PDF Available  
Macro Making Sense

เศรษฐกิจจีนชะลอตัวต่อเนื่อง ทรัมป์ลดภาษีอาหาร เศรษฐกิจไทยเสี่ยงจากสงครามการค้าและชายแดน

By ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์|17 Nov 25 7:41 AM
สรุปสาระสำคัญ

สรุประเด็นเศรษฐกิจจีนชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ทรัมป์ลดภาษีอาหาร เศรษฐกิจไทยท่ามกลางความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าและชายแดน

  • สถานการณ์เศรษฐกิจจีนชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจจีนกำลังชะลอตัวอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง 2025 และคาดว่าจะยังคอ่อนแอเข้าสู่ปี 2026 โดยตัวชี้วัดหลักแสดงสัญญาณชะลอหรือติดลบในหลายภาคส่วน ยอดค้าปลีกเดือนตุลาคมขยายตัวเพียง 2.9% สะท้อนกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัว การผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอลงเหลือ 4.9% จาก 6.5% ตามภาคส่งออกที่อ่อนแอ ขณะที่การลงทุนสินทรัพย์ถาวรหดตัวหนักถึง -11.4% ในเดือนตุลาคม แย่ที่สุดนับตั้งแต่ช่วงล็อกดาวน์ปี 2020 โดยแรงกดดันมาจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่หดตัว -23.2% และโครงสร้างพื้นฐาน -13.6% ซึ่งสะท้อนผลจากนโยบาย anti-involution และงบประมาณภาครัฐที่ถูกใช้ชำระหนี้ค้างมากกว่าลงทุนใหม่ แม้รัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้น 500,000 ล้านหยวนและสนับสนุนดอกเบี้ยกู้ แต่ด้วยเงินเฟ้อต่ำสะท้อนอุปสงค์อ่อนแอและความมั่งคั่งลดลงตามราคาอสังหาริมทรัพย์ ทางการคาดว่าจะต้องเดินหน้านโยบายผ่อนคลายแบบ targeted easing เพื่อประคับประคองอุปสงค์ภายในประเทศต่อไป
  • ทรัมป์ลดภาษีอาหาร: เครื่องมือบรรเทาเงินเฟ้อระยะสั้นก่อนการประชุม Fed เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามคำสั่งบริหารลดภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารกว่า 100 รายการ รวมถึงเนื้อวัว กาแฟ ผลไม้เขตร้อน และเครื่องเทศ หลังจากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งเทศบาลอย่างท่วมท้น โดยประเด็น "ค่าครองชีพ" กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ความสำคัญ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเดือนกันยายนอยู่ที่ 3.0% ห่างไกลจากเป้าหมาย 2% ของ Federal Reserve โดยแรงกดดันหลักมาจากสินค้าอุปโภคบริโภคที่ได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้า โดยเฉพาะราคากาแฟที่พุ่งสูงขึ้น 21% จากภาษี 50% ที่เก็บจากบราซิล และราคาเนื้อวัวที่ทำสถิติสูงสุด ขณะที่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์อาจมีราคาสูงขึ้น 30-69% จากภาษีที่เรียกเก็บจากจีน อินเดีย และเวียดนาม
  • การลดภาษีครั้งนี้ถือเป็นการยอมรับโดยปริยายว่านโยบายภาษีส่งผลกระทบต่อราคาที่ผู้บริโภคต้องจ่าย แม้ทรัมป์จะเคยยืนยันว่า "บริษัทต่างชาติเป็นผู้จ่ายภาษี" แต่ในความเป็นจริงภาระถูกส่งผ่านมาให้ผู้บริโภคอเมริกันรับภาระ มาตรการนี้เกิดขึ้นก่อนการประชุม FOMC ธันวาคม โดยประธาน Powell ได้กล่าวว่า "การลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมไม่ใช่ข้อสรุปที่แน่นอน" และความน่าจะเป็นของการลดดอกเบี้ย 0.25% ลดลงเหลือเพียง 49.4% จาก 95% เมื่อเดือนที่แล้ว กลายเป็น "การโยนเหรียญ" แม้การลดภาษียังไม่ครอบคลุมทุกสินค้าและไม่แก้ปัญหาโครงสร้างเงินเฟ้อได้ทั้งหมด แต่ช่วยบรรเทาแรงกดดันด้านค่าครองชีพในระยะสั้น ประกอบกับ Housing Inflation ที่มีแนวโน้มลดลง อาจสร้างพื้นที่ให้ Fed สามารถลดดอกเบี้ยในธันวาคมได้ หากข้อมูลแรงงานยืนยันความอ่อนแอที่เพิ่มขึ้น
  • เศรษฐกิจไทยท่ามกลางความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าและความตึงเครียดชายแดน
  • เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 สหรัฐระงับการเจรจาความตกลงการค้ากับไทย โดยเรียกร้องให้ไทย "ให้คำมั่นทำตามแถลงการณ์ร่วม" กับกัมพูชาที่เป็นส่วนหนึ่งของ "package deal" ที่สหรัฐตกลงลดภาษีนำเข้าสินค้าไทยจาก 36% เหลือ 19% แลกกับความร่วมมือด้านความมั่นคง แต่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงโดยติดตั้งทุ่นระเบิดใหม่ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บสาหัส อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน นายกรัฐมนตรีอนุทินแถลงว่าทรัมป์ฝากผ่านอันวาร์ว่า "สหรัฐจะไม่นำประเด็นปฏิญญาไทย-กัมพูชามาเกี่ยวข้องกับการเจรจาภาษีการค้า" ทั้งนี้ InnovestX วิเคราะห์ว่าแม้จะมีพัฒนาการเชิงบวกนี้ แต่สัญญาณเรื่องอัตราภาษียังไม่ชัดเจนเพียงพอ จึงวิเคราะห์ผลต่อเศรษฐกิจ โดยแบ่งเป็น 3 สถานการณ์: (1) Base Case - ตกลงกันได้ ภาษีคง 19% GDP ขยายตัว 1.4% ปี 2026 (2) Moderate Risk - ความตึงเครียดยืดเยื้อ 1 ไตรมาส ภาษีขึ้นเป็น 36% GDP ไตรมาสแรกติดลบ -0.2% ถึง -0.5% และการเติบโตทั้งปีชะลอเหลือ 1.2% (3) High Risk - ความรุนแรงยืดเยื้อตลอดปี ภาษีสูงถึง 36% GDP ขยายตัวเพียง 0.6% ทั้งนี้ สถานการณ์ผันผวนสูงทำให้ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
Author
Slide3
ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์

หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5