สวัสดีตอนเช้า - 20 ก.ย. 2566

20 Sep 23 9:30 AM

Screenshot-2023-09-20-103005-20240912014514

แกว่งในกรอบ รอประชุมเฟด

แนวโน้มตลาดวันนี้

SET ยังเป็นสัญญาณลบ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1515 จุด ซึ่งใช้เป็นกรอบล่างในวันนี้ ขณะที่การฟื้นตัวถูกจำกัด โดยมีกรอบบนบริเวณแนวต้าน 1530 จุด ขณะที่นักลงทุนในตลาด รอติดตามประเด็นสำคัญ สำหรับผลการประชุมเฟดในคืนนี้ ทำให้มองดัชนีมีแนวโน้มแกว่งระหว่างกรอบ 1515-1530 จุด

ประเด็นสำคัญ

• OECD ประเมิน ศก. โลกมีทิศทางชะลอตัวลงจาก ดบ. ที่สูง และการฟื้นตัวของ ศก. จีนที่ล่าช้า โดยประเมินปี 2567 GDP โลกจะเติบโต 2.7%YoY ลดลงจากปี 2566 ที่คาดเติบโต 3.0%YoY• สหรัฐรายงานตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้าน ส.ค. ปรับตัวลง 11.3% สู่ระดับ 1.283 ล้านยูนิต ต่ำสุดนับตั้งแต่ มิ.ย. 63 และต่ำกว่าที่ตลาดคาด โดยได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของ ดบ. เงินกู้จำนอง• รัฐบาลรัสเซียพิจารณาเก็บภาษีส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันทุกประเภทที่ 250 ดอลลาร์/ตัน ซึ่งสูงกว่าค่าธรรมเนียมปัจจุบันอย่างมาก ตั้งแต่ 1 ต.ค. 66-มิ.ย. 67 เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเชื้อเพลิง• นายกฯ หารือกลุ่ม BlackRock ศึกษาแนวทางลงทุนไทย สนับสนุนธุรกิจ Clean Energy เพื่อขยายฐานการลงทุนและการผลิต ทั้งยังสนใจลงทุนใน Sustainability Linked Bond ที่จะออกโดย รบ. ไทย• กรมการค้าภายในระบุผู้ผลิตสินค้า-บริการ เตรียมลดราคาหลังต้นทุนพลังงานลดจากมาตรการรัฐ เตรียมดึงร้านค้าธงฟ้า 1 แสนแห่งทั่วไทยร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต· คลังเตรียมเสนอพักหนี้ธุรกิจ SMEs ที่ค้างชำระหนี้เกินกว่า 90 วัน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ของ ธปท. เป็นเวลา 1 ปี โดยมีทั้งหมด 3 ล้านราย คิดเป็นมูลหนี้ราว 3 แสนลบ.• ก. พลังงานเตรียมศึกษาข้อมูลปรับโครงสร้างราคาพลังงานระยะยาวให้ราคาพลังงานเหมาะสม ส่วนการเปิดนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเสรีจะเปิดโอกาสให้บางกลุ่ม เช่น ภาคขนส่ง เพื่อช่วยลดต้นทุน

กลยุทธ์การลงทุน

มอง SET จะยังเคลื่อนไหวในกรอบ 1540-1580 จุด หลังขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ เข้ามาช่วยกระตุ้นบรรยากาศการลงทุน โดยในประเทศรอติดตามการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล ขณะที่ต่างประเทศอยู่ระหว่างจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสำคัญ นำโดย FED (21 ก.ย.) BoE (21 ก.ย.) และ BoJ (22 ก.ย.) ทั้งนี้ InnovestX คาด FED จะมีมติคงดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ตามตลาดคาด ขณะที่ BoE และ BoJ จะยังดำเนินการใช้นโยบายการเงินตึงตัวต่อไป ซึ่งจะทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ล็อคเป้าลงทุน

Weekly Portfolio : ภาพรวมบรรยากาศลงทุนยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ และอยู่ระหว่างรอติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสำคัญ อาทิ FED, BoE, BoJ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ดังนี้1) หุ้นที่คาดได้รับผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล (ลดค่าไฟและราคาน้ำมันดีเซล พักหนี้เกษตรกรฯ ยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยวจีน) อีกทั้ง 2H66 คาดกำไรจะเติบโต YoY หรือกำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เลือก CPALL CRC OSP HTC AOT ERW KCE HANA2) หุ้น Top Picks กลยุทธ์การลงทุน 4Q66 เลือก AOT BCH CRC KCE KTB 3) หุ้นเก็งกำไรจากกำลังซื้อตะวันออกกลางที่ดีขึ้นตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น (ธีมปิโตรดอลลาร์) เลือก AH BH PTTEP BCPขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG มีต้นทุนน้ำตาลสูง) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT)

