Digital Assets

MSCI เตรียมคัดบริษัทถือครองคริปโทเกิน 50% ออกจากดัชนี จุดเสี่ยงสำคัญที่อาจกดดัน MSTR และตลาดคริปโทช่วงนี้

27 Nov 25 10:15 AM
Digital Asset
สรุปสาระสำคัญ

การประกาศของ MSCI ที่เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อเกณฑ์ใหม่ ซึ่งอาจถอดบริษัทที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลเกิน 50% ของสินทรัพย์รวมในงบดุลออกจากดัชนี ส่งผลกระทบชัดเจนต่อบริษัทในรายชื่อเบื้องต้น 38 แห่ง โดยเฉพาะ MicroStrategy (MSTR) ที่มีสัดส่วน Bitcoin กว่า 77% ของงบดุล ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงกว่า 46% หลังการประกาศ เนื่องจากความกังวลว่าจะถูกบังคับขายโดยกองทุน Passive ซึ่งถือหุ้นรวมกว่า 9 พันล้านดอลลาร์ นักวิเคราะห์คาดว่าแรงขายอาจสูงถึง 2.8–8.8 พันล้านดอลลาร์ หากถูกถอดออกจากดัชนี ผลกระทบจึงลามสู่ตลาด Bitcoin จากการลดการลงทุนของสถาบันที่ใช้ MSTR เป็นตัวแทนการถือครอง โดย MSCI จะประกาศผลวันที่ 15 มกราคม 2026 และมีผลบังคับในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญต่อเสถียรภาพของทั้งตลาดคริปโทและตลาดทุน

ผลกระทบต่อตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลหลังการประกาศของ MSCI

 

การประกาศของ MSCI ซึ่งได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อเกณฑ์ใหม่ที่จะถอดบริษัทที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลเกิน 50% ของสินทรัพย์รวมในงบดุล (Total Asset in balance sheet) ออกจากดัชนีหุ้น โดยบริษัทกลุ่มนี้ถูกจัดเป็น Digital Asset Treasury Companies (DATs) เนื่องจากลักษณะธุรกิจมีความใกล้เคียงกับกองทุนมากกว่าบริษัททั่วไป

 

การเรียงลำดับใหม่นี้ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อบริษัทในรายชื่อเบื้องต้น จำนวน 38 บริษัท โดยเฉพาะบริษัท Strategy (MSTR) ที่พึ่งพามูลค่าจาก Bitcoin มากกว่ารายได้จากธุรกิจซอฟต์แวร์หลัก อีกทั้งมีการ ถือครองสินทรัพย์กว่า 77% ของงบดุล (ข้อมูล ณ เดือน พฤศจิกายน 2025) เป็น Bitcoin จำนวนทั้งสิ้น 649,870 BTC มีต้นทุนเฉลี่ยที่ประมาณ $74,433 จึงทำให้กลายเป็นตัวอย่างสำคัญของความเสี่ยงจากการเข้าข่ายเกณฑ์ใหม่ของ MSCI

 

จากตารางนี้คือ ตัวอย่างของ MSCI : Preliminary list of Digital Asset Treasury Companies

 

Picture2.png

Source : MSCI as of 30 September 2025

 

ทำไม MSCI จึงมีความสำคัญต่อโครงสร้างตลาดทุนโลก

 

MSCI เป็นหนึ่งในผู้กำหนดมาตรฐานที่ทรงอิทธิพลที่สุดของตลาดทุนโลก ดัชนีภายใต้ MSCI ถูกใช้เป็นแม่แบบการลงทุนของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมากกว่า 18.3 ล้านล้านดอลลาร์ และกองทุน Passive บริษัทที่อยู่ในดัชนี MSCI ต้องมีเสถียรภาพและมีกระแสรายได้ ความสามารถในการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน ไม่ใช่องค์กรที่พึ่งพามูลค่าสินทรัพย์บนงบดุลเพียงอย่างเดียว

 

ผลกระทบต่อบริษัท Strategy (MSTR) และความเสี่ยงเชิงโครงสร้างของตลาด

 

