
By INVX Investment Products & Strategy
วันที่ 12 ธันวาคม 2568
สรุปสถานการณ์
ดัชนี VN Index ปรับตัวลงแรงราว -3% ในวันนี้ โดยหุ้น VRE และ VHM ปรับตัวลดลง -6.95% และ -6.92% นำตลาด ในขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวลดลงต่อ หลัง VPX ของ VPBank มีการปรับตัวลดลงหลัง IPO ในวันที่ 11 ธ.ค. 2025 ราว -9.1% และปรับตัวลดลงต่อเนื่องในวันนี้อีก -1.62% กดดันบรรยากาศการลงทุนในกลุ่มการเงิน
นอกจากนี้ การเติบโตของสินเชื่อในระดับราว 15-20% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ทำให้ธนาคารปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มขึ้น เพื่อดึงดูดเม็ดเงินทุนสำหรับใช้ในการปล่อยสินเชื่อในระยะถัดไป โดยในต้นเดือน ธ.ค. นี้มีรายงานว่า ธนาคารมีการเสนออัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะยาว (มากกว่า 12 เดือน) สำหรับลูกค้ารายใหญ่ที่ระดับ 8%-9% ชี้ถึงต้นทุนทางการเงินในระบบที่อาจเพิ่มสูงขึ้นและกดดัน NIM ของกลุ่มธนาคารในลำดับถัดไป
มุมมองด้านการลงทุน
เราประเมินว่าการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นเวียดนามเป็นการปรับฐานในระยะสั้น หลังดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงราว 38% YTD ในขณะที่สถาบันการเงินที่เริ่มนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ให้ดอกเบี้ยสูงอาจดึงดูดเงินทุนออกจากตลาดทุนเข้าสู่ธนาคารบางส่วน อย่างไรก็ตามธนาคารกลาง SBV ได้เข้ามาดูแลผ่านการอัดฉีดสภาพคล่องให้กับธนาคารผ่านรีโปเพื่อรักษาเสถียรภาพของอัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์ ซึ่งมีแนวโน้มช่วยคลายความตึงตัวของสภาพคล่องของกลุ่มธนาคารได้ ปัญหาดังกล่าวจึงมีแนวโน้มอยู่ในวงจำกัดและมีแนวโน้มถูกคลี่คลายได้เร็ว
ด้านเศรษฐกิจของเวียดนามยังคงมีแนวโน้มเติบโตในระดับสูงจากรัฐบาลที่ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งการลงทุนขนาดใหญ่ การใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย การผ่อนคลายกฎระเบียบและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบราชการเพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ให้เศรษฐกิจเวียดนามสามารถเติบโตได้ในระดับ 10% ในปี 2026
ด้าน Valuation แม้ดัชนี VN Index จะมี Forward PE อยู่ที่ระดับราว 12.1 เท่า โดยเทียบเท่ากับ +1 S.D. ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่ด้วยเศรษฐกิจที่เติบโตสูง หนุนให้ EPS Growth ของเวียดนามยังอยู่ในระดับที่สูงกว่า 20% ซึ่งถือว่ามีการเติบโตในระดับสูงและมีความน่าสนใจ
ความเสี่ยงด้านค่าเงินสำหรับนักลงทุนต่างชาติเริ่มลดลง จาก VND ที่เริ่มมีเสถียรภาพ และมีปัจจัยหนุนจากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย พร้อมกับการเกินดุลของเวียดนามยังคงอยู่ในระดับสูงราว 2.05 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้การพิจารณาอัปเกรดสู่ตลาด EM ของ FTSE ซึ่งจะมีการประกาศผลในเดือน เม.ย. 26 คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ต่างชาติมีแนวโน้มกลับมาสนใจตลาดหุ้นเวียดนามมากขึ้นหลังจากนี้ หากเวียดนามมีการผ่านการพิจารณา มีโอกาสให้ Forward PE ของตลาด re-rate เพิ่มขึ้นสู่ระดับใกล้เคียงกับ FTSE EM บริเวณ 14 เท่า
เราประเมินการปรับฐานของตลาดหุ้นเวียดนามสามารถสร้างโอกาสในการลงทุนได้จากปัจจัยบวกที่ได้กล่าวมา อย่างไรก็ตามในระยะสั้นการปรับฐานของตลาดหุ้นเวียดนามอาจยังไม่เสร็จสิ้น โดยหากพิจารณาจากดัชนี VN index ผ่านค่าเฉลี่ยของ Forward PE ที่อาจปรับตัวลดลงสู่ค่าเฉลี่ย 5 ปีราว 11.15 เท่า อาจส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลดลงได้ราว 4-8% ซึ่งเป็นจุดที่เหมาะสมในการเข้าซื้อสำหรับนักลงทุนระยะกลาง อย่างไรก็ตามสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการสะสมหุ้นเวียดนาม อาจใช้จังหวะนี้ทยอยแบ่งไม้เข้าสะสมได้ผ่านกองทุน ASP-VIET-A หรือ PRINCIPAL VNEQ-A