กองทุนรวมกับเรา ?
อื่นๆ ครอบจักรวาล ช่วยให้คุณเข้าถึงการลงทุนได้ง่าย
เพียงแค่ปลายนิ้ว
InnovestX Wealth Advisory,
เว็บไซต์ InnovestX, รายการและข่าวสารในโซเชียลมีเดีย InnovestX
เพิ่มโอกาสทำกำไร
หุ้นสหรัฐฯ S&P500
SCBS&P500(A)
แข็งแกร่งและมีมูลค่ามากที่สุด
ในสหรัฐฯ
เวียดนาม
PRINCIPAL VNEQ-A
เศรษฐกิจแห่งเอเชีย กับหุ้นที่มี
ศักยภาพและโอกาสเติบโตสูง
เซมิคอนดักเตอร์
SCBSEMI(A)
หัวใจหลักของ A.I. และ
นวัตกรรมแห่งโลกอนาคต
ตราสารหนี้โลก
PIMCO GIS Income เป็นกอง
ทุนหลัก และเพิ่มโอกาสรับผล
ตอบแทน ด้วยนโยบาย
Unhedged
ตราสารหนี้โลก
PIMCO GIS Income เป็นกอง
ทุนหลัก และเพิ่มโอกาสรับผล
ตอบแทน ด้วยนโยบาย
Unhedged
- โครงการนี้ให้สิทธิ์เฉพาะบุคคลธรรมดาที่มีบัญชีลงทุนกับบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ ที่ทำรายการซื้อกองทุนกับ InnovestX รับส่วนลด 50% ค่าธรรมเนียมเมื่อซื้อหน่วยลงทุน (Front-end fee) และค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเข้า (Switching in fee) สำหรับกองทุนที่เข้าร่วมรายการ
- ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 สิงหาคม 2567 สำหรับกองทุน PRINCIPAL VNEQ-A, SCBS&P500, SCBS&P500(A), SCBSEMI(A), SCBWORLD(A) และ UGISFX-N เท่านั้น
- สำหรับส่วนลดค่าธรรมเนียม นับเฉพาะค่าธรรมเนียมเมื่อซื้อหน่วยลงทุน (Front-end fee) และค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเข้า (Switching in fee) เท่านั้น ไม่รวมค่าธรรมเนียมอื่น เช่น ค่าธรรมเนียมการจัดการ, ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายหลักทรัพย์ (Brokerage Fee) และ อื่นๆ (ถ้ามี)
- มูลค่าขั้นต่ำของการลงทุน เป็นไปตามเงื่อนไขการลงทุนของแต่ละกองทุนนั้น ๆ
- ผู้ลงทุนสามารถทำรายการซื้อกองทุนได้ทุกช่องทางการลงทุนกับ InnovestX
- การลดค่าธรรมเนียมในโครงการดังกล่าว เป็นการลดค่าธรรมเนียมโดย บลจ. ที่เข้าร่วมโครงการ สำหรับช่องทางการซื้อขายผ่าน บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ เท่านั้น
- การแสดงข้อมูลอัตราค่าธรรมเนียมในแอปพลิเคชัน InnovestX และ Fund Fact Sheet จะยังคงแสดงเป็นค่าธรรมเนียมปกติ แต่ในขั้นตอนธุรกรรมการซื้อผู้ลงทุนจะได้รับยกเว้น ค่าธรรมเนียมเมื่อซื้อหน่วยลงทุน (Front-end fee) ในขั้นตอนนี้แบบอัตโนมัติ
- สำหรับรายการซื้อกองทุนที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะไม่ได้รับคะแนนสะสม INVX Point
- ลูกค้าที่ได้รับสิทธิประโยชน์นี้ไม่สามารถแลกเปลี่ยน หรือทอนเป็นเงินสด หรือเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งอื่นใด หรือโอนสิทธิ์ให้แก่บุคคลอื่น
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ข้อกำหนด รายละเอียด สิทธิประโยชน์ และยกเลิกกิจกรรมนี้โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า และในกรณีมีข้อพิพาท ผลการพิจารณาและคำตัดสินของบริษัทฯ ถือเป็นสิทธิอันเด็ดขาดและถือเป็นที่สุด
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทางอีเมลได้ที่ contact@innovestx.co.th หรือส่งข้อความบนเพจเฟซบุ๊ก InnovestX
การลงทุนน่าสนใจ
และ SCBS&P500 (ชนิดจ่ายเงินปันผล)
และ SCBS&P500 (ชนิดจ่ายเงินปันผล)
