Keyword
Bites for Dinner

Bites for Dinner - เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้ 8 ก.ย. 2568

8 Sep 25 5:31 PM
เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้
สรุปสาระสำคัญ

1.ฟิวเจอร์สสหรัฐฯ ขยับขึ้นเล็กน้อย และเคลื่อนไหวใกล้จุดสูงสุดประวัติการณ์
2.นักลงทุนรอ CPI ที่จะประกาศในวันพฤหัสบดี อาจส่งผลต่อการตัดสินใจของ Fed
3.นายกฯ ฝรั่งเศสเตรียมลงมติไม่ไว้วางใจ อาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินยุโรป
4.นายกฯ ญี่ปุ่นลาออก ส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนค่า
5.ราคาน้ำมันพุ่งหลัง OPEC+ ประกาศเพิ่มการผลิตในอัตราที่น้อยกว่าที่คาด
6.SET +0.1% ขึ้นเช้าลงบ่าย สรุปปิดนิ่ง

🌙 เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้ 8 กันยายน 2568

 

1. ฟิวเจอร์ส S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.2%, Nasdaq 100 Futures เพิ่มขึ้น 0.4% และ Dow Futures เพิ่มขึ้น 0.1% ตลาดหลักวอลล์สตรีทปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนสิงหาคมที่อ่อนแอกว่าที่คาดไว้ ซึ่งตอกย้ำถึงการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดแรงงานสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวได้ช่วยยืนยันความคาดหวังว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25% ในการประชุมวันที่ 16-17 กันยายน และอาจถึงขั้นลดถึง 0.50% ด้วยซ้ำ แม้จะมีการปรับตัวลงในช่วงท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ดัชนี S&P 500 ยังคงอยู่ไม่ไกลจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว แต่นักวิเคราะห์ก็ชี้ว่าเดือนกันยายนเป็นเดือนที่ความเชื่อมั่นของตลาดมักจะอ่อนแอ และมูลค่าหุ้นก็อยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบ เช่น นโยบายภาษีของทรัมป์ ความกังวลทางการคลังที่ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้น และความระมัดระวังเกี่ยวกับกระแสปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ดำเนินมาหลายปี

 

2. ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สำหรับเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญของแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ข้อมูลจากสำนักสถิติแรงงานสหรัฐฯ (Bureau of Labor Statistics) ซึ่งจะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ คาดว่าจะแสดงให้เห็นว่าราคาเพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเร่งตัวขึ้นเล็กน้อยจาก 2.7% ในเดือนกรกฎาคม ตัวเลขดังกล่าวอาจทำให้ Fed ต้องเผชิญกับภัยคุกคามพร้อมกันต่อเป้าหมายสองประการของพวกเขา ได้แก่ การจ้างงานสูงสุดและการรักษาเสถียรภาพราคา (กำหนดให้อัตราเงินเฟ้อระยะยาวอยู่ที่ 2%) ซึ่งจะทำให้ผู้กำหนดนโยบายต้องรับมือกับทั้งตลาดแรงงานที่อ่อนแอและราคาที่ยังคงเหนียวแน่น ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะ "stagflation" ที่มีเงินเฟ้อสูง การเติบโตซบเซา และการว่างงานสูง จนถึงตอนนี้ เจ้าหน้าที่ Fed รวมถึงประธาน Jerome Powell ได้ส่งสัญญาณว่าพวกเขาน่าจะให้ความสำคัญกับการรับมือกับตลาดแรงงานที่ชะลอตัวมากกว่าเงินเฟ้อ การลดอัตราดอกเบี้ยในทางทฤษฎีสามารถกระตุ้นการลงทุนและการจ้างงานได้ แม้จะมีความเสี่ยงที่จะกระตุ้นการเติบโตของราคาที่ยังคงอยู่ก็ตาม

 

