Keyword
PDF Available  
Macro Making Sense

สรุปประเด็น IMF และ INVX ปรับเพิ่มประมาณการ GDP ปี 2025 ขึ้น

By ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์|30 Jul 25 8:22 AM
สรุปสาระสำคัญ

สรุปประเด็น IMF และ INVX ปรับเพิ่มประมาณการ GDP ปี 2025 ขึ้น

  • IMF ปรับเพิ่มประมาณการ GDP โลกปี 2025 ขึ้นเป็น 3.0% (จาก 2.8% ในฉบับ เม.ย.) ในภาพรวม เศรษฐกิจโลกยังแสดงความ “ยืดหยุ่นอย่างเปราะบาง” ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่ยังอยู่ในระดับสูงจากนโยบายการค้าและความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์ โดย WEO รอบนี้ IMF ปรับ GDP โลกปี 2025 ขึ้นเป็น 3.0% และปี 2026 อยู่ที่ 3.1%การปรับเพิ่มมาจากแรงส่งในช่วงครึ่งปีแรก โดยเฉพาะ การเร่งนำเข้าล่วงหน้า (front-loading) ก่อนมาตรการภาษีศุลกากรใหม่จะเริ่มมีผล รวมถึงการผ่อนคลายนโยบายการเงินทั่วโลกหลังเงินเฟ้อเริ่มชะลอลง และ การอ่อนค่าของดอลลาร์ ที่ช่วยพยุงตลาดเกิดใหม่
  • INVX ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยขึ้นจากเหตุผล 3 ประการ 1. สัญญาณสงครามการค้าระหว่างประเทศที่ดีขึ้น หลังจากที่สหรัฐได้ทำข้อตกลงการเจรจาการค้ากับประเทศขนาดใหญ่และประเทศในเอเชีย 2. กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกขึ้น เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจในครึ่งปีแรกของหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงไทยออกมาดีกว่าที่หลายฝ่ายคาด 3. ความเสี่ยงทางการเมืองและภูมิรัฐศาสตร์ที่จำกัด โดยแม้ความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเมืองจะมีมากขึ้น แต่เรามองว่า การยุบสภาหลังผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณเป็นไปได้สูงสุด (70-80%)

IMF ปรับเพิ่มประมาณการ GDP โลกปี 2025 ขึ้นเป็น 3.0% (จาก 2.8% ในฉบับ เม.ย.)

  • ในภาพรวม เศรษฐกิจโลกยังแสดงความ "ยืดหยุ่นอย่างเปราะบาง" ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่ยังคงอยู่ในระดับสูงจากนโยบายการค้าและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โดย IMF ได้ปรับเพิ่มประมาณการ GDP โลกปี 2025 ขึ้นเป็น 3.0% (จาก 2.8% ในฉบับ เม.ย.) และปี 2026 อยู่ที่ 3.1% สะท้อนผลของแรงส่งในช่วงครึ่งปีแรกจากการเร่งนำเข้าล่วงหน้า (front-loading) ก่อนมาตรการภาษีศุลกากรใหม่จะมีผล รวมถึงเงื่อนไขทางการเงินที่ผ่อนคลายขึ้น การอ่อนค่าของดอลลาร์ และนโยบายการคลังที่ขยายตัวในหลายประเทศ
  • ปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวในช่วงต้นปี:
  • Front-loading ของการค้าและการลงทุน: โดยเฉพาะสหรัฐฯ และจีน ที่เร่งกิจกรรมเศรษฐกิจเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการภาษีที่ยังไม่เริ่มมีผล
  • การชะลอการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ: การเลื่อนเส้นตายจาก 9 ก.ค. เป็น 1 ส.ค. และการลดภาษีชั่วคราวร่วมกับจีน 90 วันจนถึง 12 ส.ค. สะท้อนความพยายามในการหลีกเลี่ยงผลกระทบเชิงลบเฉียบพลัน
  • ตลาดการเงินโลกที่ฟื้นตัว: หุ้นสหรัฐฯ ทำจุดสูงสุดใหม่ ดอลลาร์อ่อนค่าลงกว่าคาด เปิดช่องให้ประเทศกำลังพัฒนาผ่อนคลายนโยบายการเงินได้มากขึ้น
  • การขยายตัวของ GDP ไตรมาส 1/2025 สูงกว่าคาด: โดยเฉพาะจีนโต 5.4%YoY, ยูโรโซนโต 1.5%, ขณะที่สหรัฐฯ หดตัว 0.5%QoQ,SAAR จากแรงกดดันภาคบริโภคที่แผ่วลงหลังเร่งตัวแรงในไตรมาสก่อนหน้า
  • เงินเฟ้อโลก:
  • คาดว่า headline inflation จะลดลง อยู่ที่ 4.2% (-0.1 ppt) ในปี 2025 และ 3.6% ในปี 2026 อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อสหรัฐฯ จะยังสูงกว่าเป้าหมาย 2% ถึงปี 2026 จากผลผ่านของภาษีและดอลลาร์ที่อ่อนค่า
  • ขณะที่ยูโรโซนและจีนมีแนวโน้มเงินเฟ้อต่ำลงหรือทรงตัวCore inflation โลกต่ำกว่า 2% แล้ว สะท้อนความอ่อนแรงของอุปสงค์ในบางภูมิภาค
  • ความเสี่ยงหลัก (Risks):
  • Downside Risks ยังเด่นชัด: โดยเฉพาะหากสหรัฐฯ กลับมาใช้ภาษีตามที่ระบุในจดหมายถึงคู่ค้าหลายประเทศ (สูงสุดถึง 50% สำหรับทองแดง หรือสินค้าอุตสาหกรรม) อาจฉุด GDP โลกลงได้อีก 0.2 จุดในปี 2025
  • ห่วงโซ่อุปทานอาจเผชิญ bottleneck หากมีมาตรการ non-tariff targeting เช่น semiconductor, pharma
  • ความเสี่ยงทางการคลัง: สหรัฐฯ ฝรั่งเศส และบราซิลมีหนี้และขาดดุลสูง อาจทำให้ bond yield พุ่งและทำให้ตลาดเงินผันผวน
  • ภูมิรัฐศาสตร์: ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและยูเครนยังคงเป็นปัจจัยกดดัน supply และราคาพลังงาน
  • Inventory Overhang: การ stock สินค้าล่วงหน้าในครึ่งปีแรกอาจนำไปสู่การลดคำสั่งซื้ออย่างรุนแรงหาก demand ไม่ฟื้น
Author
Slide3
ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์

หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5