- S&P500 Index มีมูลค่าตลาดกว่า 42 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ครอบคลุมประมาณ 80% ของมูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่เป็นตลาดหุ้น ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คิดเป็นมูลค่าตลาดกว่า 51.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายหุ้นได้อย่างสะดวกรวดเร็ว มีเสถียรภาพสูง มีกฎระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวห้องกับตลาดหุ้นมีความโปร่งใส ชัดเจน และมีการบังคับใช้อย่างเคร่งครัด
- S&P500 Index มีมูลค่าตลาดกว่า 42 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ครอบคลุมประมาณ 80% ของมูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่เป็นตลาดหุ้น ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คิดเป็นมูลค่าตลาดกว่า 51.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายหุ้นได้อย่างสะดวกรวดเร็ว มีเสถียรภาพสูง มีกฎระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวห้องกับตลาดหุ้นมีความโปร่งใส ชัดเจน และมีการบังคับใช้อย่างเคร่งครัด มีการกระจายการลงทุนครอบคลุมหุ้นขนาดใหญ่ 500 บริษัทในสหรัฐฯ ซึ่งครอบคลุมหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มเทคโนโลยีกลุ่มการเงิน กลุ่มสุขภาพ และกลุ่มบริโภค เป็นต้น
- S&P500 Index มีมูลค่าตลาดกว่า 42 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ครอบคลุมประมาณ 80% ของมูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่เป็นตลาดหุ้น ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คิดเป็นมูลค่าตลาดกว่า 51.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายหุ้นได้อย่างสะดวกรวดเร็ว มีเสถียรภาพสูง มีกฎระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวห้องกับตลาดหุ้นมีความโปร่งใส ชัดเจน และมีการบังคับใช้อย่างเคร่งครัด
- มีการกระจายการลงทุนครอบคลุมหุ้นขนาดใหญ่ 500 บริษัทในสหรัฐฯ ซึ่งครอบคลุมหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มเทคโนโลยีกลุ่มการเงิน กลุ่มสุขภาพ และกลุ่มบริโภค เป็นต้น
- ประกอบด้วยหุ้นชั้นนำที่มีชื่อเสียงมากมายและเป็นผู้นำตลาดในด้านต่างๆ เช่น Apple, Microsoft, Alphabet, Amazon, Meta, Nvidia และ Tesla เป็นต้น
- สามารถลงทุนผ่าน ETFs ที่เป็นมีการลงทุนแบบ Passive Managed ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่ากองทุนที่เป็น Active Managed
- ลงทุนใน iShares Core S&P 500 ETF (IVV) ซึ่งกองทุนหลักมีเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของ S&P500 Index
- ทั้งนี้กองทุนหลัก IVV ถือว่าเป็นหนึ่งใน ETFs ที่อิงดัชนี S&P 500 โดยมี Expense Ratio และ Tracking Error ในระดับต่ำ
- ค่าธรรมเนียมเมื่อซื้อกองทุน (Front-end Fee) = 0.25% สำหรับช่วงโปรโมชันเมื่อซื้อผ่าน InnovestX (จากปกติ 0.50%)
- ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายหลักทรัพย์ (Brokerage Fee) = 0.045%
- Microsoft : บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์และบริการเทคโนโลยีต่างๆ เช่น ระบบปฏิบัติการ Windows, ซอฟต์แวร์ Office Suite, บริการด้านคลาวด์และโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี Microsoft Azure เป็นต้น
- Apple : บริษัทผู้ผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีชื่อเสียง เช่น iPhone, iPad, MacBook รวมถึงระบบปฏิบัติการ iOS และ macOS ที่เป็นที่นิยมใช้งานกันแพร่หลายทั่วโลก
- Nvidia : บริษัทที่พัฒนาและผลิตหน่วยประมวลผลกราฟิกและระบบประมวลผลเสมือนจริง ที่ถูกนำไปใช้งานทั้งด้านการสร้างกราฟิกเกม การเรียนรู้เชิงลึก เช่น GPU (Graphics Processing Unit) ที่ใช้ในการฝึกและประมวลผลโมเดลเรียนรู้ของ Machine Learning เป็นต้น
- Alphabet : บริษัทแม่ของ Google และมีธุรกิจการลงทุนที่หลากหลายในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงการค้นคว้าวิจัย เป็นต้น
- Amazon.com : บริษัทอีคอมเมิร์ซและบริการออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีธุรกิจหลักคือการขายสินค้าออนไลน์ โดยมีระบบการจัดส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว รวมถึงให้บริการแพลตฟอร์มคลาวด์อีกด้วย
- คาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามมีการเติบโตสูงเฉลี่ย 6.72% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2024-2028
- มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องจากต่างประเทศ (FDI) เป็นฐานการผลิตให้บริษัทที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ
- ภาครัฐมีการออกนโยบายสนับสนุนเพื่อดึงดูดนักลงทุน โดยมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโต
- คาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามมีการเติบโตสูงเฉลี่ย 6.72% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2024-2028
- มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องจากต่างประเทศ (FDI) เป็นฐานการผลิตให้บริษัทที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ
- ภาครัฐมีการออกนโยบายสนับสนุนเพื่อดึงดูดนักลงทุน โดยมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโต
- การเติบโตของสังคมเมืองที่จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจ
- โอกาสในการเติบโตจากประเทศชายขอบ (Frontier Market) สู่ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ซึ่งจะช่วยหนุนเงินทุนต่างชาติไหลเข้าประเทศมากยิ่งขึ้น
- กองทุนสร้างผลตอบแทนอันดับ 1 ในปี 2023 ในกลุ่มกองทุนเวียดนามในไทยเทียบกับกองทุนหุ้นเวียดนาม ในไทย
- ลงทุนโดยตรงในประเทศเวียดนามเฉลี่ยกว่า 80% ขึ้นไป
- บริหารโดยทีมผู้จัดการกองทุนชาวไทยและเวียดนาม 7 ท่าน ทำให้สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลในเวียดนาม ได้โดยตรง รวมถึงการทำ Company Visit บริษัทเวียดนามที่เข้าลงทุน
- คัดเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดี มีธรรมาภิบาล
- ค่าธรรมเนียมเมื่อซื้อกองทุน (Front-end Fee) = 0.75% สำหรับช่วงโปรโมชันเมื่อซื้อผ่าน InnovestX (จากปกติ 1.50%)
- FPT Corporation : บริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจากเวียดนาม โดยเป็นผู้ให้บริการครบวงจรด้าน IT เช่น การพัฒนาซอฟต์แวร์ การให้คำปรึกษาทางเทคโนโลยี และการจัดการระบบ IT รวมถึงยังมีบริการโซลูชันด้านการศึกษาดิจิทัลและการสื่อสารโทรคมนาคม
- Mobile World Investment Corporation : บริษัทค้าปลีกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านเครือข่ายร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ โดยมีเครือข่ายร้านค้าที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
- Military Commercial Joint Stock Bank : ธนาคารพาณิชย์ในเวียดนาม เน้นให้บริการทางการเงินที่หลากหลาย รวมถึงบริการธนาคารดิจิทัลที่ทันสมัย มีความน่าเชื่อถือสูง
