่ผสมผสานการลงทุนในหุ้นการแพทย์หลากหลายกลุ่มเพื่อกระจายความเสี่ยง อีกทั้งยังจะลงทุนทั้งในหุ้นที่มีความทนทานต่อสภาวะเศรษฐกิจและกลุ่มหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตสูง โดยมีกองทุนหลักคือ Janus Henderson Global Life Science ที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มการแพทย์ทั่วโลกที่มีพื้นฐานดีและมีมูลค่าที่เหมาะสม ซึ่งจัดตั้งมายาวนานกว่า 20 ปี

 

สำหรับผู้ที่อยากลงทุนในกองทุนรวม แต่ไม่รู้ว่าจะเปิดพอร์ตหุ้นที่ไหนดี หรือเริ่มเปิดบัญชีกองทุนรวมเพื่อลงทุนในหุ้นกลุ่มสุขภาพอย่างไร มาเริ่มต้นลงทุนได้ง่าย ๆ ผ่าน InnovestX แอปพลิเคชันเดียวครบทุกจักรวาลการลงทุน ที่จะช่วยให้การลงทุนของคุณเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย ดาวน์โหลดได้ฟรีผ่านระบบ iOS และ Android สอบถามข้อมูลด้านการใช้งานเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-949-1999

 

 

ข้อมูลอ้างอิง:

Investing In The Healthcare Sector. สืบค้นเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 จาก https://www.investopedia.com/articles/stocks/08/investing-in-healthcare.asp

 

คำเตือน* การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน