- ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง 0.5% โดยตลาดหุ้น DM ได้รับแรงกดดันจากประเด็นปัญหาสภาพคล่องและเพดานหนี้ รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจในภาพรวมที่ไม่มีสัญญาณบวกในระยะสั้น เช่นเดียวกับตลาดหุ้น EM ได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าและตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่เติบโตแบบชะลอตัวลงและการกระตุจากภาครัฐน้อยกว่าที่คาด
-
- ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดเงินมีเงินไหลเข้า US$14bn หลังจากที่มีเงินไหลเข้า US$60bn ในสัปดาห์ก่อนหน้า ยังเห็นความกลัวของนักลงทุนแต่อาจจะมองว่าเงินไหลไปลงทุนมากขึ้นกระแสเงินในตลาดหุ้นเป็นเงินไหลเข้า โดยมีเงินไหลออกจากตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเป็นสำคัญ ในขณะที่ตลาดหุ้นอื่นอย่างจีนและตลาด EM ไม่รวมตลาดจีนมีเงินไหลเข้าแบบเร่งตัวขึ้น ทั้งนี้มองว่าเป็นเรื่องของแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์
-
- ในสัปดาห์นี้ติดตาม 1) การเจรจาเพดานหนี้ของทางการสหรัฐฯ และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น ยอดค้าปลีก 2) ตัวเลข GDP และ CPI ของยูโรโซนที่คาดว่าจะขยายตัวเล็กน้อย YoY ส่วนเงินเฟ้อคาดชะลอตัว MoM 3) ตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่จะสะท้อนทิศทางการฟื้นตัวอย่างยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตฯ 4) ทิศทางตลาดหุ้นไทยหลังการเลือกตั้ง และตัวเลขเศรษฐกิจไทย เช่น GDP 5) การประชุมผู้นำประเทศ G7 6) ผลประกอบการ Alibaba, Applied Materials, Baidu, Banco, Cisco, Constellation Software, Deere, Home Depot, Mitsubishi UFJ Financial Group , Mizuho Financial Group, Sumitomo Mitsui Financial Group , Synopsys, Target, Tencent, TJX, Tokyo Marine, Vodafone Group , Walmart
-
- ภาพรวม – ตลาดรับรู้เรื่องแนวโน้มดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐไปแล้ว ตามตัวเลขเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ดีตลาดกลับมามองเรื่องความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอกว่าที่คาด รวมถึงตัวเลขทางฝั่งจีนที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวที่ช้า กระแสเงินและการตอบสนองของตลาดก็ออกไปในแนว Risk-off
-
- กลยุทธ์ – สัปดาห์นี้ (15-19 พ.ค.) คาดว่าการเจรจาขยายเพดานหนี้ยังไม่มีคำตอบในระยะสั้น นอกจากนั้นการประชุม G7 จะเห็นท่าทีของประเทศหลักต่อความขัดแย้งเชิงภุมิรัฐศาสตร์ที่จะยังไม่มีอะไรคืบหน้าที่จะยังกดดันสินทรัพย์เสี่ยง ตัวเลข GDP ของยุโรป และตัวเลขอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกสหรัฐ รวมถึงผลประกอบการของบริษัทจีนที่ชะลอตัวลงจะทำให้ตลาดมีความผันผวนในทางลบ
-
- หุ้นแนะนำ – เราเน้นไปที่หุ้นที่มีความผันผวนต่ำที่อยู่ในกลุ่มเชิงรับและความว่าจะมีแนวโน้มผลประกอบการดีอย่าง Walmart และมองไปที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีภาพความคาดหวังในการฟื้นตัวใน 2H23 อย่าง Applied Materials
|