- Saigon Securities Incorporation : บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำของประเทศเวียดนาม โดยมีบริการครบวงจรด้านการลงทุน เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์ การให้คำปรึกษาทางการเงิน และการจัดการกองทุน นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายที่แข็งแกร่งและฐานลูกค้าที่กว้างขวาง
- Hoa Phat Group : บริษัทผู้ผลิตเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กชั้นนำในเวียดนาม รวมถึงมีธุรกิจหลากหลายเช่นการผลิตเครื่องจักรการเกษตร และอสังหาริมทรัพย์
- เซมิคอนดักเตอร์ คือ หัวใจของนวัตกรรม และเปรียบเสมือนสมองกลของอุปกรณ์สมัยใหม่ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์
- ยิ่งเทคโนโลยีมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ความต้องการชิปเซมิคอนดักเตอร์ก็จะยิ่งสูงขึ้น โดย SIA คาดการณ์ว่าตลาดเซมิคอนดักเตอร์จะแตะระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2030
- เซมิคอนดักเตอร์ คือ หัวใจของนวัตกรรม และเปรียบเสมือนสมองกลของอุปกรณ์สมัยใหม่ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์
- ยิ่งเทคโนโลยีมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ความต้องการชิปเซมิคอนดักเตอร์ก็จะยิ่งสูงขึ้น โดย SIA คาดการณ์ว่าตลาดเซมิคอนดักเตอร์จะแตะระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2030
- กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์มีความแตกต่างจากกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น การผลิตเซมิคอนดักเตอร์นั้นมีความซับซ้อนและมีการลงทุนที่แพงยิ่งความต้องการมีมากขึ้นจึงทำให้เกิดโอกาสที่จะขาดแคลนชิป ซึ่งเป็นตัวเร่งให้บริษัท ผู้ผลิตชิปได้ประโยชน์จากการขายในราคาที่สูงขึ้น
- หลายประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของการผลิตชิป และพยายามดึงดูดบริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ เข้ามาลงทุนในประเทศ โดยเสนอทั้งเงินอุดหนุน การลดหย่อนภาษี และแรงจูงใจอื่นๆ
- กองทุนหลัก VanEck Semiconductor UCITS ETF (SMH) มีนโยบายการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ 25 ตัว ที่เป็น Pure-Play หรือมีรายได้อย่างน้อย 50% จากเซมิคอนดักเตอร์
- ค่าธรรมเนียมเมื่อซื้อกองทุน (Front-end Fee) = 0.535% สำหรับช่วงโปรโมชันเมื่อซื้อผ่าน InnovestX (จากปกติ 1.07%)
- Broadcom : บริษัทเทคโนโลยีที่เชี่ยวชาญในการพัฒนาและผลิต Semiconductor และโซลูชันสำหรับ การเชื่อมต่อ รวมถึงการผลิตชิปเซ็ตที่ใช้ในอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ
- TSMC : บริษัทผู้ผลิตชิป Semiconductor รายใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิตขั้นสูงที่ล้ำหน้า ซึ่งใช้ในชิปประมวลผลของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำทั่วโลก
- Nvidia : บริษัทที่พัฒนาและผลิตหน่วยประมวลผลกราฟิกและระบบประมวลผลเสมือนจริง ที่ถูกนำไปใช้งานทั้งด้านการสร้างกราฟิกเกม การเรียนรู้เชิงลึก เช่น GPU (Graphics Processing Unit) ที่ใช้ในการฝึกและประมวลผลโมเดลเรียนรู้ของ Machine Learning เป็นต้น
- ASML : บริษัทผู้พัฒนาเครื่องจักร Lithography ล้ำสมัยที่เอาไว้ใช้สำหรับการผลิตชิปที่มีประสิทธิภาพสูง ในระดับนาโนเมตร
- AMD : บริษัทเทคโนโลยีที่พัฒนาแดละผลิตชิปประมวลผลสำหรับคอมพิวเตอร์ (CPU) และกราฟิกการ์ด (GPU) ที่มีประสิทธิภาพสูง
- การลงทุนในหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว หรือ Developed Markets (DM) คือ การลงทุนในกลุ่มประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจและโครงสร้าง พื้นฐานที่เจริญรุ่งเรือง มีระบบการเงินและการลงทุนที่มีเสถียรภาพ รวมถึงมีระดับการใช้ชีวิตที่สูงขึ้น
- การลงทุนในหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วเหมาะสำหรับการเป็นจุดเริ่มต้นในกระจายพอร์ตการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว มีความมั่นคง มีความโปร่งใส และมีสภาพคล่อง
- การลงทุนในหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว หรือ Developed Markets (DM) คือ การลงทุนในกลุ่มประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจและโครงสร้าง พื้นฐานที่เจริญรุ่งเรือง มีระบบการเงินและการลงทุนที่มีเสถียรภาพ รวมถึงมีระดับการใช้ชีวิตที่สูงขึ้น
- การลงทุนในหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วเหมาะสำหรับการเป็นจุดเริ่มต้นในกระจายพอร์ตการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว มีความมั่นคง มีความโปร่งใส และมีสภาพคล่อง
- กองทุนหลัก iShares MSCI World ETF (USD) ที่มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Passive โดยอ้างอิงดัชนีหุ้น กลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว DM (MSCI Developed Markets) รวม 23 ประเทศ โดยกองทุนหลักมีการกระจายการ ลงทุนในหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว
- สัดส่วนหลักของพอร์ตการลงทุนจะกระจายอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี กลุ่มการเงิน กลุ่มบริการทางด้านสุขภาพกลุ่ม อุตสาหกรรม และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย
- เหมาะสำหรับใช้เป็น Core Portfolio สำหรับการลงทุนหุ้นโลกในระยะยาว เนื่องจากเป็นการลงทุนในหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วซึ่งมีความมั่นคง มีความโปร่งใส และมีสภาพคล่อง อีกทั้งยังมีกระจายการลงทุนในหุ้น กว่า 1,470 ตัว
- ค่าธรรมเนียมเมื่อซื้อกองทุน (Front-end Fee) = 0.25% สำหรับช่วงโปรโมชันเมื่อซื้อผ่าน InnovestX (จากปกติ 0.50%)
- ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายหลักทรัพย์ (Brokerage Fee) = 0.05%
- Microsoft : บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์และบริการเทคโนโลยีต่างๆ เช่น ระบบปฏิบัติการ Windows, ซอฟต์แวร์ Office Suite, บริการด้านคลาวด์และโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี Microsoft Azure เป็นต้น
- Apple : บริษัทผู้ผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีชื่อเสียง เช่น iPhone, iPad, MacBook รวมถึงระบบปฏิบัติการ iOS และ macOS ที่เป็นที่นิยมใช้งานกันแพร่หลายทั่วโลก
- Nvidia : บริษัทที่พัฒนาและผลิตหน่วยประมวลผลกราฟิกและระบบประมวลผลเสมือนจริง ที่ถูกนำไปใช้งานทั้งด้านการสร้างกราฟิกเกม การเรียนรู้เชิงลึก เช่น GPU (Graphics Processing Unit) ที่ใช้ในการฝึกและประมวลผลโมเดลเรียนรู้ของ Machine Learning เป็นต้น
- Alphabet : บริษัทแม่ของ Google และมีธุรกิจการลงทุนที่หลากหลายในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงการค้นคว้าวิจัย เป็นต้น
- Amazon.com : บริษัทอีคอมเมิร์ซและบริการออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีธุรกิจหลักคือการขายสินค้าออนไลน์ โดยมีระบบการจัดส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว รวมถึงให้บริการแพลตฟอร์มคลาวด์อีกด้วย
