wealthmanagement

รู้ทันความเสี่ยง และแนวทางกระจายความเสี่ยงจากกองทุนรวม

2 Aug 23 7:02 AM
General Pic
สรุปสาระสำคัญ

ความเสี่ยงจากกองทุนรวมเกิดได้จากหลายปัจจัยและมีอยู่หลายระดับ มารู้จักความเสี่ยงเหล่านี้พร้อมแนวทางการกระจายความเสี่ยงในกองทุนรวมได้ในบทความนี้

การลงทุนในกองทุนรวมเป็นการลงทุนที่ได้รับความนิยมอีกประเภทหนึ่ง ทั้งในกลุ่มนักลงทุนมือใหม่และมือโปร ซึ่งแน่นอนว่าการลงทุนทุกรูปแบบย่อมมีความเสี่ยง ไม่เว้นแม้แต่การลงทุนในกองทุนรวมก็เช่นเดียวกัน โดยในบทความนี้เหล่านักลงทุนจะได้รู้จักกับความเสี่ยงของการลงทุนในกองทุนรวม ที่เกิดขึ้นได้จาก 6 ปัจจัยหลัก อีกทั้งยังมีระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนจำเป็นจะต้องเรียนรู้ พร้อมแนวทางกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ที่นักลงทุนสามารถนำไปปรับใช้ได้ง่าย ๆ ติดตามได้เลย

 

ปัจจัยความเสี่ยงในการลงทุนกองทุนรวมมีอะไรบ้าง?

ความเสี่ยงจากกองทุนรวมนั้นสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะมี 6 ปัจจัยสำคัญเหล่านี้ ที่จะส่งผลต่อการลงทุนในกองทุนรวม

 

ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยงกองทุนรวม

 

1.ความเสี่ยงจากการผันผวนของอัตราดอกเบี้ย

ความเสี่ยงจากการผันผวนของอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Risk) เป็นความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนในกองทุนรวมทุกคนต้องเจอ เพราะเมื่ออัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดมีการเปลี่ยนแปลง ก็จะส่งผลกระทบต่อตราสารหนี้ และหลักทรัพย์อื่น ๆ ที่กองทุนรวมลงทุนอยู่ จึงทำให้เกิดความเสี่ยงต่อมูลค่าการลงทุนในกองทุนรวมของคุณ โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะมีทิศทางตรงข้ามกับอัตราดอกเบี้ย คือ เมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น มูลค่าการลงทุนในกองทุนจะต่ำลง แต่เมื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำลง มูลค่าการลงทุนในกองทุนจะสูงขึ้น

 

2.ความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของภาวะตลาดโดยรวม

ความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของภาวะตลาดโดยรวม (Market Risk) เป็นความเสี่ยงที่มาพร้อมกับการลงทุนแทบทุกประเภท เพราะเมื่อภาวะตลาดโดยรวมเปลี่ยนแปลง เช่น เกิดภาวะเศรษฐกิจซบเซาในระดับประเทศ หรือในระดับโลก ก็ย่อมส่งผลมาถึงราคาของหลักทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ที่กองทุนรวมลงทุนอยู่ด้วยเช่นกัน

 

3.ความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์ทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางนโยบาย การเปลี่ยนแปลงด้านการปกครอง และเหตุการณ์ไม่สงบในประเทศนั้น ๆ ย่อมก่อให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน ซึ่งแน่นอนว่าทำให้เกิดความเสี่ยงจากกองทุนรวมด้วยเช่นกัน เพราะการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนั้น (Political Risk) จะมีผลกระทบอย่างมีนัยต่อเศรษฐกิจโดยรวม

 

4.ความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่กองทุนรวมไปลงทุน

ความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่กองทุนรวมไปลงทุน (Company Risk) เป็นความเสี่ยงที่ขึ้นอยู่กับการบริการจัดการของบริษัทนั้น ๆ ที่กองทุนรวมเลือกเข้าไปลงทุน ไม่ว่าจะในรูปแบบหุ้น ตราสารหนี้ หรืออื่น ๆ

 

5.ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้

ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ (Credit Risk) เป็นความเสี่ยงที่เรียกว่าต่อเนื่องมาจากความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่กองทุนรวมเข้าไปลงทุน เพราะหากบริษัทนั้น ๆ บริหารจัดการได้ไม่ดีพอ อาจทำให้ไม่สามารถชำระเงินต้นและดอกเบี้ยได้ตามกำหนด ก็จะทำให้เกิดความเสี่ยงในการลงทุนต่อกองทุนรวมได้

 

6.ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่อง

ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่อง (Liquidity Risk) จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ หลักทรัพย์ที่กองทุนรวมลงทุนไว้มีอัตราการซื้อ - ขายไม่มากพอ ทำให้ขาดสภาพคล่องในการซื้อกองทุนเพิ่ม หรือขายออกในราคาและจำนวนที่ต้องการ

 

นอกจาก 6 ปัจจัยหลักเหล่านี้แล้ว ยังมีความเสี่ยงอื่น ๆ ด้วย เช่น ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือความเสี่ยงจากข้อจำกัดในการนำเงินลงทุนกลับประเทศ ซึ่งจะพบได้เมื่อไปลงทุนกับกองทุนรวมในสินทรัพย์ต่างประเทศ

 