หุ้น MSTR กลายเป็นตัวละครสำคัญของการประเมินครั้งนี้ เพราะถือครองสินทรัพย์กว่า 77% ของงบดุลเป็น Bitcoin ซึ่งข้ามเส้นเกณฑ์หลักของ MSCI อย่างชัดเจน ปัจจัยนี้ทำให้นักลงทุนกังวลว่าบริษัทจะถูกถอดออกจากดัชนี MSCI ซึ่งจะส่งผลให้เกิดแรงเทขายอย่างหนัก ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงกว่า 46% นับตั้งแต่การประกาศ เนื่องจากมูลค่าตลาดของ MicroStrategy ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของ Bitcoin มากกว่าการเติบโตของรายได้จากธุรกิจซอฟต์แวร์

 

การพิจารณาของ MSCI เกิดจากความกังวลด้านความเสถียรของดัชนี หากบริษัทใดมีมูลค่าตลาดที่ถูกกำหนดโดยราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลบนงบดุลมากกว่ากิจกรรมดำเนินงานจริง

 

การพิจารณาของ MSCI จะทำให้ความผันผวนของคริปโทถูกส่งผ่านไปยังกองทุน Passive ที่ติดตามดัชนี ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงของดัชนีโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญ

 

Picture3.png

Source : TradingView as of 26  November 2025

 

ความเสี่ยงจากการบังคับขายของกองทุน Passive และผลต่อ Bitcoin โดยรวม

 

หาก Strategy ถูกถอดออกจากดัชนี กองทุน Passive จะต้องขายหุ้นบริษัทออกจากพอร์ตทันทีโดยอัตโนมัติ โดยไม่พิจารณาราคา สภาพคล่อง หรือภาวะตลาด

 

นักวิเคราะห์ของ JPMorgan ประเมินว่าแรงขายอาจสูงถึง 2.8 พันล้านดอลลาร์จาก MSCI และอาจแตะ 8.8 พันล้านดอลลาร์หากผู้ให้บริการดัชนีรายอื่นดำเนินตาม

 

ข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่าปัจจุบันกองทุน Passive ถือหุ้น MSTR มูลค่ากว่า 9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นแรงขายแบบบังคับ ไม่ใช่แรงขายจากนักลงทุนรายย่อย

 

ผลกระทบทางอ้อมจึงลุกลามสู่ตลาด Bitcoin เมื่อบริษัทถูกบังคับออกจากดัชนี นักลงทุนสถาบันที่ใช้ MSTR เป็นตัวแทนการถือ Bitcoin จะต้องลดการลงทุน ขณะที่บริษัทใหม่ที่ต้องการทำกลยุทธ์คล้ายกันก็จะเผชิญข้อจำกัดด้านการเข้าถึงดัชนี การสูญเสียผู้ซื้อเชิงโครงสร้างนี้ทำให้สภาพคล่องของตลาด Bitcoin ลดลงและสร้างความเปราะบางต่อราคาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นมา

 

ช่วงเวลาสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ว่า MSCI จะถอดบริษัทริปโทออกจากดัชนีใน เดือน กุมภาพันธ์

 

ช่วงเวลาหลังจากนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทั้งตลาดคริปโทและตลาดทุน โดย MSCI จะปิดรับความคิดเห็นในวันที่ 31 ธันวาคม ประกาศผลวันที่ 15 มกราคม 2026 และหากเกณฑ์ได้รับการอนุมัติ การบังคับขายจะเกิดขึ้นจริงในเดือนกุมภาพันธ์

แม้แรงกดดันระยะสั้นจะรุนแรง แต่ในระยะยาวเกณฑ์ที่ชัดเจนขึ้นจะช่วยลดความไม่แน่นอนทางกฎเกณฑ์ และทำให้บริษัทเข้าใจได้ชัดเจนขึ้นว่าการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาไว้ในงบดุลจะส่งผลอย่างไรต่อเกณฑ์ของดัชนี

การตัดสินใจของ MSCI ในต้นปี 2026 จะเป็นหนึ่งในปัจจัยชี้ชะตาตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลตลอดทั้งปีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

 

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

 

คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

 

 

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5