- การลงทุนในตราสารหนี้ (Fixed Income) เป็นการลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนจากสร้างกระแสเงินสดจากดอกเบี้ยรับเป็นหลักรวมถึงการคาดหวังการเพิ่มขึ้นของราคาตราสาร
- ราคาของสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้มักจะไม่ได้เคลื่อนไหวไปพร้อมกับราคาหุ้นหรือมีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามและสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้มักจะมีความความผันผวนที่ต่ำกว่าหุ้น ดังนั้น การแบ่งสัดส่วนการลงทุนมายังตราสารหนี้จะช่วยลดความ
- การลงทุนในตราสารหนี้ (Fixed Income) เป็นการลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนจากสร้างกระแสเงินสดจากดอกเบี้ยรับเป็นหลักรวมถึงการคาดหวังการเพิ่มขึ้นของราคาตราสาร
- ราคาของสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้มักจะไม่ได้เคลื่อนไหวไปพร้อมกับราคาหุ้นหรือมีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามและสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้มักจะมีความความผันผวนที่ต่ำกว่าหุ้น ดังนั้น การแบ่งสัดส่วนการลงทุนมายังตราสารหนี้จะช่วยลดความ
- จากการที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับที่สูงที่ ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับที่สูงสุดในรอบ 16 ปี โดยอยู่เหนือระดับ 4% ทำให้การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้มีความน่าสนใจมากขึ้น
- ธนาคารกลางทั่วโลกเริ่มมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งจะช่วยส่งผลให้ตราสารหนี้ได้รับกำไรจากส่วนต่างราคาตราสารหนี้ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น (Capital Gain) ซึ่งเป็นส่วนเสริมในการสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมนอกเหนือจากดอกเบี้ยที่ได้รับ (Coupon)
- กองทุนหลัก PIMCO GIS Income ลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพสูงทั่วโลกแบบ โดยสามารถกระจายการลงทุนไปยังตราสารหนี้หลากหลายประเภท ปัจจุบันพอร์ตการลงทุนมีอันดับความน่าเชื่อถือเฉลี่ยระดับ AA- และมีอายุตราสารเฉลี่ยในพอร์ตการลงทุนประมาณ 3.93 ปี (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พ.ค. 67)
- ทีมผู้จัดการกองทุนหลักมีประสบการณ์สูงกว่า 30 ปี มีจุดเด่นด้านกลยุทธ์การลงทุนที่ยืดหยุ่น โดยจะผสมผสานการวิเคราะห์เชิงTop-down และ Bottom-up เพื่อเฟ้นหาตราสารหนี้ที่สามารถสร้างกระแสเงินสดให้กับพอร์ตการลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอ และพร้อมที่จะทำการปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดอย่างสม่ำเสมอ
- PIMCO GIS Income มีประวัติการจัดตั้งมาอย่างยาวนาน จึงทำให้กองผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้วกับทุกวัฏจักรเศรษฐกิจ โดยนับตั้งแต่จัดตั้งในปีค.ศ. 2012 PIMCO GIS Income Fund สามารถสร้างผลตอบแทนได้เฉลี่ย 5.05% ต่อปี
- กองทุน UGISFX-N เป็นกองทุนที่ไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน กองทุนจึงไม่มีต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 3% ต่อปี) แต่จะมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนและมีความความผันผวนของราคา
- เหมาะสำหรับใช้เป็น Core Portfolio สำหรับการลงทุนตราสารหนี้ในระยะยาว (รับความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนได้) เนื่องจากการแบ่งสัดส่วนการลงทุนมายังตราสารหนี้จะช่วยกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุนได้ โดยกระจายลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพสูงและมีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยบริหารอย่างใกล้ชิด