3. การเมืองระหว่างประเทศจะกลับมาเป็นจุดสนใจในวันนี้ เมื่อรัฐบาลฝรั่งเศสมีกำหนดจะลงมติไม่ไว้วางใจแผนการคลังของนายกรัฐมนตรี Francois Bayrou หากพรรคฝ่ายค้านลงมติคัดค้าน ซึ่งคาดการณ์กันอย่างกว้างขวาง Bayrou จะถูกบังคับให้ลาออกจากตำแหน่งต่อนาย Emmanuel Macron ประธานาธิบดีฝรั่งเศส รัฐบาลฝรั่งเศสได้ตั้งเป้าหมายที่ทะเยอทะยานในการลดการขาดดุลจาก 4.6% ของ GDP ในปีหน้า เหลือ 2.8% ภายในปี 2572 ซึ่งต้องมีการรวมการตัดค่าใช้จ่ายและการปฏิรูปเชิงโครงสร้างอื่นๆ ที่มีมูลค่ารวม 43,800 ล้านยูโร แต่ความสามารถในการนำแผนนี้ไปปฏิบัติได้ยังเป็นปัจจัยที่สร้างความไม่แน่นอนอย่างมาก เนื่องจากบางส่วนของแผน รวมถึงข้อเสนอให้ยกเลิกวันหยุดราชการ ได้รับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากประชาชน

 

4. ความไม่มั่นคงทางการเมืองยังเพิ่มขึ้นในญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ หลังจากนายกรัฐมนตรี Shigeru Ishiba กล่าวว่าจะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค Liberal Democratic Party เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากพรรคร่วมรัฐบาลพ่ายแพ้อย่างยับเยินในการเลือกตั้งวุฒิสภา Ishiba ส่งสัญญาณว่าการลาออกของเขาเป็นผลมาจากการที่โตเกียวได้บรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการเรียกเก็บภาษีสินค้าญี่ปุ่นในอัตราที่ค่อนข้างต่ำ การลาออกอย่างกะทันหันนี้เปิดประตูสู่การแย่งชิงตำแหน่งผู้นำในประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก โดยเฉพาะหลังจากพรรค LDP ได้สูญเสียเสียงข้างมากในวุฒิสภา ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างรุนแรงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ หลังการลาออกของ Ishiba แต่ได้ฟื้นตัวบางส่วนในเวลาต่อมา ขณะที่ดัชนี Nikkei 225 ในญี่ปุ่นปรับขึ้น

 

5. ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นหลังจากกลุ่มผู้ผลิต OPEC+ ตกลงที่จะเพิ่มกำลังการผลิตในอัตราที่น้อยกว่าที่เห็นเมื่อต้นปีนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 1.7% มาอยู่ที่ 66.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.7% มาอยู่ที่ 62.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร หรือ OPEC+ ตกลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่าจะเพิ่มการผลิตรวม 137,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนตุลาคม ซึ่งน้อยกว่าการเพิ่มขึ้นรายเดือนที่ประมาณ 555,000 บาร์เรลต่อวันและ 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนก่อนหน้า

 

6. SET Index ปิดวันนี้ที่ 1,266.11 จุด เพิ่มขึ้น 1.31 จุด (+0.10%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 54,546.06 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าปรับตัวบวกได้ดี ก่อนจะย่อตัวลงมา โดยมีเงินทุนไหลเข้ากลุ่มค้าปลีกจากความคาดหวังว่ารัฐบาลของพรรคภูมิใจไทยจะนำโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ "คนละครึ่ง" กลับมาใช้อีกครั้ง ส่งผลให้หุ้นที่ได้รับประโยชน์โดยตรงปรับตัวขึ้นอย่างดี เช่น CPALL, CPAXT, CRC, CBG และ OSP

 

-----
ที่มา: Investing.com และ InnovestX Research
แปลและเรียบเรียง: Content Team, InnovestX

 

ดาวน์โหลดแอป InnovestX วันนี้ เพื่อเข้าถึงโอกาสการลงทุนในหุ้นสหรัฐและตลาดทั่วโลก
📱 ดาวน์โหลดแอป: https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b

 

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5