Keyword
Slide26
PDF Available  
News update Thai Stocks

Update News - การแพทย์ อัพเดทเรื่อง Copayment ประกาศทางการจากสมาคมประกันชีวิตไทย

By กิตติมา สัตยพันธ์, CFA|14 Jan 25 1:54 PM
สรุปสาระสำคัญ

กรมธรรม์ประกันสุขภาพที่เริ่มคุ้มครองตั้งแต่ 1 มีค 2568 และกรมธรรม์เก่าที่ต่ออายุเกินกำหนดเท่านั้น ที่จะมีเงื่อนไข copayment (กรมธรรม์ประกันสุขภาพที่มีผลคุ้มครองก่อน 1 มีค 2568 และไม่ปล่อยให้ขาดอายุ จะไม่มีเงื่อนไข Copayment)

 

  • ในปีกรมธรรม์ปัจจุบัน ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลจะเป็นลักษณะที่กำหนดไว้ (ยกตัวอย่างเช่น การเหมาจ่าย) ซึ่งการคุ้มครองนี้จะเปลี่ยนเป็นแบบ Copayment ในปีกรมธรรม์ถัดไป เมื่อเกิด 3 กรณี ซึ่งใช้เฉพาะกับการรักษาแบบผู้ป่วยใน (IPD) คือ
  1. มีการเคลมโรคเจ็บป่วยเล็กน้อย (Simple disease) หรือ โรคไม่รุนแรงที่ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลมากกว่าหรือเท่ากับ 3 ครั้งต่อปีกรมธรรม์ และมีอัตราการเคลมมากกว่าหรือเท่ากับ 200% ของเบี้ยประกันสุขภาพ => ผู้เอาประกันจะต้องร่วมจ่าย 30% ทุกค่ารักษาในปีกรมธรรม์ถัดไป
  2. มีการเคลมโรคทั่วไป ซึ่งไม่รวมการผ่าตัดใหญ่และโรคร้ายแรง มากกว่าหรือเท่ากับ 3 ครั้งต่อปีกรมธรรม์ และมีอัตราการเคลมมากกว่าหรือเท่ากับ 400% ของเบี้ยประกันสุขภาพ => ผู้เอาประกันจะต้องร่วมจ่าย 30% ทุกค่ารักษาในปีกรมธรรม์ถัดไป
  3. มีการเคลมเข้ากรณีที่ 1 และกรณีที่ 2 => ผู้เอาประกันจะต้องร่วมจ่าย 50% ทุกค่ารักษาในปีกรมธรรม์ถัดไป
  • อย่างไรก็ดี เมื่อผู้เอาประกันเข้าเงื่อนไข Copayment ไปแล้ว เงื่อนไขนี้จะไม่ได้ใช้ตลอดไป โดยสามารถที่จะถูกพิจารณายกเลิกจากบริษัทประกันภัยได้ในปีกรมธรรม์ถัดไป เมื่อผู้เอาประกันมีสถานการณ์การเคลมที่ดีขึ้น ไม่เข้าทั้ง 3 กรณี

มุมมองของเรา:

  • ประกาศทางการล่าสุดนี้ ไม่ได้ต่างอะไรมากจากแนวทางที่เห็นก่อนหน้า แต่สิ่งที่ยังไม่เห็นข้อมูลชัดคือเบี้ยประกันสุขภาพในกรณีมีเงื่อนไข copayment ว่าลดลงจากกรณีที่ไม่มีเงื่อนไข copayment มากน้อยเพียงใด ซึ่งเรามองว่าเบี้ยประกันสุขภาพที่จะลดลงจากการปรับให้มี copayment น่าจะส่งผลกระทบเชิงบวกจากการเพิ่มการสามารถเข้าถึงประกันสุขภาพเอกชนในประเทศไทยในระยะยาว

  • การปรับกรมธรรม์ประกันสุขภาพเอกชนให้เป็นแบบ copayment มากขึ้น ทำให้ตลาดเกิดความกังวลว่าจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลเอกชนอาจปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี เรายังคงมุมมองเดิมว่าผลกระทบช่วงสั้นจะจำกัด จำนวนผู้ป่วยที่มีประกันสุขภาพเอกชนจะไม่ได้รับผลกระทบทั้งหมด ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในระยะสั้นคือการชะลอการเข้าใช้บริการ IPD สำหรับการป่วยเล็กน้อย (simple diseases) จากการสอบถามข้อมูลจากโรงพยาบาลต่างๆ บ่งชี้ว่าการบริการส่วนนี้ไม่ได้เป็นส่วนหลัก โดยเราประเมินว่า simple diseases จะคิดเป็นสัดส่วนราว 10% ของรายได้จากประกันสุขภาพเอกชน ในกรณีเลวร้ายที่สุด หากบริการนี้หายไปทั้งหมด เราประเมินว่าผลกระทบเชิงลบจะมีจำกัดที่ 2-3% ของรายได้รวม และ 2-4% ของประมาณการกำไรปกติปี 2568 สำหรับโรงพยาบาลเอกชนภายใต้การวิเคราะห์ของเรา

  • ราคาหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลมีการปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเรามองว่าสะท้อนประเด็นลบจากผลประกอบการใน 4Q67 ที่จะอ่อนแอจากปัจจัยฤดูกาล, ประเด็นเรื่องการเบิกจ่ายเงินประกันสังคมเรื่องโรคร้ายแรง adjRW>2 ที่มีพัฒนาการเชิงบวกแล้ว และประเด็นเรื่อง Copayment ไปมากพอสมควรแล้ว หุ้นเด่นในกลุ่มคือ BDMS (ราคาเป้าหมาย 36 บาท/หุ้น) และเราชอบ BCH (Outperform, ราคาเป้าหมาย 21.5 บาท/หุ้น)
Author
Slide1
กิตติมา สัตยพันธ์, CFA

นักวิเคราะห์อาวุโสกลุ่มธุรกิจการเงิน

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5