- ค่าธรรมเนียมเมื่อซื้อกองทุน (Front-end Fee) = 0.50% สำหรับช่วงโปรโมชันเมื่อซื้อผ่าน InnovestX (จากปกติ 1.00%)
จัดพอร์ตลงทุนด้วยกลยุทธ์ Core-Satellite Portfolio สร้างพอร์ตโตในระยะยาวและโอกาสทำกำไรในระยะสั้น
การจัดสรรพอร์ตการลงทุนที่ทั่วโลกนิยมใช้ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก
โตด้วย DCA
- ข้อมูลจาก Bloomberg, InnovestX
- ผลตอบแทนคํานวนจากกองทุน iShares Core S&P 500 ETF ที่มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียง S&P500 Index โดยตัวอย่างนี้ไม่รวมคํานวณถึงค่าใช้จ่ายอันได้แก่ ต้นทุนการทําธุรกรรม ต้นทุนป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน และค่าใช้จ่ายอื่นใดที่อาจเกิดขึ้น สมมติลงทุนในทุกวันทําการสุดท้ายของเดือน
- ตัวอย่างนี้เป็นเพียงการแสดงให้เห็นถึงการลงทุนถัวเฉลี่ยรายเดือนตามสมมติฐาน ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนจริงอาจแตกต่างกันไปจากตัวอย่าง ดังนั้นควรศึกษาและทําความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
Promotion
FAQs
ค่าธรรมเนียมที่กองทุนเรียกเก็บจากนักลงทุน แบ่งใหญ่ๆ ได้เป็น 2 แบบ ยึดตามข้อมูลในหนังสือชี้ชวน
1.“ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ถือหน่วย”
2 “ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากกองทุนรวม” รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
NAV (Net Asset Value) หรือมูลค่าทรัพย์สินสุทธิระยะเวลาในการซื้อขายกองทุนรวม
การซื้อขายกองทุนรวมจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินการที่แตกต่างกัน ขึ้นกับนโยบายการลงทุนของแต่ละกองทุน
หลังจากลูกค้าส่งคำสั่งซื้อขายบนแอปพลิเคชัน InnovestX ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะคำสั่งได้ในเมนู ACTIVITY
หากต้องการดูรายการคำสั่งย้อนหลัง สามารถกดปุ่ม ตัวกรอง ที่มุมขวาบน เพื่อเลือกเดือนที่ต้องการ รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
ลูกค้าสามารถทำรายการตรวจสอบสถานะการลงทุนในกองทุนรวมได้ด้วยตนเองผ่านแอป InnovestX โดยปฏิบัติตามขั้นตอนในลิ้งก์นี้ครับ คลิก
ลูกค้าสามารถเลือกให้ตัดเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกไว้ หรือบัญชีบริหารเงินสดก็ได้ โดยลูกค้าต้องเตรียมเงินในบัญชีบริหารเงินสดให้เพียงพอต่อรายการที่ท่านเลือกซื้อกองทุน
ลูกค้าไม่สามารถซื้อกองทุนรวม หากเงินในบัญชีบริหารเงินสดไม่เพียงพอต่อการทำรายการนั้นได้ โดยลูกค้าจะต้องเติมเงินในบัญชีบริหารเงินสดให้เพียงพอก่อนทำรายการอีกครั้ง
ลูกค้าสามารถตั้งรายการลงทุนแบบ DCA ในกองทุนรวม โดยตั้งค่าแบบรายเดือนอัตโนมัติบนแอป InnovestX ได้ โดยมีวิธีการดังนี้
1. เลือกกองทุนรวมที่ต้องการซื้อ
2. เลือก "รายเดือน" ตรงประเภทการลงทุน
3. ระบุวันที่ที่ต้องการตั้งลงทุนรายเดือน
4. ระบุจำนวนเงินที่ต้องการจะลงทุน
5. กดยอมรับความเสี่ยง
6. กดยืนยัน
*หมายเหตุ เฉพาะลูกค้าที่มีบัญชีมีบัญชีอัตโนมัติ (ATS) เท่านั้น
ลูกค้าสามารถยกเลิกรายการซื้อได้หากท่านยกเลิกรายการก่อน cut-off time ของกองทุน โดยระบบจะคืนเงินให้ในบัญชีบริหารเงินสดทันที
Still need help?
“ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน”