Keyword
Mutual Funds

[Fund Guide] EP.6 รู้จัก NAV ผลตอบแทนของกองทุนและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง

19 Aug 25 10:41 AM
Invest Snack_Fund 101_1280x720 px
สรุปสาระสำคัญ

หัวข้อสำหรับ EP.6 วันนี้เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับ

  • NAV ผลตอบแทนของกองทุนและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง

รู้จัก NAV ผลตอบแทนของกองทุนและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง

 

NAV คืออะไร

 

มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม (Net Asset Value | NAV) คือ มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดของกองทุนรวม ตลอดจนผลประโยชน์ต่างๆ ที่กองทุนรวมได้รับจากการลงทุน ณ เวลาขณะใดขณะหนึ่ง หักออกด้วยค่าใช้จ่ายและหนี้สินของกองทุนรวมนั้น ซึ่งโดยปกติแล้ว บลจ. จะทำการคำนวณมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนตามราคาตลาด (Mark to Market) ในแต่ละวัน เพื่อให้สะท้อนถึงมูลค่าที่เป็นจริงตามสภาวะตลาดที่ได้เปลี่ยนแปลงไป แต่ในกรณีที่สินทรัพย์นั้นไม่มีการซื้อขายเกิดขึ้นในวันที่คำนวณ ก็จะใช้ราคายุติธรรม (Fair Value) หรือราคาปิดครั้งสุดท้ายในการคำนวณแทน

อย่าไรก็ตาม ราคาที่ประกาศให้ทราบนั้นจะแสดงอยู่ในรูปของ “มูลค่าต่อหน่วยลงทุน” โดยนำเอาราคา NAV มาหารด้วยจำนวนหน่วยลงทุนที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมด

 

การคำนวณมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนรวม

มูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วย (NAV ต่อหน่วย) = (มูลค่าทรัพย์สินตามราคาตลาด + รายได้ค้างรับ + เงินสด - หนี้สิน) หารด้วยจำนวนหน่วยลงทุนที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของกองทุน

 

fund-guide-04.png

Source: setinvestnow

 

 

ประโยชน์ของ NAV

NAV เป็นตัวเลขที่บอกถึง “มูลค่าที่แท้จริงของกองทุนรวม” ซึ่งบอกผู้ถือหน่วยลงทุนว่าหากจะซื้อหรือขายคืนกองทุน จะได้ที่ราคาประมาณเท่าใด

  • กรณีที่ผู้ลงทุนต้องการที่จะซื้อ ให้ดูที่ช่อง “ราคาขาย”
  • กรณที่ผู้ลงทุนต้องการที่จะขาย ให้ดูที่ช่อง “ราคารับซื้อคืน”

 

 

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ NAV

NAV ไม่ได้สะท้อนถึงความถูกแพงของกองทุนรวม แต่สะท้อนผลการดำเนินงาน หากกองทุนบริหารกองทุนได้ดี ผลตอบแทนที่ได้รับก็จะถูกนำเข้าไปรวมใน NAV

 

ตัวอย่าง

กองทุน INVX-A และกองทุน INVX-D มีนโยบายการลงทุน มีสัดส่วนการลงทุน มีการบริหารการลงทุน และมีค่าธรรมเนียม ที่เหมือนกันทั้งหมด โดยกองทุน INVX-A เป็นชนิดสะสมมูลค่า แต่กองทุน INVX-D พึ่งมีการจัดตั้งขึ้นมาเป็นชนิดจ่ายเงินปันผล

 

กองทุน INVX-A มีราคา NAV 20 บาทต่อหน่วย

กองทุน INVX-D มีราคา NAV 10 บาทต่อหน่วย

 

หากมีเงินลงทุน 100,000 บาท นำเงินไปลงทุนทั้ง 2 กองทุน กองทุนละ 50,000 บาท

จะได้หน่วยลงทุนในกองทุน INVX-A เท่ากับ 50,000/20 = 2,500 หน่วย

จะได้หน่วยลงทุนในกองทุน INVX-D เท่ากับ 50,000/10 = 5,000 หน่วย

 

หากเวลาผ่านไป 3 ปี แล้วกองทุนทั้ง 2 กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ 10% กองทุน INVX-A จะมี NAV เท่ากับ 22 บาทต่อหน่วย และกองทุน INVX-D จะมี NAV เท่ากับ 11 บาทต่อหน่วย (กองทุน INVX-D ยังไม่มีการจ่ายเงินปันผลออกมา)

 

ผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยได้รับจากทั้ง 2 กองทุน

 

