สรุปสาระสำคัญ
หัวข้อสำหรับ EP.2 วันนี้เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับ
- ประเภทของกองทุนรวม: โดยแบ่งตามประเภทของสินทรัพย์ที่ลงทุน แบ่งตามลักษณะพิเศษของกองทุน และแบ่งตามความเสี่ยงเกี่ยวกับต่างประเทศ
ประเภทของกองทุนรวม
การจัดแบ่งประเภทของกองทุน สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลัก เพื่อให้ บลจ. จัดการลงทุนในกองทุนได้อย่างเหมาะสม เป็นไปตามนโยบายการลงทุนที่ผู้ลงทุนพึงคาดหวัง
1.แบ่งตามประเภทของสินทรัพย์ที่กองทุนลงทุน: เป็นการจัดประเภทโดยมีวัตถุหประสงค์เพื่อให้ผู้ลงทุนตระหนึกถึงฐานะการลงทุนในสินทรัพย์ของกองทุนรวมและความเสี่ยงในการลงทุนของกองทุนรวมแต่ละประเภท โดยแบ่งเป็นประเภทต่างๆ ได้ดังนี้
- กองทุนรวมตราสารทุน (Equity Fund): กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนประเภทต่างๆ เช่น หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ ใบสำคัญแสดงสิทธิ รวมถึงหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหุ้น โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
เหมาะกับใคร: ผู้ที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูง ผู้ที่ชอบการลงทุนในหุ้นแต่ไม่มีเวลาบริหารการลงทุน
- กองทุนรวมตราสารหนี้ (Fixed Income Fund): กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้เป็นหลัก เช่น ตราสารหนี้ภาครัฐ หุ้นกู้ ซึ่งเป็นได้ทั้งตราสารหนี้ระยะสั้น และตราสารหนี้ระยะยาว บัตรเงินฝากของธนาคาร ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงิน หรืออนุพันธ์ที่มีสินทรัพย์อ้างอิงเป็นอัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น โดยจะต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่กล่าวมาโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
เหมาะกับใคร: ผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำถึงปานกลาง
- กองทุนรวมทรัพย์สินทางเลือก (Alternative Investment Fund): กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก เช่น หน่วยลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หน่วยลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน อนุพันธ์ที่มีสินทรัพย์อ้างอิงเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ทองคำแท่ง หน่วยลงทุนใน Private Equity เป็นต้น โดยจะต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่กล่าวมาโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
เหมาะกับใคร: ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง ผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์อื่นๆ นอกเหนือจากตราสารทุนและตราสารหนี้
- กองทุนรวมผสม (Mixed Fund): กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภทโดยมีทั้งรูปแบบที่กำหนดและไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภทไว้อย่างชัดเจนในโครงการ
เหมาะกับใคร: ผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงสูง
2.แบ่งตามลักษณะพิเศษของกองทุน: เป็นการจัดประเภทโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ลงทุนทราบถึงลักษณะพิเศษของกองทุนรวมแต่ละประเภทเพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้ลงทุนใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้อย่างเหมาะสม โดยแบ่งเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้
- กองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund): กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอายุไม่เกินหรือเท่ากับ 397 วัน นับแต่วันที่ลงทุน และมีการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงไม่น้อยกว่า 10% ของ NAV นอกจากนี้หากมีการลงทุนซึ่งมีความเสี่ยงเกี่ยวกับต่างประเทศต้องมีมูลค่าการลงทุนรวมกันไม่เกิน 50% ของ NAV และต้องมีมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวนตลอดเวลาที่มีการลงทุน
เหมาะกับใคร: ผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมาก และต้องการลงทุนในระยะสั้น หรือต้องการพักเงินในระยะสั้น
- กองทุนรวมมุ่งรักษาเงินต้น (Capital Protected Fund): กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนโดยมีการกำหนดแผนการลงทุนเพื่อมุ่งให้เกิดการรักษาเงินต้นของผู้ลงทุนทั้งจำนวนตามที่ระบุไว้ในโครงการ
เหมาะกับใคร: ผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมมาก
- กองทุนรวมมีประกัน (Guarantee Fund): กองทุนรวมที่ บลจ. จัดให้มีบุคคลอื่นประกันว่าหากผู้ลงทุนได้ลงทุนจนครบตามระยะเวลาที่กำหนด ผู้ลงทุนจะได้รับชำระเงินลงทุน หรือเงินลงทุนและผลตอบแทน จากการไถ่ถอนหรือการขายคืนหน่วยลงทุน แล้วแต่กรณี ตามจำนวนเงินที่ประกันไว้
เหมาะกับใคร: ผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมาก
- กองทุนรวมหมวดอุตสาหกรรม (Sector Fund): กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนที่เฉพาะเจาะจงเพียงบางหมวดอุตสาหกรรมหรือกิจการที่มีลักษณะเทียบเคียงได้กับกิจการที่อยู่ในหมวดอุตสาหกรรมดังกล่าวรวมกันแล้วโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
เหมาะกับใคร: ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง และผู้ที่ต้องการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เฉพาะเจาะจง
- กองทุนรวมหน่วยลงทุน (Fund of Funds): กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอื่น ซึ่งรวมถึงกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
เหมาะกับใคร: ผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำถึงปานกลางถึงสูงและต้องการกระจายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม
- กองทุนรวมฟีดเดอร์ (Feeder Fund): กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมเพียงกองทุนเดียว ซึ่งรวมถึงกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
เหมาะกับใคร: ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง
- กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund): กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้นสามัญจดทะเบียน ตราสารทุน หน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนที่ลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียน กองทุนรวมอีทีเอฟที่อ้างอิงกับผลตอบแทนหุ้นหรือกลุ่มหุ้นของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 65% ของ NAV
เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวและสามารถรับความเสี่ยงได้ต่ำถึงปานกลางถึงสูง และผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษี
- กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund): กองทุนรวมที่มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการออมเพื่อการเลี้ยงชีพในระยะยาวของผู้ลงทุน
เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวและสามารถรับความเสี่ยงได้ต่ำถึงปานกลางถึงสูง และผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษี ผู้ที่ต้องการเก็บออมเงินเพื่อการเกษียณ
- กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund): กองทุนรวมที่มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการออมสำหรับทุกคนรวมถึงผู้เริ่มต้นทำงาน โดยมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ตราสารทุน
เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวและสามารถรับความเสี่ยงได้หลายระดับ และผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษี
- กองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (Sustainable and Responsible Investing Fund): กองทุนรวมที่มุ่งเน้นลงทุนในกิจการที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนตามหลักสากล และกำหนดให้ บลจ. ที่บริหารจัดการต้องเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนภายใต้มาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลเดียวกัน
เหมาะกับใคร: ผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนในกิจการที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน
- กองทุนรวมทองคำ (Gold Fund): กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในทองคำแท่ง โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
เหมาะกับใคร: ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง
- กองทุนรวมดัชนี (Index Fund): กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนซึ่งสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุนตามการเคลื่อนไหวของดัชนีราคาหลักทรัพย์ตามที่ระบุไว้ในโครงการ โดยเป็นดัชราคาหลักทรัพย์ที่สำนักงานเห็นชอบ
เหมาะกับใคร: ผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงสูง
- กองทุนรวมอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund): กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนซึ่งสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุนตามการเคลื่อนไหวของปัจจัยอ้างอิงอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นการบริหารจัดการกองทุนในลักษณะเชิงรับ (Passive Management) เช่น ดัชนีราคาหลักทรัพย์ ราคากลุ่มหลักทรัพย์ ราคาหน่วยของกองทุน ETF ต่างประเทศที่มีนโยบายสร้างผลตอบแทนตามการเคลื่อนไหวของราคาหรือดัชนี เป็นต้น
เหมาะกับใคร: ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง
- กองทุนรวมสำหรับผู้ลงทุนในต่างประเทศ (Country Fund): กองทุนรวมที่เสนอขายหน่วยลงทุนทั้งหมดแก่บุคคลซึ่งไม่มีภูมิลำเนาในประเทศไทย
- กองทุนรวมวายุภักษ์: กองทุนรวมที่ตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 โดยมีวัตถุประสงค์ในการเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการทรัพย์สินของรัฐบาลแทนกระทรวงการคลัง
- กองทุนรวมอิสลาม: กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินที่เป็นไปตามหลักศาสนาอิสลาม โดยสามารถลงทุนตรงในทรัพย์สินตามที่คณะกรรมการหรือที่ปรึกษาชะรีอะฮ์กำหนด หรือลงทุนในทรัพย์สินที่เป็นองค์ประกอบของดัชนีที่เป็นไปตามหลักศาสนาอิสลาม
3.แบ่งตามความเสี่ยงเกี่ยวกับต่างประเทศ: เป็นการจัดประเภทโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ลงทุนตระหนักถึงความเสี่ยงของกองทุนรวมที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ เช่น ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น โดยแบ่งเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้
- กองทุนรวมที่เน้นลงทุนแบบมีความเสี่ยงต่างประเทศ: กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนซึ่งจะส่งผลให้มีสัดส่วนการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างประเทศโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
เหมาะกับใคร: ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง และต้องการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศ
- กองทุนรวมที่ลงทุนแบบไม่มีความเสี่ยงต่างประเทศ: กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนซึ่งจะส่งผลให้ไม่มีสัดส่วนการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างประเทศ
เหมาะกับใคร: ผู้ที่ไม่รับความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
- กองทุนรวมที่ลงทุนแบบมีความเสี่ยงทั้งในและต่างประเทศ: กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในลักษณะอื่น โดยอาจไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างประเทศไว้อย่างชัดเจนแน่นอนในโครงการ หรือกำหนดสัดส่วนการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างประเทศในขณะใดๆ หรือเฉลี่ยรอบปีบัญชีไว้อย่างชัดเจนแน่นอนในโครงการ
เหมาะกับใคร: ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง และต้องการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศ
ดูรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ [Fund Guide] EP.0 คู่มือสรุปความรู้กองทุนรวมฉบับสมบูรณ์