PDF Available  
Macro Making Sense

การส่งออกจีนหดตัวเกินคาด Scenario Analysis: Shutdown ฟองสบู่ AI: ความเสี่ยงหรือโอกาส

By ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์|10 Nov 25 6:47 AM
สรุปสาระสำคัญ

สรุประเด็นการส่งออกจีนหดตัวเกินคาด; สหรัฐฯ เผชิญหลากวิกฤต: ความเชื่อมั่น ตลาดแรงงาน Shutdown;  ฟองสบู่ AI: ความเสี่ยงหรือโอกาส

  • การส่งออกจีนหดตัวเกินคาด การส่งออกจีนหดตัว 1.1% YoY ในเดือนตุลาคม เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีนาคม 2024 สะท้อนว่าผลของการส่งออกล่วงหน้า (front-loading) เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรของ Trump สิ้นสุดลงแล้ว โดยการส่งออกไปสหรัฐฯ หดตัว 25.2% YoY เป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน ขณะที่ตลาดหลักอื่นๆ อย่าง EU ญี่ปุ่น และละตินอเมริกาก็ชะลอตัวชัดเจน มีเพียงอาเซียนและไทยที่ยังเติบโตได้ดีแต่ก็ชะลอลงเช่นกัน ด้านการนำเข้าขยายตัวเพียง 1.0% สะท้อนอุปสงค์ภายในที่อ่อนแอ โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังวิกฤต InnovestX มองว่านี่เป็นสัญญาณเริ่มต้นของการชะลอตัวของการส่งออกในภูมิภาค รวมถึงไทยที่อาจเผชิญความเสี่ยงจากมาตรการภาษี transshipment ของสหรัฐฯ ท่ามกลางแรงกดดันจากทั้งการส่งออกที่อ่อนแอและอุปสงค์ภายในที่จำกัด รัฐบาลจีนมีแนวโน้มต้องขยายมาตรการกระตุ้นทางการคลังอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาเสถียรภาพการเติบโตในไตรมาสสี่และต้นปี 2026
  • สหรัฐฯ เผชิญหลากวิกฤต: ความเชื่อมั่น ตลาดแรงงาน Shutdown ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ร่วงสู่ระดับใกล้สถิติต่ำสุดที่ 50.3 ในเดือนพฤศจิกายน จากการปิดงานรัฐบาลกลาง (Government Shutdown) ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ 1 ตุลาคม ส่งผลกระทบพนักงานรัฐ 650,000 คนและประชาชน 42 ล้านคนที่พึ่งพาบัตรสวัสดิการ SNAP ขณะที่ตลาดแรงงานเผชิญจุดเปลี่ยนสำคัญจาก "low hire, low fire" สู่ "no hire, but fire" โดยมีการปลดพนักงานสูงสุดรอบ 20 ปีที่ 153,074 ตำแหน่งในตุลาคม สะสมทั้งปีทะลุ 1 ล้านตำแหน่ง ในขณะที่การจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มเพียง 42,000 ตำแหน่งต่ำกว่า break-even และผู้บริโภคคาดการณ์โอกาส 43% ที่การว่างงานจะสูงขึ้น
  • InnovestX ประเมิน 3 สถานการณ์โดย Base Case (โอกาส 70%) คาดว่า shutdown จะยุติกลางพฤศจิกายนกระทบ GDP -1.15pp ใน Q4/2025 แต่จะ rebound 1.3pp ใน Q1/2026 ส่วน Worse Case (25%) หากยืดเยื้อถึงปลายปีจะกระทบ -2.0pp และ Worst Case (5%) หากข้ามปีเข้า 2026 จะนำไปสู่ภาวะถดถอยเต็มรูปแบบ โดยคาดว่า Fed จะลดดอกเบี้ย 25bps ในธันวาคมอย่างน้อยเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านโครงสร้างตลาดแรงงานและแรงกดดันเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น โดยเส้นทางดอกเบี้ยในปี 2026 จะแตกต่างกันไปตามความรุนแรงของวิกฤต (terminal rate 3.38%, 2.88% และ 2.38% ตามลำดับ)
  • ฟองสบู่ AI: ความเสี่ยงหรือโอกาส ตลาดหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ เผชิญสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ "Liberation Day" ท่ามกลางความกังวลเรื่อง valuation ที่สูงเกินไปและรูปแบบการจัดหาเงินทุนแบบวงกลมปิด (Circular Financing) ที่คล้ายยุค Dot-com Bubble โดย Nvidia ลงทุนใน OpenAI 100,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ OpenAI ซื้อชิปจาก Nvidia หลายพันล้านดอลลาร์และตกลงซื้อพลังประมวลผล 300,000 ล้านดอลลาร์จาก Oracle ในช่วง 5 ปีโดยยังไม่ชัดเจนว่าจะหาเงินจากไหน แม้บริษัทกลุ่ม Magnificent 7 ยังมีผลประกอบการแข็งแกร่งและแตกต่างจากยุค Dot-com แต่ valuation ที่สูงเกินไปโดยเฉพาะในเอเชีย สะท้อนการเก็งกำไรมากเกินไป นักลงทุนรายใหญ่อย่าง Michael Burry เปิดสถานะ short Nvidia และ Palantir ขณะที่ Warren Buffett เก็บเงินสดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และ CEO หลายท่านเตือนโอกาสตลาดปรับลง 10-20% ใน 12-24 เดือนข้างหน้า ซึ่งหากเกิดจะกระทบห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกตั้งแต่ผู้ผลิต semiconductor ในไต้หวันและเกาหลีใต้ไปจนถึงไทยที่เป็นซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แต่โอกาสยังคงมีอยู่เนื่องจากการขยายตัวของ data center เป็นแนวโน้มระยะยาวที่แท้จริง โดยไทยมีข้อได้เปรียบด้านที่ตั้งและต้นทุนพลังงานที่สามารถฉกฉวยโอกาสจากการกระจายความเสี่ยงของบริษัทเทคโนโลยีได้
Author
Slide3
ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์

หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5