
1. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อรับสัญญาณยุติชัตดาวน์–นักลงทุนคาดเฟดผ่อนคลายต่อ
2. PBOC ชี้การชะลอสินเชื่อเป็น “ธรรมชาติ” ของเศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนผ่าน
3. จีนเข้มงวดกฎกู้เงินต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจระดับท้องถิ่น
4. SoftBank ขายหุ้นทั้งหมดใน Nvidia มูลค่า $5.8 พันล้าน
5. ทรัมป์เผยใกล้บรรลุข้อตกลงการค้ากับอินเดีย เตรียมลดภาษีสินค้านำเข้า
6. จำนวน นทท. ต่างชาติเดินทางเข้าไทยสัปดาห์ก่อนจำนวน 698,389 คน
Bites for Breakfast
By INVX Investment Products & Strategy
12 November 2025
1. ดัชนี Dow Jones +1.2%, S&P 500 +0.2%, ส่วน Nasdaq 100 -0.3% หลังนักลงทุนมองว่า การปิดรัฐบาลสหรัฐฯ (shutdown) ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ใกล้สิ้นสุด และการเปิดหน่วยงานรัฐจะช่วยให้ข้อมูลเศรษฐกิจกลับมาเผยแพร่ตามปกติ หนุนมุมมองต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด หุ้น FedEx +5% จากคาดการณ์กำไรไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น YoY ขณะที่ Nvidia -3% หลัง SoftBank ขายหุ้นทั้งหมดมูลค่า $5.83 พันล้านเพื่อระดมทุนลงทุนด้าน AI ด้านนักกลยุทธ์ Andrew Tyler จาก JPMorgan ระบุว่า “การเปิดรัฐบาลจะหนุน GDP ไตรมาส 4 และเพิ่มสภาพคล่องในตลาดหุ้น” ส่วนราคาทองคำขยับขึ้น 0.3% สู่ $4,128 ต่อออนซ์ และน้ำมัน WTI +1.3% สู่ $60.9 ต่อบาร์เรล
2. ธนาคารกลางจีน (PBOC) ระบุว่าการขยายสินเชื่อที่ชะลอลงไม่ใช่สัญญาณลบต่อเศรษฐกิจ แต่สะท้อนการเปลี่ยนผ่านจาก “การเติบโตแบบใช้หนี้” ไปสู่ “การเติบโตคุณภาพสูง” โดยในรายงานนโยบายการเงินไตรมาสล่าสุด PBOC ย้ำว่าจะคงสภาพคล่อง “ค่อนข้างผ่อนคลาย” และแนะนำให้ธนาคารพาณิชย์ยังคงสนับสนุนสินเชื่อแก่ภาคเศรษฐกิจจริง ทั้งนี้ จีนเผชิญการชะลอตัวของสินเชื่อ โดยยอดสินเชื่อเดือนกันยายนโตเพียง 6.4% YoY ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ PBOC ระบุว่าความต้องการสินเชื่อที่ลดลงส่วนหนึ่งมาจากการชะลอตัวของอสังหาริมทรัพย์ การระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้และหุ้นที่เพิ่มขึ้น รวมถึงโครงการสลับหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นที่ลดความจำเป็นในการกู้เงินจากธนาคาร
3. คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ (NDRC) ของจีนออกหลักเกณฑ์ใหม่เข้มงวดขึ้นในการอนุมัติวงเงินกู้ต่างประเทศให้รัฐวิสาหกิจระดับมณฑล โดยกำหนดให้ต้องพิสูจน์ผลกำไรและมีธุรกิจหลักชัดเจน จึงจะได้รับอนุญาตออกตราสารหนี้ในต่างประเทศ มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ควบคุมหนี้รัฐบาลท้องถิ่นที่ขยายตัวสูงและขณะนี้ถูกมองว่าเป็นความเสี่ยงใหญ่ทางเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ โดย NDRC อนุญาตให้กู้เงินต่างประเทศได้เฉพาะเพื่อรีไฟแนนซ์หนี้เดิมเท่านั้น ทั้งนี้ กระทรวงการคลังประเมินมูลค่าหนี้แฝงของท้องถิ่นอยู่ที่ 10.5 ล้านล้านหยวน ($1.5 ล้านล้าน)
4. SoftBank Group Corp. สร้างความประหลาดใจให้ตลาดด้วยการขายหุ้นทั้งหมดใน Nvidia Corp. มูลค่ารวม $5.8 พันล้าน บริษัทระบุว่าการขายครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับมุมมองต่อ Nvidia เป็นเพียง “การจัดพอร์ตเชิงกลยุทธ์” เพื่อเพิ่มสภาพคล่องสำหรับโครงการใหม่ภายใต้แผน “AI Transformation” ของ Masayoshi Son บริษัทระบุว่าการขายดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเพิ่มสัดส่วนถือครอง Nvidia มูลค่าราว $3 พันล้านเมื่อต้นปี ส่งผลให้กำไรสุทธิไตรมาส 2 ปีงบประมาณพุ่งแตะ ¥2.5 ล้านล้าน ($16.2 พันล้าน) สูงกว่าตลาดคาดหลายเท่า นอกจากนี้ SoftBank ยังประกาศแตกพาร์หุ้น 4 ต่อ 1 มีผลวันที่ 1 ม.ค. 2026
5. ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่าสหรัฐฯ “ใกล้มาก” ต่อการทำข้อตกลงการค้าฉบับใหม่กับอินเดีย และมีแผน “ลดภาษีสินค้าบางรายการ” หลังอินเดียลดการซื้อน้ำมันจากรัสเซียลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากอินเดียสูงสุดถึง 50% เพื่อกดดันให้หยุดซื้อน้ำมันรัสเซีย แต่ปัจจุบันทั้งสองประเทศกลับเข้าสู่บรรยากาศการเจรจาที่สร้างสรรค์มากขึ้น เจ้าหน้าที่การค้าของอินเดียเผยว่าการเจรจามีความคืบหน้า และรอเพียงการตอบกลับจากฝั่งสหรัฐฯ ทรัมป์ยังได้สาบานตนแต่งตั้ง เซอร์จิโอ กอร์ เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำอินเดีย โดยระบุว่าจะส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงาน เทคโนโลยี และความมั่นคงระหว่างสองประเทศ
6. จำนวน นทท. ต่างชาติเดินทางเข้าไทยสัปดาห์ก่อนจำนวน 698,389 คน เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 8.4%WoW หนุนจากทั้งกลุ่ม นทท. ระยะใกล้ (มาเลเซีย จีน อินเดีย) และไกล (สหรัฐฯ รัสเซีย ยุโรป) หลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน สะท้อนโมเมนตัมบวกต่อเนื่องของฤดูกาลท่องเที่ยวในปีนี้ ส่วนจำนวน นทท. สะสมทั้งปี 2568 แตะ 27,587,845 คน ต่ำกว่าปีก่อน 7.1%YoY
ประเด็นที่ต้องติดตาม: Inflation Rate YoY ของอินเดีย เดือน ต.ค. คาดว่าจะออกมาที่ 0.4% จากก่อนหน้าที่ 1.54%