Daily Focus

TOP ค่าการกลั่น 3Q66TD ฟื้นตัวแข็งแกร่ง หนุนโดยส่วนต่างราคาน้ำมันอากาศยาน ดีเซล และเบนซิน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของ TOP จะช่วยผลักดันผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น อีกทั้งราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นยังหนุนผลประกอบการของกลุ่มได้ผ่านกำไรจากสต๊อกน้ำมัน BBL 3Q66 และปี 2566 คาดจะรายงานกำไรเติบโตแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มธนาคารอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจาก credit cost ที่ลดลงมากสุด NIM ที่กว้างขึ้นพร้อมกับแนวโน้ม upside และสินเชื่อที่เติบโตอย่างยั่งยืน

บทวิเคราะห์วันนี้

กลุ่มปิโตรเคมี – ราคาแนฟทาพุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 7 เดือน

Range-bound, waiting for FOMC

Market today

The SET continues to show negative indicators with next support at 1,515, used as today’s lower bound. Recovery is limited with resistance at 1,530. All eyes are on the FOMC meeting and we expect the index to be range-bound at 1,515-1,530.

Today’s highlights

• OECD expects the world economy to be slowed by high interest rates and a flagging recovery in China’s economy. In 2024, world GDP is forecast to grow 2.7%, lower than 2023’s 3.0%.• US housing starts in Aug declined by 11.3% to 1.283mn units, the lowest since Jun 2020 and lower than expected, derailed by a spike in mortgage rates.• Russia is considering collecting export tax on all oil products from Oct 1, 2023 to June 2024 of US$250/tonne, which is significantly higher than the current rate to resolve a fuel shortage problem.• The prime minister has held discussions with BlackRock about investment in Thailand, promoting clean energy to expand investment and manufacturing; it is interested in investing in sustainability-linked bonds to be issued by Thai government.• The Department of Internal Trade says manufacturers and service providers plan to reduce prices after energy costs are reduced by the government and 100,000 Thong Fah shops will return to join the digital wallet program.• The Ministry of Finance plans a year-long pause on loans for SMEs who have debt overdue for more than 90 days due to the effect of COVID-19. There are around 3mn who qualify with total debt of Bt300bn.• The Ministry of Energy is studying revising the long-term energy price structure to obtain a more suitable pricing mechanism, while free import of oil products will give the transport sector a chance to save cost.

Strategy today

The SET is expected to move between 1,540 and 1,580 without a new factor to stimulate play. Domestically, follow the release of more stimulus from the government. Abroad, keep an eye on the monetary policies of central banks who meet this week: the Fed (Sep 21), BoE (Sep 21) and BoJ (Sep 22). InnovestX and the market expect the Fed to keep the rate flat at 5.25-5.50%, while the BoE and BoJ are expected to keep their tight stance, which will cause the US dollar to weaken. Our investment strategy is for "Selective Buy".

Trading today

Weekly portfolio: There is little on board to move the market as participants wait for the monetary policy meetings of three central banks, the Fed, BoE and BoJ. Our investment strategy is “Selective Buy” in themes with specific drivers: 1) Companies expected to benefit from the government stimulus packages (cutting electricity and diesel prices, pausing agricultural loans and visa-free entry for Chinese) and whose 2H23 profit is expected to grow YoY or pass bottom – CPALL, CRC, OSP, HTC, AOT, ERW, KCE and HANA. 2) Our 4Q23 top picks – AOT, BCH, CRC, KCE and KTB. 3) Stocks for speculation on better purchasing power in the Middle East as oil price rises (petrodollar theme) – AH, BH, PTTEP and BCP.In the medium term we recommend to be cautious on stocks that are expected to be affected by El Nino, which will erode purchasing power in the agricultural sector: Commerce (GLOBAL), Finance (MTC, SAWAD), Automotive (SAT, STANLY) and Food & Agriculture (CPF and GFPT).

Daily Focus

TOP: 3Q23TD refinery margin has shown strong recovery, supported by spread of jet fuel, diesel and gasoline, TOP’s main products. These will support refinery profit, while higher oil price will give further support via stock gain.BBL: 3Q23 and 2023 profit are expected to show the strongest growth in the bank sector, supported by the greatest decrease in credit cost, higher NIM and upside from sustainable loan growth.

Today’s reports

Petrochemicals – Naphtha price surges to 7-month high

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม Daily230920_T

PDF Click Daily230920_E