หัวข้อสำหรับ EP.6 วันนี้เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับ
รู้จัก NAV ผลตอบแทนของกองทุนและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง
NAV คืออะไร
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม (Net Asset Value | NAV) คือ มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดของกองทุนรวม ตลอดจนผลประโยชน์ต่างๆ ที่กองทุนรวมได้รับจากการลงทุน ณ เวลาขณะใดขณะหนึ่ง หักออกด้วยค่าใช้จ่ายและหนี้สินของกองทุนรวมนั้น ซึ่งโดยปกติแล้ว บลจ. จะทำการคำนวณมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนตามราคาตลาด (Mark to Market) ในแต่ละวัน เพื่อให้สะท้อนถึงมูลค่าที่เป็นจริงตามสภาวะตลาดที่ได้เปลี่ยนแปลงไป แต่ในกรณีที่สินทรัพย์นั้นไม่มีการซื้อขายเกิดขึ้นในวันที่คำนวณ ก็จะใช้ราคายุติธรรม (Fair Value) หรือราคาปิดครั้งสุดท้ายในการคำนวณแทน
อย่าไรก็ตาม ราคาที่ประกาศให้ทราบนั้นจะแสดงอยู่ในรูปของ “มูลค่าต่อหน่วยลงทุน” โดยนำเอาราคา NAV มาหารด้วยจำนวนหน่วยลงทุนที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมด
การคำนวณมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนรวม
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วย (NAV ต่อหน่วย) = (มูลค่าทรัพย์สินตามราคาตลาด + รายได้ค้างรับ + เงินสด - หนี้สิน) หารด้วยจำนวนหน่วยลงทุนที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของกองทุน
Source: setinvestnow
ประโยชน์ของ NAV
NAV เป็นตัวเลขที่บอกถึง “มูลค่าที่แท้จริงของกองทุนรวม” ซึ่งบอกผู้ถือหน่วยลงทุนว่าหากจะซื้อหรือขายคืนกองทุน จะได้ที่ราคาประมาณเท่าใด
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ NAV
NAV ไม่ได้สะท้อนถึงความถูกแพงของกองทุนรวม แต่สะท้อนผลการดำเนินงาน หากกองทุนบริหารกองทุนได้ดี ผลตอบแทนที่ได้รับก็จะถูกนำเข้าไปรวมใน NAV
ตัวอย่าง
กองทุน INVX-A และกองทุน INVX-D มีนโยบายการลงทุน มีสัดส่วนการลงทุน มีการบริหารการลงทุน และมีค่าธรรมเนียม ที่เหมือนกันทั้งหมด โดยกองทุน INVX-A เป็นชนิดสะสมมูลค่า แต่กองทุน INVX-D พึ่งมีการจัดตั้งขึ้นมาเป็นชนิดจ่ายเงินปันผล
กองทุน INVX-A มีราคา NAV 20 บาทต่อหน่วย
กองทุน INVX-D มีราคา NAV 10 บาทต่อหน่วย
หากมีเงินลงทุน 100,000 บาท นำเงินไปลงทุนทั้ง 2 กองทุน กองทุนละ 50,000 บาท
จะได้หน่วยลงทุนในกองทุน INVX-A เท่ากับ 50,000/20 = 2,500 หน่วย
จะได้หน่วยลงทุนในกองทุน INVX-D เท่ากับ 50,000/10 = 5,000 หน่วย
หากเวลาผ่านไป 3 ปี แล้วกองทุนทั้ง 2 กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ 10% กองทุน INVX-A จะมี NAV เท่ากับ 22 บาทต่อหน่วย และกองทุน INVX-D จะมี NAV เท่ากับ 11 บาทต่อหน่วย (กองทุน INVX-D ยังไม่มีการจ่ายเงินปันผลออกมา)
ผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยได้รับจากทั้ง 2 กองทุน
กองทุน INVX-A (เดิมลงทุนไว้ 50,000 บาท) : มีหน่วยลงทุน 2,500 หน่วย คูณกับราคา NAV 22 บาทต่อหน่วย มูลค่ากองทุน INVX-A ที่ผู้ลงทุนมีการลงทุนอยู่จะเท่ากับ 2,500 x 22 = 55,000 บาท ดังนั้นผลตอบแทนจากการลงทุนเท่ากับ 55,000 - 50,000 = 5,000 บาท (หรือ 10%)
กองทุน INVX-D (เดิมลงทุนไว้ 50,000 บาท) : มีหน่วยลงทุน 5,000 หน่วย คูณกับราคา NAV 11 บาทต่อหน่วย มูลค่ากองทุน INVX-A ที่ผู้ลงทุนมีการลงทุนอยู่จะเท่ากับ 5,000 x 11 = 55,000 บาท ดังนั้นผลตอบแทนจากการลงทุนเท่ากับ 55,000 - 50,000 = 5,000 บาท (หรือ 10%)
ดังนั้นการลงทุนใน 2 กองทุนจะให้ผลตอบแทนที่เท่ากัน โดย NAV เป็นเพียงราคาซื้อขายเพื่อให้ได้จำนวนหน่วยลงทุน (ไม่ได้เป็นตัวบอกถึงความถูกหรือแพง) ดังนั้นหากทั้ง 2 กองทุนมี NAV ที่เปลี่ยนแปลงไปในอัตราที่เท่ากัน ผลตอบแทนของทั้ง 2 กองทุนก็จะเท่ากัน
ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในกองทุนรวม
การลงทุนในกองทุนรวม จะมีค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องโดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน ได้แก่ ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ถือหน่วยลงทุนโดยตรง และค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากสินทรัพย์ของกองทุนรวม
ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ถือหน่วยลงทุนโดยตรง: คิดเป็น % ของมูลค่าซื้อขาย โดยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะไม่ได้กระทบกับสินทรัพย์ของกองทุนรวม แต่จะกระทบกับผลตอบแทนของผู้ลงทุน
ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากสินทรัพย์ของกองทุนรวม: คิดเป็น % ต่อปีของ NAV โดยค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายที่หักจากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของกองทุนรวมในระยะยาว