สรุปสาระสำคัญ
สรุปผลการประชุม FOMC วันที่ 9-10 ธ.ค.และการปรับประมาณการของ INVX
การตัดสินใจของ Fed และประมาณการเศรษฐกิจ
- Fed ลดดอกเบี้ย 25bps สู่กรอบ 3.50-3.75% ด้วยคะแนน 9-3 โดยมีกรรมการ 2 ท่านต้องการคงดอกเบี้ยและ 1 ท่านต้องการลดแรงกว่าที่ 50bps สิ่งที่โดดเด่นคือ Fed ปรับประมาณการ GDP ปี 2026 ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็น 2.3% (+0.5pp) ขณะที่คงคาดการณ์อัตราว่างงานไว้ที่ 4.4% และลดคาดการณ์เงินเฟ้อ Core PCE ปี 2026 เป็น 2.5% สะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังอยู่ในสภาวะ "Goldilocks" ที่เติบโตดีแต่เงินเฟ้อยังควบคุมได้
-
ท่าทีแบ่งขั้วและแนวทาง Meeting-by-Meeting
- Dot Plot ปี 2026 แสดงความแตกแยกในคณะกรรมการ โดย 11 ท่านต้องการลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งหรือไม่ลดเลย ขณะที่ 8 ท่านต้องการลดอย่างน้อย 2 ครั้ง Powell เน้นว่าดอกเบี้ยนโยบายอยู่ใกล้ระดับสมดุลแล้ว และจะประเมินแบบ "ประชุมต่อประชุม" โดยเห็นว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะที่ความเสี่ยงด้านการจ้างงานเอนเอียงไปทางด้านลบ
มุมมอง INVX: เลื่อนการลดดอกเบี้ยจาก ม.ค. เป็น มิ.ย. 2026
- INVX ปรับคาดการณ์โดยยังคงลดดอกเบี้ย 1 ครั้งในปี 2026 แต่เลื่อนจากเดือนมกราคมเป็นมิถุนายน เหตุผลสำคัญคือ (1) กรรมการหลายท่านกังวลเงินเฟ้อมากขึ้น (2) Powell น่าจะให้เกียรติประธานคนใหม่ (คาดเป็น Kevin Hassett) ในการดำเนินนโยบายสำคัญ และ (3) เศรษฐกิจแบบ Goldilocks ทำให้ความจำเป็นในการลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยเศรษฐกิจลดลง แต่ยังต้องคงดอกเบี้ยไว้ระดับหนึ่งเพื่อคุมเงินเฟ้อ
ผลกระทบต่อไทย: ธปท. และค่าเงินบาท
- INVX คาดว่า ธปท. จะลดดอกเบี้ยอีก 3 ครั้ง แต่จะเลื่อนการลดออกไปเพื่อสอดคล้องกับ Fed โดยลดในเดือน ธ.ค. 2025, เม.ย. 2026 และ ส.ค. 2026 สำหรับเงินบาท คาดว่าจะแข็งค่าต่อในปลายปี 2025 ถึงต้นปี 2026 (เฉลี่ย 32.2 และ 31.8 บาท/ดอลลาร์ใน 4Q25 และ 1Q26 ตามลำดับ) ก่อนอ่อนค่าในครึ่งปีหลังจากการที่ Fed ลดดอกเบี้ยน้อยกว่า ธปท. ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐระยะยาวอาจปรับเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลังจากการขาดดุลการคลังและความกังวลเรื่องความเป็นอิสระของ Fed ภายใต้ทีมงานใหม่