กองทุน INVX-A (เดิมลงทุนไว้ 50,000 บาท) : มีหน่วยลงทุน 2,500 หน่วย คูณกับราคา NAV 22 บาทต่อหน่วย มูลค่ากองทุน INVX-A ที่ผู้ลงทุนมีการลงทุนอยู่จะเท่ากับ 2,500 x 22 = 55,000 บาท ดังนั้นผลตอบแทนจากการลงทุนเท่ากับ 55,000 - 50,000 = 5,000 บาท (หรือ 10%)

 

กองทุน INVX-D (เดิมลงทุนไว้ 50,000 บาท) : มีหน่วยลงทุน 5,000 หน่วย คูณกับราคา NAV 11 บาทต่อหน่วย มูลค่ากองทุน INVX-A ที่ผู้ลงทุนมีการลงทุนอยู่จะเท่ากับ 5,000 x 11 = 55,000 บาท ดังนั้นผลตอบแทนจากการลงทุนเท่ากับ 55,000 - 50,000 = 5,000 บาท (หรือ 10%)

 

ดังนั้นการลงทุนใน 2 กองทุนจะให้ผลตอบแทนที่เท่ากัน โดย NAV เป็นเพียงราคาซื้อขายเพื่อให้ได้จำนวนหน่วยลงทุน (ไม่ได้เป็นตัวบอกถึงความถูกหรือแพง) ดังนั้นหากทั้ง 2 กองทุนมี NAV ที่เปลี่ยนแปลงไปในอัตราที่เท่ากัน ผลตอบแทนของทั้ง 2 กองทุนก็จะเท่ากัน

 

ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในกองทุนรวม

การลงทุนในกองทุนรวม จะมีค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องโดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน ได้แก่ ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ถือหน่วยลงทุนโดยตรง และค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากสินทรัพย์ของกองทุนรวม

 

ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ถือหน่วยลงทุนโดยตรง: คิดเป็น % ของมูลค่าซื้อขาย โดยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะไม่ได้กระทบกับสินทรัพย์ของกองทุนรวม แต่จะกระทบกับผลตอบแทนของผู้ลงทุน

  • ค่าธรรมเนียมการขาย (Front-End Fee): ค่าธรรมเนียมในการขายหน่วยลงทุนของกองทุน ซึ่งจะถูกเก็บเมื่อผู้ลงทุนซื้อกองทุน
  • ค่าธรรมเนียมการซื้อคืน (Back-End Fee): ค่าธรรมเนียมในการที่กองทุนซื้อหน่วยลงทุน จะถูกเก็บเมื่อผู้ลงทุนขายกองทุน
  • ค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยนกองทุน (Switch In (Out) Fee): ค่าธรรมเนียมในการสับเปลี่ยนเข้า (ออก) จะถูกเก็บเมื่อซื้อ (ขาย) กองทุนที่ย้ายเข้ามาจาก (ย้ายออกไปยัง) กองทุนอื่นใน บลจ. เดียวกัน
  • ค่าธรรมเนียมการโอนหน่วย (Transfer Fee): ค่าธรรมเนียมการโอนสิทธิ์ของกองทุนไปยังบุคคลอื่น
  • ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายหลักทรัพย์ (Brokerage Fee): ค่าใช้จ่ายที่เก็บเมื่อผู้ลงทุน ซื้อหรือขายกองทุน แต่ค่าธรรมเนียมในส่วนนี้จะถูกนำเข้าไปรวมอยู่ในสินทรัพย์ของกองทุนรวม เพื่อให้ผู้จัดการกองทุนใช้ชำระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากการซื้อขายหลักทรัพย์ของกองทุน เช่น ค่า Commission จากหุ้น

 

ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากสินทรัพย์ของกองทุนรวม: คิดเป็น % ต่อปีของ NAV โดยค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายที่หักจากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของกองทุนรวมในระยะยาว

  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee): ค่าใช้จ่ายในการจัดการ หรือค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้แก่ทีมผู้จัดการกองทุนที่มีหน้าที่ในการบริหารกองทุนรวม
  • ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ (Trustee Fee): ค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ดูแลผลประโยชน์ ที่มีหน้าที่ในการรับรองราคา NAV ให้ถูกต้อง และควบคุมให้กองทุนดูแลผลประโยชน์ตามนโยบายการลงทุน
  • ค่าธรรมเนียมนายทะเบียน (Registrar Fee): ค่าใช้จ่ายแก่นายทะเบียน ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรายชื่อผู้ถือหน่วยลงทุน และสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น การจ่ายเงินปันผล เป็นต้น
  • ค่าใช้จ่ายอื่น: ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์ ค่าใช้จ่ายการตลาด เป็นต้น
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด (Total Expense Ratio): รวมค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากสินทรัพย์ของกองทุนรวมทั้งหมดซึ่งคิดเป็น % ต่อปีของ NAV
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5