Keyword
Company History

Costco (COST.US) ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกที่มุ่งบริหารต้นทุนและขยายตลาด

5 Jun 25 10:45 AM
Costco (COST.US)
สรุปสาระสำคัญ

Costco Wholesale Corporation (COST) คือบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกาที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ คล้าย  CP Axtra PCL (CPAXT) ของไทย ใครจะคิดว่าธุรกิจแค่ขายของในคลังสินค้าจะกลายเป็นต้นแบบการค้าปลีกระดับโลก แต่ Costco ทำได้ด้วยระบบสมาชิกเฉพาะ (membership-only) ที่ทำให้ลูกค้าจ่ายค่าสมาชิกเพื่อซื้อสินค้าราคาขายส่ง รวมถึงยุทธศาสตร์ป้องกันการแข่งขันด้วยการมีเพียงไม่กี่ตัวเลือกในแต่ละหมวดหมู่ แต่คุณภาพดีและราคาต่ำ ประกอบกับแบรนด์ตัวเอง Kirkland Signature ที่มีคุณภาพเทียบเท่าแบรนด์ดังแต่ราคาถูกกว่า ทำให้บริษัทสร้างความภักดีของลูกค้าและกระแสรายได้ที่แข็งแกร่ง

จากคลังสินค้าสำหรับสมาชิก สู่ยักษ์ค้าปลีกระดับโลก


Costco เริ่มต้นขึ้นในปี 1983 ที่เมืองซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา โดยมีแนวคิดเรียบง่ายแต่นำสมัย ให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าในปริมาณมากในราคาที่คุ้มค่า ภายใต้โมเดล “คลังสินค้าสำหรับสมาชิก” ที่เน้นต้นทุนต่ำ–คุณภาพสูง เพื่อรองรับทั้งผู้บริโภคทั่วไปและธุรกิจขนาดเล็ก


ในปี 1993 Costco ควบรวมกิจการกับ Price Club ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกโมเดลคลังสินค้าสมาชิกเช่นกัน การรวมตัวครั้งนี้ไม่เพียงทำให้ขยายฐานลูกค้าได้ทันที แต่ยังวางรากฐานสู่การเติบโตระดับประเทศและระดับโลก


แม้จะต้องเผชิญกับสภาพเศรษฐกิจผันผวนในหลายช่วงเวลา รวมถึงวิกฤตการเงินปี 2008 บริษัทก็ยังรักษาโมเดลต้นทุนต่ำ-กำไรบาง-ปริมาณมากได้อย่างมั่นคง รายได้จากค่าสมาชิกที่สม่ำเสมอช่วยเสริมความยั่งยืนให้ธุรกิจยิ่งขึ้น


แบรนด์ในเครืออย่าง Kirkland Signature ซึ่งเปิดตัวในปี 1995 ก็กลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญ ด้วยคุณภาพที่ไม่แพ้แบรนด์ชั้นนำ แต่ตั้งราคาต่ำกว่า ทำให้แบรนด์นี้กลายเป็นที่นิยมทั่วโลก

 

ในปี 2023 Costco มีคลังสินค้ากว่า 850 แห่ง ทั่วโลก และยังเดินหน้าขยายตลาดอย่างต่อเนื่องในเอเชียและยุโรป กลายเป็นบริษัทค้าปลีกไม่กี่แห่งที่สามารถรักษาความจงรักภักดีของลูกค้าในระยะยาว พร้อมสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงให้กับผู้ถือหุ้น

 

 

กระจายรายได้จากหลายแหล่งทำรายได้


โครงสร้างรายได้ของ Costco สะท้อนถึงโมเดลธุรกิจที่เน้นขายสินค้าปริมาณมากในราคาคุ้มค่า ควบคู่กับรายได้ประจำจากค่าสมาชิก โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่

 

  1. Product Sales (97% ของรายได้) – รายได้หลักจากการขายสินค้าหลากหลาย

กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตสูงจากการขยายตัวของค้าส่งคลับในสหรัฐฯ พฤติกรรมผู้บริโภคแบบประหยัด และการผสานช่องทางออนไลน์กับออฟไลน์ (Omni-Channel Retail)

  1. Membership Fees (3% ของรายได้) – รายได้จากค่าสมาชิกประเภท Gold Star, Business และ Executive

กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตสูงจากรายได้ประจำที่มั่นคง ความภักดีของลูกค้า และบทบาทสำคัญในการสร้างฐานสมาชิกระยะยาวให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

 

Picture4.png

แม้ค่าสมาชิกจะเป็นสัดส่วนที่เล็ก แต่มีเสถียรภาพสูง และเป็นหัวใจที่ช่วยสร้างฐานลูกค้าประจำให้ Costco เติบโตอย่างยั่งยืน

 

 

กลยุทธ์การเติบโตและจุดแข็งของ Costco


Costco มีกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่เน้นการให้ความคุ้มค่าสูงสุดแก่สมาชิก ด้วยการจำกัดตัวเลือกสินค้าในแต่ละหมวดหมู่ให้เหลือเพียงไม่กี่ตัวเลือก แต่มั่นใจว่าเป็นสินค้าคุณภาพดีที่ราคาต่ำที่สุด รวมถึงการพัฒนาสินค้าแบรนด์ตัวเอง Kirkland Signature ที่มีส่วนแบ่งการขายสูงและมีกำไรสูง

 

จุดแข็งที่โดดเด่นที่สุดของ Costco คือระบบ membership-only ที่สร้างความภักดีของลูกค้าและทำให้มีรายได้คงที่จากค่าสมาชิก นอกจากนี้ยังมีการควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวด การจัดซื้อในปริมาณมาก เพื่อต่อรองราคาที่ดีกว่า และการมีสินค้าคงคลังหมุนเวียนเร็ว ทำให้สามารถเสนอราคาที่แข่งขันได้


บริษัทยังขยายตลาดไปสู่ประเทศต่างๆ และพัฒนาบริการใหม่ๆ เช่น บริการน้ำมัน เซอร์วิสทางการเงิน และการจัดส่งสินค้าออนไลน์ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับสมาชิก

 

 

เปรียบเทียบกับคู่แข่ง


เทียบกับ Walmart (WMT): Walmart เป็นร้านค้าปลีกแบบเปิด ที่รองรับลูกค้าทุกกลุ่มและขายสินค้าหลากหลายประเภทในปริมาณเล็กและกลาง เพื่อความสะดวกสบายและตัวเลือกที่มากมายสำหรับผู้บริโภคทั่วไป ในขณะที่ Costco ใช้ระบบสมาชิก จำกัดเฉพาะลูกค้าที่สมัครเป็นสมาชิกเท่านั้น ทำให้เน้นขายสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่ถูกกว่าปกติผ่านการขายเป็นแพ็คใหญ่หรือซื้อจำนวนมาก ซึ่งช่วยให้ลูกค้าประหยัดได้มากขึ้น ทั้งสองบริษัทจึงตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันและใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจที่ไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือทั้งสองเป็นผู้นำตลาดค้าปลีกที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่และมีอิทธิพลต่อการตั้งราคาสินค้าในตลาด

 

 

เมื่อเทียบกับธุรกิจในประเทศไทย

เทียบกับ CP Axtra PCL (CPAXT): ในประเทศไทย แม้จะไม่มีบริษัทที่ใช้โมเดลเดียวกับ Costco อย่างชัดเจน แต่ร้านค้าส่งอย่าง CP Axtra PCL (ชื่อเดิมคือ Siam Makro) ถือเป็นตัวอย่างที่ใกล้เคียงที่สุด โดยบริษัทได้ประกาศเปลี่ยนชื่อจาก Siam Makro (MAKRO) เป็น CP Axtra (CPAXT) เน้นการขายส่งให้กับธุรกิจและร้านค้าปลีกเป็นหลัก โดยไม่มีระบบสมาชิกหรือการจำกัดกลุ่มลูกค้าเหมือน Costco และไม่เน้นสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งสำหรับผู้บริโภคทั่วไป ขณะที่ Costco ใช้ระบบสมาชิกเพื่อสร้างความผูกพันกับลูกค้า และเปิดโอกาสให้ทั้งบุคคลทั่วไปและธุรกิจเข้าถึงสินค้าได้ ทั้งยังมีแบรนด์สินค้าเฉพาะของตัวเองซึ่งสร้างความแตกต่างในเรื่องคุณภาพและความคุ้มค่า ส่งผลให้รูปแบบการดำเนินธุรกิจของ Costco มีความเฉพาะตัวและแตกต่างจากร้านค้าส่งในไทยอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ทั้งสองบริษัทต่างก็มีบทบาทสำคัญในการจัดหาสินค้าจำนวนมากให้กับธุรกิจและผู้บริโภคที่ต้องการซื้อในปริมาณมากเพื่อลดต้นทุน

 

 

อนาคตและโอกาสของ Costco


ในอนาคต Costco มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขยายสาขาใหม่ทั้งในสหรัฐอเมริกาและตลาดต่างประเทศ การพัฒนาบริการ E-commerce ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และการเพิ่มสินค้าแบรนด์ Kirkland Signature ที่มีกำไรสูง บริษัทสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า เช่น แอปพลิเคชันสำหรับสมาชิก ระบบการจัดส่งที่รวดเร็วขึ้น และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าได้ดีขึ้น ตลอดจนการขยายบริการใหม่ๆ เช่น บริการทางการเงิน การประกันภัย และบริการสุขภาพ ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและสร้างรายได้เสริมให้กับบริษัท


สนใจลงทุนในหุ้น Costco (COST) และหุ้นค้าปลีกอื่นๆ จากทั่วโลกได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX ที่ให้คุณเข้าถึงการลงทุนระดับโลกได้แบบไร้ขีดจำกัด สนใจเปิดบัญชีลงทุน คลิก https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b

 

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

Stocks Mentioned
COST.N
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5