
1. S&P 500 ทำ All-time highs ขานรับ GDP แข็งแรง–หุ้นเทคหนุนตลาด
2. เศรษฐกิจสหรัฐฯ โต 4.3% ในไตรมาส 3 โตแรงสุดรอบ 2 ปี
3. RBI อัดสภาพคล่อง ผ่านการซื้อพันธบัตร–ทำ FX swap หนุนรูปี-กดยีลด์ลง
4. สหรัฐฯ เลื่อนกำหนดการขึ้นภาษีชิปจากจีนไปปี 2027 ตามข้อตกลงทรัมป์–สี
5. ไทยเล็งคุมเข้มธุรกรรมทองคำ หลังบาทแข็งทำสถิติ 4 ปี
6. จำนวน นทท. ต่างชาติเดินทางเข้าไทยในสัปดาห์ก่อนที่ 778,341 คน
Bites for Breakfast
By INVX Investment Products & Strategy
24 December 2025
1. ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 0.5% ทำสถิติสูงสุดใหม่ นำโดยหุ้นเทคขนาดใหญ่ ขณะที่ปริมาณซื้อขายเบาบางก่อนวันหยุดคริสต์มาส ด้านบอนด์ระยะสั้นอ่อนตัว บอนด์ยีลด์ 2 ปีทรงตัวเหนือ 3.5% หลังข้อมูล GDP สหรัฐฯ ไตรมาสล่าสุดเติบโตแข็งแกร่ง แม้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอ่อนลง นักลงทุนยังมองโอกาส “Santa Rally” ต่อเนื่อง โดย Nasdaq 100 ปิดบวก 0.5% และ Dow Jones เพิ่ม 0.2% ส่วนดอลลาร์อ่อนค่า 0.3% นักกลยุทธ์จาก Morgan Stanley ระบุว่า AI investment และการบริโภคระดับบนยังขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 2026 ขณะที่ตลาดให้น้ำหนักโอกาสลดดอกเบี้ยเดือนม.ค. ต่ำกว่า 20%
2. GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 3 ขยายตัว 4.3% (SAAR) เร็วที่สุดในรอบสองปี จากแรงหนุนของการใช้จ่ายผู้บริโภคที่โต 3.5% และการลงทุนธุรกิจ โดยเฉพาะอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และดาต้าเซ็นเตอร์ แม้รายงานถูกเลื่อนจากการปิดหน่วยงานรัฐ แต่ข้อมูลยืนยันว่าเศรษฐกิจยังแข็งแรงผ่านช่วงกลางปี ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน PCE อยู่ที่ 2.9% สูงกว่าเป้าหมายเฟดเล็กน้อย เฟดคาดเศรษฐกิจจะฟื้นต่อในปี 2026 จากแรงหนุนของนโยบายการคลังและการใช้จ่ายด้าน AI ส่วนการส่งออกสุทธิช่วยเพิ่ม GDP 1.6 จุด ขณะที่การสำรวจของ Bloomberg ระบุว่านักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยเพียงหนึ่งครั้งในปี 2026
3. ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) จะอัดฉีดสภาพคล่องรวม $32 พันล้าน ผ่านการซื้อพันธบัตรรัฐบาล มูลค่า $22 พันล้าน ใน 4 ช่วงเดือนธ.ค. 2025 และ ม.ค. 2026 พร้อมทำ FX swap มูลค่า $10 พันล้าน ในเดือนม.ค. 2026 หลังสภาพคล่องระบบธนาคารพลิกเป็นขาดดุลเพราะการขายดอลลาร์เพื่อพยุงค่าเงินรูปี มาตรการดังกล่าวช่วยกดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้นในช่วงก่อนหน้า ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จาก ICICI Securities คาดว่ายีลด์อาจลดลงสู่ 6.50% ขณะที่ RBI ระบุจะติดตามสภาพคล่องอย่างใกล้ชิด
4. รัฐบาลสหรัฐฯ ตกลงเลื่อนกำหนดการขึ้นภาษีนำเข้าชิปรุ่นพื้นฐานจากจีนออกไปจนถึง กลางปี 2027 ตามข้อตกลงพักรบทางการค้าระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แม้สหรัฐฯ ระบุว่าจีนใช้นโยบายเอื้อผู้ผลิตในประเทศจนบิดเบือนการแข่งขัน ทำให้อัตราภาษีปัจจุบันยังคงเป็น 0% ต่อไปอีกอย่างน้อย 18 เดือน ก่อนจะเริ่มปรับขึ้นในวันที่ 23 มิ.ย. 2027 ซึ่งสหรัฐฯ จะประกาศอัตราภาษีจริงล่วงหน้า 30 วัน มาตรการนี้ครอบคลุมไดโอด ทรานซิสเตอร์ และวงจรรวมพื้นฐาน การเลื่อนขึ้นภาษีช่วยลดแรงตึงเครียดต่อซัพพลายเชนและผู้ผลิตชิปในเอเชียระยะสั้น
5. กระทรวงการคลังของไทยและ ธปท. ร่วมแถลง 3 มาตรการเพื่อกำกับดูแลการซื้อขายทองคำผ่านแพลตฟอร์มเพื่อลดแรงกดดันต่อบาทแข็งค่า ได้แก่ ให้ร้านทองรายงานข้อมูลธุรกรรม, สรรพากรพิจารณาการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ และ ธปท. กำหนดเพดานปริมาณการทำธุรกรรมทองคำ เพื่อจำกัดความผันผวนในตลาดเงิน
6. จำนวน นทท. ต่างชาติเดินทางเข้าไทยในสัปดาห์ก่อนที่ 778,341 คน เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 10.4%WoW โดยพบการเร่งตัวขึ้นที่ชัดเจนจากกลุ่ม นทท. ระยะไกล และการฟื้นตัวของ นทท. มาเลเซียจากช่วงปิดภาคเรียน ขณะที่ นทท. จีนและอินเดียทยอยฟื้นตัว ทำให้จำนวน นทท. ต่างชาติสะสมในปีนี้รวม 31,756,947 คน ต่ำกว่าในปีก่อน 7.3%YoY
ประเด็นที่ต้องติดตาม: Initial Jobless Claims ของสหรัฐฯ คาดว่าจะออกมาที่ 226K จากก่อนหน้าที่ 224K