กองทุนคริปโตและเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ขายในไทยมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน วันนี้เรามาแยกหมวดให้เข้าใจง่ายๆ ก่อนเลือกลงทุนกัน
✅ วิธีการลงทุนของกองทุนในไทย กองทุนคริปโตในไทยใช้วิธีการลงทุน 2 แบบหลัก:
- Direct Crypto Investment:
- ลงทุนใน Bitcoin ETF, Ethereum ETF ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ
- เช่น ProShares Bitcoin ETF (BITO), iShares Bitcoin Trust (IBIT)
- ได้ผลตอบแทนตาม crypto โดยตรง แต่ผ่าน ETF
- ซึ่งตามเกณฑ์ กลต. กองทุนประเภทนี้เป็นกองทุนสำหรับ ผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษเท่านั้น
- Crypto-related Equity Investment:
- ลงทุนในหุ้นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับบล็อกเชน
- เช่น Coinbase, MicroStrategy, NVIDIA, Square
- ได้ผลตอบแทนจากการเติบโตของอุตสาหกรรม crypto และ blockchain
✅ แต่ละประเภทยังแบ่งย่อยได้อีก นอกจากการแบ่งตาม asset class ยังมีสไตล์การลงทุนที่หลากหลาย:
- Bitcoin Pure Play: เน้น Bitcoin 100%
- Ethereum Focus: เน้น Ethereum ecosystem
- Multi-Crypto: กระจายหลายสกุลเงินคริปโต
- Blockchain & Crypto Equity: ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสกุลเงินคริปโต และเทคโนโลยีบล็อกเชน
👉 โดย Lists ของแต่ละกลุ่มมาให้ว่า มี "กองทุนคริปโต" ตัวไหนในไทยบ้างที่อยู่ในแต่ละหมวด
2 กลุ่มนี้ มีรายละเอียดแต่ละกลุ่มอย่างไรมาดูกัน 👇
✅ 1) กองทุนคริปโต Direct Fund 🔒 (ผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษเท่านั้น) ลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลโดยตรงผ่าน ETF ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ มีความผันผวนสูงมาก เหมาะกับผู้ลงทุนที่เข้าใจและรับความเสี่ยงได้
Bitcoin Fund:
- MBTCETF-UI: ลงทุนในกองทุนหลัก iShares Bitcoin Trust (IBIT) ซึ่งมีการลงทุนใน Bitcoin โดยตรง และมุ่งหวังให้ผลตอบแทนของกองทุนเคลื่อนไหวตามราคา Bitcoin
- KT-BTCETFFOF-UI-A: ลงทุนในกองทุน ETF หลายกองทุนในแบบ Fund of Funds ที่ลงทุนใน Bitcoin โดยตรง และมุ่งหวังให้ผลตอบแทนของกองทุนเคลื่อนไหวตามราคา Bitcoin (ปัจจุบัน FBTC และ IBIT)
- ONE-BTCETFOF-UI: อีกหนึ่ง FoF ที่กระจายลงทุน Bitcoin ETFs โดยมุ่งหวังให้ผลตอบแทนของกองทุนเคลื่อนไหวตามราคา Bitcoin (ปัจจุบัน EZBC, IBIT และ FBTC)
Ethereum Fund:
- METHETF-UI: ลงทุนใน iShares Ethereum Trust (ETHA) ซึ่งมีการลงทุนใน Ethereum โดยตรง และมุ่งหวังให้ผลตอบแทนของกองทุนเคลื่อนไหวตามราคา Ethereum
Mixed Crypto Fund:
- ASP-CRYPTO-UI: ลงทุนแบบผสมในทั้งกองทุน ETF Bitcoin และ Ethereum โดยสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนในแต่ละสกุลเงินได้แบบอิสระ ตามมุมมองและสภาวะตลาด
🎯 เหมาะกับใคร:
- ผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษที่ผ่านเกณฑ์ กลต.
- เข้าใจเทคโนโลยีบล็อกเชนและความเสี่ยงของสกุลเงินคริปโต
- รับความผันผวนสูงมากได้
✅ 2) กองทุน Crypto-related Fund 🌟 (ผู้ลงทุนทั่วไป) ลงทุนในหุ้นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีบล็อกเชน Web3 และดิจิทัล ไม่ได้ถือ crypto โดยตรง แต่ได้รับผลจากการเติบโตของอุตสาหกรรม
กองทุนในกลุ่มนี้:
- ASP-DIGIBLOC: ลงทุนใน ETF และหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ หรือได้รับประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชน
- DAOL-DAPP: ลงทุนในกองทุนหลัก VanEck Digital Transformation ETF (DAPP) ซึ่งจะลงทุนบริษัทที่เกี่ยวข้องกับระบบสินทรัพย์ดิจิทัล
- KT-BLOCKCHAIN-A: ลงทุนแบบ Fund of Funds ในกองทุน ETF ที่มีการลงทุนในบริษัทสินทรัพย์ดิจิตัล หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีบล็อคเชน
- LHGBLOCK-A / LHGBLOCK-D: ลงทุนแบบ Fund of Funds ในกองทุน ETF ที่มีการลงทุนในบริษัทสินทรัพย์ดิจิตัล หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีบล็อคเชน
- SCBBLOC(A): ลงทุนในกองทุนหลัก Invesco CoinShares Global Blockchain UCITS ETF ซึ่งจะลงทุนในบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับระบบนิเวศ Blockchain
ตัวอย่างหุ้นที่อาจลงทุน:
- Coinbase แพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำ
- Circle Internet บริษัทฟินเทคที่พัฒนา USDC stablecoin และให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงินดิจิทัล
- MicroStrategy บริษัทซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลที่เปลี่ยนมาเป็นบริษัทที่ถือ Bitcoin มากที่สุดในโลก
- Riot Platforms บริษัทขุด Bitcoin รายใหญ่ของสหรัฐฯ ที่มีศูนย์ขุดเหรียญขนาดใหญ่หลายแห่ง
- Mara Holdings หนึ่งในบริษัทขุด Bitcoin ชั้นนำของอเมริกาเหนือที่มีกำลังการผลิตสูง
🎯 เหมาะกับใคร:
- นักลงทุนทั่วไปที่อยากได้ exposure ทางอ้อมในสกุลเงินคริปโต
- เชื่อในอนาคตของเทคโนโลยีบล็อกเชน
- รับความผันผวนสูงมากได้