ความเสี่ยงจากกองทุนรวมเกิดได้จากหลายปัจจัยและมีอยู่หลายระดับ มารู้จักความเสี่ยงเหล่านี้พร้อมแนวทางการกระจายความเสี่ยงในกองทุนรวมได้ในบทความนี้
การลงทุนในกองทุนรวมเป็นการลงทุนที่ได้รับความนิยมอีกประเภทหนึ่ง ทั้งในกลุ่มนักลงทุนมือใหม่และมือโปร ซึ่งแน่นอนว่าการลงทุนทุกรูปแบบย่อมมีความเสี่ยง ไม่เว้นแม้แต่การลงทุนในกองทุนรวมก็เช่นเดียวกัน โดยในบทความนี้เหล่านักลงทุนจะได้รู้จักกับความเสี่ยงของการลงทุนในกองทุนรวม ที่เกิดขึ้นได้จาก 6 ปัจจัยหลัก อีกทั้งยังมีระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนจำเป็นจะต้องเรียนรู้ พร้อมแนวทางกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ที่นักลงทุนสามารถนำไปปรับใช้ได้ง่าย ๆ ติดตามได้เลย
ความเสี่ยงจากกองทุนรวมนั้นสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะมี 6 ปัจจัยสำคัญเหล่านี้ ที่จะส่งผลต่อการลงทุนในกองทุนรวม
ความเสี่ยงจากการผันผวนของอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Risk) เป็นความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนในกองทุนรวมทุกคนต้องเจอ เพราะเมื่ออัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดมีการเปลี่ยนแปลง ก็จะส่งผลกระทบต่อตราสารหนี้ และหลักทรัพย์อื่น ๆ ที่กองทุนรวมลงทุนอยู่ จึงทำให้เกิดความเสี่ยงต่อมูลค่าการลงทุนในกองทุนรวมของคุณ โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะมีทิศทางตรงข้ามกับอัตราดอกเบี้ย คือ เมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น มูลค่าการลงทุนในกองทุนจะต่ำลง แต่เมื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำลง มูลค่าการลงทุนในกองทุนจะสูงขึ้น
ความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของภาวะตลาดโดยรวม (Market Risk) เป็นความเสี่ยงที่มาพร้อมกับการลงทุนแทบทุกประเภท เพราะเมื่อภาวะตลาดโดยรวมเปลี่ยนแปลง เช่น เกิดภาวะเศรษฐกิจซบเซาในระดับประเทศ หรือในระดับโลก ก็ย่อมส่งผลมาถึงราคาของหลักทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ที่กองทุนรวมลงทุนอยู่ด้วยเช่นกัน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์ทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางนโยบาย การเปลี่ยนแปลงด้านการปกครอง และเหตุการณ์ไม่สงบในประเทศนั้น ๆ ย่อมก่อให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน ซึ่งแน่นอนว่าทำให้เกิดความเสี่ยงจากกองทุนรวมด้วยเช่นกัน เพราะการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนั้น (Political Risk) จะมีผลกระทบอย่างมีนัยต่อเศรษฐกิจโดยรวม
ความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่กองทุนรวมไปลงทุน (Company Risk) เป็นความเสี่ยงที่ขึ้นอยู่กับการบริการจัดการของบริษัทนั้น ๆ ที่กองทุนรวมเลือกเข้าไปลงทุน ไม่ว่าจะในรูปแบบหุ้น ตราสารหนี้ หรืออื่น ๆ
ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ (Credit Risk) เป็นความเสี่ยงที่เรียกว่าต่อเนื่องมาจากความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่กองทุนรวมเข้าไปลงทุน เพราะหากบริษัทนั้น ๆ บริหารจัดการได้ไม่ดีพอ อาจทำให้ไม่สามารถชำระเงินต้นและดอกเบี้ยได้ตามกำหนด ก็จะทำให้เกิดความเสี่ยงในการลงทุนต่อกองทุนรวมได้
ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่อง (Liquidity Risk) จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ หลักทรัพย์ที่กองทุนรวมลงทุนไว้มีอัตราการซื้อ - ขายไม่มากพอ ทำให้ขาดสภาพคล่องในการซื้อกองทุนเพิ่ม หรือขายออกในราคาและจำนวนที่ต้องการ
นอกจาก 6 ปัจจัยหลักเหล่านี้แล้ว ยังมีความเสี่ยงอื่น ๆ ด้วย เช่น ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือความเสี่ยงจากข้อจำกัดในการนำเงินลงทุนกลับประเทศ ซึ่งจะพบได้เมื่อไปลงทุนกับกองทุนรวมในสินทรัพย์ต่างประเทศ
เมื่อได้รู้จักกับปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความเสี่ยงจากกองทุนรวมกันไปแล้ว คราวนี้เรามาดูกันว่า กองทุนในรูปแบบต่าง ๆ จะอยู่ในระดับความเสี่ยงใดกันบ้าง
ตามนิยามของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะสามารถแบ่งระดับความเสี่ยงของกองทุนรวมเป็น 8 ระดับ เรียงตั้งแต่เสี่ยงน้อย ไปจนถึงเสี่ยงมากในระดับ 8 ดังนี้
นอกจากนี้ ยังมีกองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 8+ ด้วยเช่นกัน ซึ่งหมายถึงกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงจากการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ และถูกกำกับไว้ในหนังสือชี้ชวนสำหรับกองทุนที่อนุญาตให้ลงทุนได้เฉพาะนักลงทุนสถาบันเท่านั้น โดยกองทุนเหล่านี้จะสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความซับซ้อนได้เกินกว่าที่กำหนด เช่น ตราสารอนุพันธ์ (Derivatives), การกู้ยืมเพื่อการลงทุนและธุรกรรม, Short Selling และอื่น ๆ
จะเห็นได้ว่ากองทุนรวมนั้นมีความเสี่ยงจากหลายปัจจัย และสามารถแบ่งระดับความเสี่ยงของกองทุนรวมได้เป็น 8 ระดับ ดังนั้นเพื่อการจัดการความเสี่ยงของการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ เหล่านักลงทุนจำเป็นจะต้องมีวิธีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน โดยอาจเลือกใช้วิธีการเหล่านี้
1. เลือกลงทุนมากกว่า 1 กองทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงจากการดำเนินงานของกองทุน
2. เลือกกองทุนรวมที่ลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท เพื่อกระจายความเสี่ยงจากตลาดของสินทรัพย์แต่ละประเภท
3. เลือกซื้อ และขายกองทุนรวมตามความผันผวนของราคาสินทรัพย์ในกองทุน เพื่อกระจายความเสี่ยงจากมูลค่าที่เปลี่ยนแปลง
ได้รู้จักกับความเสี่ยงกองทุนรวมและวิธีกระจายความเสี่ยงในการลงทุนกันไปแล้ว หากนักลงทุนคนไหนสนใจอยากเริ่มลงทุนในกองทุนรวม สามารถเลือกลงทุนผ่าน InnovestX แอปพลิเคชันลงทุนที่รวมการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภทไว้ในแอปเดียว แถมมีตัวช่วยในการลงทุนมากมาย เช่น ฟีเจอร์ Wealth Idea ซึ่งเป็นฟีเจอร์เพลย์ลิสต์การลงทุน หากสนใจลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX สามารถเริ่มใช้งานได้ฟรีทั้งในระบบ iOS และ Android ให้คุณลงทุนในทรัพย์สินที่ต้องการได้ทุกที่ ทุกเวลา