สรุปสาระสำคัญ
หัวข้อสำหรับ EP.4 วันนี้เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับ
ชนิดหน่วยลงทุน (Share Class)
ชนิดหน่วยลงทุน หรือ Share Class เป็นหลักเกณฑ์ที่ ก.ล.ต. อนุญาตให้กองทุนรวมสามารถแบ่งชนิดหน่วยลงทุนเป็นหลายชนิดภายใต้กองทุนรวมเดียวกันได้ (Multi-Class) โดยตัวอย่างการแบ่งได้แก่ การแบ่งชนิดตามค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากผู้ถือหน่วยลงทุน การแบ่งชนิดตามระยะเวลาการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน การแบ่งชนิดตามสิทธิที่จะได้รับเงินปันผล การแบ่งชนิดตามอัตราผลประโยชน์ตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับจากการลงทุนในหน่วยลงทุน การแบ่งชนิดสำหรับกรณีเงินที่รับโอนจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือเงินดังกล่าวพร้อมผลประโยชน์ที่รับโอนต่อเนื่องจากกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพอื่น เป็นต้น อย่างไรก็ตาม บลจ. ในประเทศไทยได้มีการแบ่งชนิดหน่วยลงทุนของกองทุนรวมในประเทศไทยออกเป็น 5 ชนิดหน่วยลงทุนหลักๆ ได้แก่
- ชนิดสะสมมูลค่า (Accumulation): เป็นกองทุนชนิดที่ไม่มีนโยบายการจ่ายเงินปันผล หากสินทรัพย์ที่กองทุนรวมมีการลงทุนอยู่มีการจ่ายผลประโยชน์ออกมา เช่น การจ่ายเงินปันผลของตราสารทุน หรือการจ่ายดอกเบี้ยของตราสารหนี้ เป็นต้น กองทุนจะมีการนำผลประโยชน์ที่ได้รับไปลงทุนต่อ (กองทุนรวมในประเทศไทยมักจะใช้ตัวอักษร A แทนหน่วยลงทุนชนิดดังกล่าว)
เหมาะสำหรับ: ผู้ลงทุนที่ต้องการให้เงินลงทุนเติบโต ไม่ต้องการเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย และไม่ต้องการกระแสเงินสดจากการลงทุน
- ชนิดจ่ายเงินปันผล (Dividend): เป็นกองทุนชนิดที่มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลออกมาให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน แต่จะมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% จากเงินปันผลที่มีการจ่ายออกมา (กองทุนรวมในประเทศไทยมักจะใช้ตัวอักษร D แทนหน่วยลงทุนชนิดดังกล่าว)
เหมาะสำหรับ: ผู้ลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสดจากการลงทุนและไม่กังวลเกี่ยวกับภาษี
- ชนิดขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (Auto-Redemption): เป็นกองทุนชนิดที่มีการจ่ายผลตอบแทนออกมาให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในรูปแบบของการขายคืนหน่วยลงทุนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนมีการถืออยู่แบบอัตโนมัติ โดยเงินจากการขายคืนนี้จะไม่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย (กองทุนรวมในประเทศไทยมักจะใช้ตัวอักษร R แทนหน่วยลงทุนชนิดดังกล่าว)
เหมาะสำหรับ: ผู้ลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสดจากการลงทุนและไม่ต้องการเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย
- ชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics): เป็นกองทุนชนิดสำหรับลงทุนผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ มักจะมีการยกเว้นค่าธรรมเนียมบางอย่างเพื่อสนับสนุนผู้ลงทุน เช่น ค่าธรรมเนียมการขาย หรือค่าธรรมเนียมการจัดการ เป็นต้น (กองทุนรวมในประเทศไทยมักจะใช้ตัวอักษร E แทนหน่วยลงทุนชนิดดังกล่าว)
เหมาะสำหรับ: ผู้ลงทุนที่ต้องการเสียค่าธรรมเนียมในการลงทุนในอัตราที่ต่ำกว่าชนิดปกติ
- ชนิดสำหรับผู้ลงทุนสถาบัน (Institutional Investor): เป็นกองทุนชนิดสำหรับผู้ลงทุนสถาบัน (กองทุนรวมในประเทศไทยมักจะใช้ตัวอักษร I แทนหน่วยลงทุนชนิดดังกล่าว)
- ชนิดสำหรับผู้ลงทุนที่เป็นกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund): เป็นกองทุนชนิดสำหรับผู้ลงทุนที่เป็นกองทุนส่วนบุคคล (กองทุนรวมในประเทศไทยมักจะใช้ตัวอักษร P แทนหน่วยลงทุนชนิดดังกล่าว)