ปัจจัยภายในหนุน SET: SET ปรับขึ้นเหนือ 1400 จุด โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ และทิศทาง fund flow ไหลเข้า
กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำ “Selective Buy” ในหุ้นที่ได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หุ้นปันผลคุณภาพดี หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง และหุ้นที่มีโมเมนตัมกำไรดี
หุ้นเด่นประจำวัน: BBL และ CKP เป็นหุ้นเด่น โดย BBL มีปัจจัยกระตุ้นจากการตั้งสำรองลดลงและการเติบโตของสินเชื่อ ส่วน CKP ได้ประโยชน์จากผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลงและปริมาณน้ำสำหรับการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
ปัจจัยภายในยังมีความโดดเด่น |
SET ปรับขึ้นแรงเหนือ 1400 จุด โดยแม้จะมีการชะลอตัวเพื่อลดความร้อนแรงบ้าง อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมยังมีสัญญาณที่ดี และยังมีแรงหนุนจากปัจจัยภายในที่มีความโดดเด่น ได้แก่ 1) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล 2) เม็ดเงินจากกองทุนวายุภักษ์ และ 3) ทิศทาง fund flow ไหลเข้า ด้านแนวรับอยู่ที่ 1380-1390 จุด ส่วนแนวต้านถัดไปอยู่ที่ 1415 และ 1425 จุด ตามลำดับ
|
ประเด็นสำคัญ |
• คลังเตรียมขายหน่วยลงทุนวายุภักษ์ 1 แก่นักลงทุนทั่วไปในวันที่ 16-20 ก.ย. นี้ และวันที่ 18-20 ก.ย. สำหรับนักลงทุนสถาบัน และจะเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นไทยในวันที่ 1 ต.ค. นี้ คาดมีเม็ดเงินเข้าตลาดราว 1.5 แสนลบ.
|
กลยุทธ์การลงทุน |
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัว Sideway Up จากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่น่าจะมีแนวโน้มฟื้นตัวหลังเริ่มมีความชัดเจนของสถานการณ์ทางการเมืองไทยและการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปลาย 3Q-4Q67 บวกกับ มอง ธปท. เปิดโอกาสเตรียมลดดอกเบี้ยได้มากขึ้น รวมไปถึงกระแส Fund Flow คาดยังไหลเข้าในตลาด EM ต่อเนื่อง ทำให้ค่าเงินบาทและเอเชียแข็งค่าขึ้น โดยมองเม็ดเงินลงทุนจะไหลออกจากกลุ่มพลังงาน ปีโตรเคมี สื่อสารและอิเล็กทรอนิกส์ เข้าสู่กลุ่มธนาคาร ค้าปลีก รับเหมาฯ และการแพทย์ ซึ่งช่วยลดทอนผลกระทบจากปัจจัยภายนอก โดยคาดดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการของสหรัฐและจีนจะชะลอตัวลง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy"
|
ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ |
ช่วงสั้นมอง SET จะ Sideway Up จากคาดหวังเริ่มมีความชัดเจนของสถานการณ์ทางการเมืองไทยและการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปลาย 3Q-4Q67 กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy" ใน 4 ธีม ดังนี้
|
Daily Top picks
|
BBL: เป็นหุ้นเด่นกลุ่มธนาคาร หลังมองมีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นจาก 1) การตั้งสำรอง (credit cost) ลดลงในช่วงที่เหลือของปีนี้ 2) การเติบโตของสินเชื่อที่โดดเด่น 3) NIM ที่แข็งแกร่ง และ 4) อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ลดลง อีกทั้ง valuation ยังถูก โดยซื้อขาย PER 67F ที่ 6.2 เท่า (-2SD) และมีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำ
|
บทวิเคราะห์วันนี้ |
TQM - ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วยการซื้อกิจการใหม่ |