PDF Available  
Macro Making Sense

สงครามแร่หายาก: ยกสองสหรัฐ-จีน เศรษฐกิจไทยในเดือน ก.ย. สัญญาณไร้ทิศทาง คลังปรับเป้า GDP ไทย สู่ 2.4% INVX ยังให้ 1.8%

By ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์|3 Nov 25 6:47 AM
สรุปสาระสำคัญ

สรุประเด็นสงครามแร่หายาก 

  • สงครามแร่หายาก: ยกที่สองสงครามเย็นสหรัฐ-จีน การประกาศพักรบทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนในต้นปี 2025 เป็นเพียงการซื้อเวลาเชิงยุทธวิธีมากกว่าการยุติสงครามอย่างแท้จริง โดยทั้งสองฝ่ายต้องการเวลาแก้ไขจุดอ่อนภายใน - สหรัฐฯ เผชิญความเปราะบางในห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญที่ต้องพึ่งพาการนำเข้า 100% ถึง 15 ชนิด ขณะที่จีนต้องการตลาดส่งออกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม ในมิติของสงครามแร่หายากระยะยาว จีนถือไพ่เหนือกว่าชัดเจนด้วยการครอบงำการผลิตแร่หายาก 60-80% และเทคโนโลยีการแปรรูป 90% ของโลก โดยเฉพาะแร่สำคัญอย่างกราไฟต์ แกลเลียม เจอร์เมเนียม และแอนติโมนี ซึ่งเป็นหัวใจของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า เซมิคอนดักเตอร์ และเทคโนโลยีทหาร InnovestX มองว่าโลกกำลังเข้าสู่สงครามเย็น 2.0 ที่มีแนวรบหลักคือเทคโนโลยีและแร่หายาก โดยแนะนำให้ไทยใช้กลยุทธ์สมดุลระหว่างทั้งสองมหาอำนาจ พัฒนาศักยภาพด้านแร่ทังสเตนและดีบุกเพื่อเป็นศูนย์กลางการแปรรูปในภูมิภาค
  • เศรษฐกิจไทยในเดือน ก.ย. สัญญาณไร้ทิศทาง INVX โดยมีเพียงภาคการส่งออกที่ขยายตัวดีที่ 19.2% จากหมวดอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และอัญมณี ขณะที่อุปสงค์ภายในประเทศอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยดัชนีการบริโภคภาคเอกชน (PCI) หดตัว -0.8% และดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (PII) หดตัวแรงที่ -4.5% เนื่องจากการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ลดลง
  • ภาคเกษตรกรรมยังคงเผชิญวิกฤตจากรายได้เกษตรกรหดตัว -17.1% จากราคาข้าว ยางพารา และผลไม้ที่ลดลง ประกอบกับผลผลิตที่ชะลอตัว แม้ว่าภาคอุตสาหกรรมและบริการจะฟื้นตัวเล็กน้อยหลังปัจจัยชั่วคราวคลี่คลาย แต่การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2025 อยู่ที่เพียง 65.2% ซึ่งแย่กว่าอดีตที่ 74.1% ถึง 10% สะท้อนการดำเนินนโยบายที่ล่าช้า ภาพรวมทั้งไตรมาส 3 เศรษฐกิจไทยชะลอลงจากไตรมาสก่อน โดย GDPnow คาดการณ์การเติบโตเพียง 1.5%
  • คลังปรับเพิ่ม GDP ไทยปี’68 สู่ 2.4% InnovestX ยังคงไว้ที่ 1.8% สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับเพิ่มประมาณการ GDP ไทยปี 2568 (2025) เป็น 2.4% จากเดิม 2.2% โดยคาดว่าจะได้แรงหนุนจากนโยบาย "คนละครึ่งพลัส" ที่จะกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชนให้ขยายตัว 3% ในไตรมาส 4 และการส่งออกที่จะเติบโต 10% โดยเฉพาะไปสหรัฐและจีนที่ขยายตัวสูงถึง 26.4% และ 10.8% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม InnovestX มีมุมมองที่ระมัดระวังกว่า โดยคาด GDP ปี 2025 จะขยายตัวเพียง 1.8% และลดลงเหลือ 1.4% ในปี 2026 เนื่องจากมองว่าไตรมาส 4/2025 เศรษฐกิจจะชะลอตัวรุนแรงเหลือเพียง 0.1% แทนที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้น โดย InnovestX คาดการบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวเพียง 1.2% (ต่ำกว่า สศค. ที่คาด 3%) การลงทุนภาคเอกชนจะหดตัว -0.5% (ตรงข้ามกับ สศค. ที่คาด +1.7%) และการส่งออกจะหดตัว -1.0% ในปี 2026 จากผลกระทบภาษีศุลกากรสหรัฐ โดย InnovestX ระบุความเสี่ยง 4 ด้าน ได้แก่ (1) สัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น(2) ค่าเงินบาทที่แข็งค่าไปแล้ว 5.6% (3) สินค้าคงคลังที่มีแนวโน้มหดตัว และ (4) พื้นที่การคลังที่จำกัดจากหนี้สาธารณะที่พุ่งใกล้ 70% ของ GDP พร้อมการปรับมุมมองเครดิตเป็นแง่ลบจาก Fitch และ Moody's
Author
Slide3
ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์

หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5