PDF Available  
Wealth Weekend

INVX Wealth Weekend – Google ดันขายชิปแข่ง Nvidia กระทบอย่างไร

28 Nov 25 12:42 PM
สรุปสาระสำคัญ
  • ตลาดฟื้น หลังพลิกมอง Fed ลดดอกเบี้ย แต่ความผันผวนยังอยู่ กลุ่มไหนปลอดภัย
  • ส่งออกไทยต่ำคาด น้ำท่วมภาคใต้กดดัน ปรับกลยุทธ์อย่างไร

สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้

สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกฟื้นตัวได้ หลังตลาดกลับมาให้น้ำหนักการลดดอกเบี้ยของ Fed เพิ่มเป็นมากกว่า 80% อีกครั้ง ภายหลังจาก John Williams ประธาน Fed สาขา New York ซึ่งถูกมองว่ามีความใกล้ชิดกับประธาน Powell ออกมาส่งสัญญาณว่ายังมีโอกาสสำหรับการปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้งในระยะอันใกล้ เนื่องจากความเสี่ยงด้านลบต่อการจ้างงานเพิ่มขึ้น ขณะที่ความเสี่ยงด้านบนของเงินเฟ้อลดลง นอกจากนั้นข่าวการเตรียมเสนอชื่อ Kevin Hassett ผู้อำนวยการคณะกรรมการเศรษฐกิจเป็นตัวเต็งในการชิงตำแหน่งประธาน Fed ซึ่งมีจุดยืนสอดคล้องกับ ปธน.ทรัมป์ ในด้านการลดดอกเบี้ย ยังเป็นอีกปัจจัยหนุนมุมมองดังกล่าวเช่นกัน อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังควรระมัดระวัง เนื่องจากตลาดขาดประเด็นใหม่ ใช้เพียงการปรับความคาดหวังทิศทางดอกเบี้ยเป็นตัวกำหนดทิศทางเท่านั้น ด้านรายงานเศรษฐกิจยังบ่งชี้กิจกรรมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทรงตัว แต่การใช้จ่ายผู้บริโภคอ่อนลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มรายได้ต่ำ–กลาง ขณะที่กลุ่มรายได้สูงยังใช้จ่ายได้ดี การจ้างงานลดลงเล็กน้อยหลายเขต ด้านราคาปรับขึ้นปานกลางโดยต้นทุนวัตถุดิบและสินค้านำเข้าเพิ่มสูงจาก tariffs ยอดค้าปลีก สหรัฐฯ เดือน ก.ย. ขยายตัว 0.2% ต่ำกว่าตลาดคาดและชะลอลงจากเดือนก่อน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือน พ.ย. ต่ำกว่าตลาดคาดและชะลอลงจากเดือนก่อน ตลาดหุ้น EM ฟื้นเช่นกัน แม้ประเด็นขัดแย้งของจีนและญี่ปุ่นในกรณีไต้หวันยังคงยืดเยื้อ  โดยปธน. ทรัมป์มีการพูดคุยกับผู้นำทั้ง 2 ประเทศ และมีท่าทีรักษาความสมดุลระหว่างการรักษาพันธมิตรกับญี่ปุ่นและข้อตกลงการค้ากับจีน ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลงสวนทางภูมิภาคสะท้อนสถานการณ์น้ำท่วม 10 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจ -0.1% ในปีนี้  ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงเล็กน้อยจากความคาดหวังเชิงบวกต่อการเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน

 

ตลาดหุ้นโลก 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา (1) John Williams ประธาน Fed สาขา New York ออกมาส่งสัญญาณว่ายังมีโอกาสสำหรับการปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้งในระยะใกล้ (2) Fed Beige Book ระบุว่ากิจกรรมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทรงตัว ด้านการจ้างงานลดลงเล็กน้อย (3) ยอดค้าปลีก  ดัชนีราคาผู้ผลิต  และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค  ออกมาต่ำกว่าตลาดคาดหนุน Fed ลดดอกเบี้ย 

 

ตลาดหุ้นไทย

ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา (1) สถานการณ์น้ำท่วมใน 10 จังหวัดภาคใต้คาดจะส่งกระทบต่อ GDP ปี 2025 ราว -0.1% หรือคิดเป็นมูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท (2) การส่งออกของไทยในเดือน ต.ค. 2025 ขยายตัวที่ 5.7%YoY ชะลอจากเดือนก่อนที่ 19.0% ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 6.5%  (3) สอท. เผยยอดผลิตรถยนต์เดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น +14.2% YoY ด้านยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือน ต.ค. อยู่ที่ 47,032 คัน เติบโต 24.8%YoY

 

ตลาดพันธบัตร

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับลดลงที่ 4.00% ขณะที่ระยะสั้น 2 ปีปรับลดลงที่ 3.49% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 51 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงที่ 1.68% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ลดลงสู่ 1.27% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 2,732 ล้านบาท

 

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

ราคาน้ำมัน Brent ปรับลง 0.39%WoW สู่ 63.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากการเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครนที่มีพัฒนาการเชิงบวก อาจนำมาสู่การคลายการคว่ำบาตรรัสเซีย ด้านราคาทองคำ (Spot) ปรับขึ้น 1.97%WoW สู่ 4,156.88 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

 

ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) อ่อนค่าลงที่ 99.56 จุด  ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นที่ 156.36 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.16 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นที่ 32.21 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เงินหยวนแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 7.08 หยวน

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5