8 ระดับความเสี่ยงของกองทุนรวม

เมื่อได้รู้จักกับปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความเสี่ยงจากกองทุนรวมกันไปแล้ว คราวนี้เรามาดูกันว่า กองทุนในรูปแบบต่าง ๆ จะอยู่ในระดับความเสี่ยงใดกันบ้าง

 

ตามนิยามของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะสามารถแบ่งระดับความเสี่ยงของกองทุนรวมเป็น 8 ระดับ เรียงตั้งแต่เสี่ยงน้อย ไปจนถึงเสี่ยงมากในระดับ 8 ดังนี้

  • ระดับ 1 กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด คือกองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ หมายถึงกองทุนที่ลงทุนในหลักทรัพย์ประเภท เงินฝาก, ตั๋วเงินคลัง และตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอายุไม่เกิน 1 ปีเป็นหลัก
  • ระดับ 2 กองทุนรวมตลาดเงินทั้งในและต่างประเทศ กองทุนรวมที่เสี่ยงในระดับ 2 หมายถึง กองทุนรวมตลาดเงินทั้งในและต่างประเทศ โดยกองทุนประเภทนี้จะลงทุนในหลักทรัพย์ที่เหมือนกับกองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ แต่จะมีบางส่วนที่ลงทุนในต่างประเทศ แต่จะต้องไม่เกิน 50% ของมูลค่าสินทรัพย์รวมทั้งหมด
  • ระดับ 3 กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงระดับ 3 จะลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปเป็นหลัก
  • ระดับ 4 คือ กองทุนรวมตราสารหนี้ กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงระดับ 4 จะลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทหุ้นกู้บริษัทเอกชนเป็นหลัก
  • ระดับ 5 คือ กองทุนรวมผสม กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงระดับ 5 จะเป็นการลงทุนที่จะกระจายอยู่ในเงินฝาก ตราสารหนี้ และหุ้นต่าง ๆ
  • ระดับ 6 คือ กองทุนรวมตราสารทุน หรือ กองทุนรวมหุ้น กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงระดับ 6 จะลงทุนในหลักทรัพย์อย่าง หุ้น หรือ ตราสารทุนเป็นหลัก โดยคิดเฉลี่ยรอบปีบัญชีแล้วเป็นสัดส่วนไม่น้อยกว่า 80% ของสินทรัพย์ทั้งหมดที่กองทุนนั้น ๆ ลงทุน
  • ระดับ 7 คือ กองทุนรวมหุ้นหมวดอุตสาหกรรม กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงระดับ 7 จะลงทุนในหลักทรัพย์ประเภท หุ้น หรือตราสารทุนที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะเป็นหลัก เช่น หุ้นที่ลงทุนในธุรกิจกลุ่มธนาคาร, พลังงาน, และโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น
  • ระดับ 8 คือ กองทุนรวมที่ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงระดับ 8 จะลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทสินทรัพย์ทางเลือกเป็นหลัก เช่น อสังหาริมทรัพย์ น้ำมันดิบ และทองคำ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 8+ ด้วยเช่นกัน ซึ่งหมายถึงกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงจากการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ และถูกกำกับไว้ในหนังสือชี้ชวนสำหรับกองทุนที่อนุญาตให้ลงทุนได้เฉพาะนักลงทุนสถาบันเท่านั้น โดยกองทุนเหล่านี้จะสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความซับซ้อนได้เกินกว่าที่กำหนด เช่น ตราสารอนุพันธ์ (Derivatives), การกู้ยืมเพื่อการลงทุนและธุรกรรม, Short Selling และอื่น ๆ

 

วิธีกระจายความเสี่ยงในการลงทุนกองทุนรวม

กระจายความเสี่ยงจากกองทุนด้วยการลงทุนในหลาย ๆ กองทุนรวม

จะเห็นได้ว่ากองทุนรวมนั้นมีความเสี่ยงจากหลายปัจจัย และสามารถแบ่งระดับความเสี่ยงของกองทุนรวมได้เป็น 8 ระดับ ดังนั้นเพื่อการจัดการความเสี่ยงของการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ เหล่านักลงทุนจำเป็นจะต้องมีวิธีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน โดยอาจเลือกใช้วิธีการเหล่านี้

 

1. เลือกลงทุนมากกว่า 1 กองทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงจากการดำเนินงานของกองทุน

2. เลือกกองทุนรวมที่ลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท เพื่อกระจายความเสี่ยงจากตลาดของสินทรัพย์แต่ละประเภท

3. เลือกซื้อ และขายกองทุนรวมตามความผันผวนของราคาสินทรัพย์ในกองทุน เพื่อกระจายความเสี่ยงจากมูลค่าที่เปลี่ยนแปลง

 

ได้รู้จักกับความเสี่ยงกองทุนรวมและวิธีกระจายความเสี่ยงในการลงทุนกันไปแล้ว หากนักลงทุนคนไหนสนใจอยากเริ่มลงทุนในกองทุนรวม สามารถเลือกลงทุนผ่าน InnovestX แอปพลิเคชันลงทุนที่รวมการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภทไว้ในแอปเดียว แถมมีตัวช่วยในการลงทุนมากมาย เช่น ฟีเจอร์ Wealth Idea ซึ่งเป็นฟีเจอร์เพลย์ลิสต์การลงทุน หากสนใจลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX สามารถเริ่มใช้งานได้ฟรีทั้งในระบบ iOS และ Android ให้คุณลงทุนในทรัพย์สินที่ต้องการได้ทุกที่ ทุกเวลา

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5