Keyword
Global Morning Routine

INVX Global Morning Routine - 7 เม.ย. 2566

7 Apr 23 12:00 AM
logo-0875d3210b-f90c-45cb-b546-ea266b9c38a5-20240912053451
บทสรุป

  • ตลาดหุ้นทั่วโลกวานนี้เป็นภาพการชะลอซื้อก่อนวันหยุด โดยมีการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ส่วนสหรัฐฯ กลุ่มเทคฯและธนาคารปรับขึ้นนำตลาด ส่วนกลุ่ม O&G ปรับตัวลงนำตลาดมองเป็นภาพการขายทำกำไร ด้านจีนเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของภาคบริการหลังตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาขยายตัวดี
  •  
  • กระแสเงินในวันที่ 4 เม.ย. 2023 1) กระแสเงินไหลเข้าตราสารหนี้โดยเฉพาะตราสารหนี้จำนวนมาก โดยเฉพาะคุณภาพดีและพันธบัตรองค์กร หลังจากสถานการณ์ของความผันผวนในอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น ประกอบกับนักลงทุนเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นในตราสาร High Yield 2) มีเงินไหลออกจากตลาดเงินใน EM จำนวนมากทั้งนี้มองเป็นการเปลี่ยนไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น 3) มีเงินไหลเข้าตลาดหุ้นจีนทั้งนี้มองว่าไม่มีข่าวลบและค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า รวมถึงความหวังในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน 4) เงินไหลเข้ากลุ่มเทคฯเพิ่มขึ้น สวนทางกับกลุ่มเชิงรับอย่างการแพทย์ที่มีเงินไหลออก สะท้อนความ Risk on ของนักลงทุนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้เงินยังไหลออกจากกลุ่มการเงินสะท้อนการลงทุนในหุ้นกลุ่มที่มีความผันผวนน้อยกับอัตราดอกเบี้ย 5) ยังมีแรงขายในหุ้นขนาดเล็กในช่วงการปรับประมาณการลง รวมถึงปัจจัยภายนอกที่ผันผวน 6) มีเงินไหลออกจากพันธบัตรป้องกันเงินเฟ้อหลังความกังวลเริ่มหายไป
  •  
  • Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ส่วนราคาถ่านหินในยุโรปลดลง 5.1% ราคาก๊าซธรรมชาติลดลง 4.3% ด้าน Credit Spread ของ IG ทั่วโลกลดลง 1.4bps ส่วน HY ปรับตัวลง 4.7bps ขณะที่ในช่วงวานนี้เริ่มเห็นการปรับตัวขึ้นของบางกลุ่ม อย่าง Sportware, Restaurant ตามความคาดหวังของการบริโภคที่เพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดยาวโดยตลาดหุ้นฮ่องกงจะหยุดทำการในวันนี้และวันจันทร์ที่ 10 เม.ย. ส่วนกลุ่ม Virus testing ปรับตัวนำหลัง AstraZeneca (AZN) เผยความร่วมมือกับทางการฮ่องกงเพื่อผลักดันการเติบโตของเทคโนโลยีชีวภาพและการวิจัยทางการแพทย์ในฮ่องกง
  •  
  • IMF เตือนแนวโน้มการเติบโตทั่วโลกรอบ 5 ปีอ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ปี 2533 รวมถึงกระตุ้นให้ประเทศต่างๆ หลีกเลี่ยงการกระจายตัวทางเศรษฐกิจที่เกิดจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และดำเนินการเพื่อเพิ่ม Productivity ใจความสำคัญได้แก่ 1) มองว่าเศรษฐกิจโลกขยายตัวประมาณ 3% ในช่วง 5 ปีข้างหน้าเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นลดลง 2) ตลาด DM : ประมาณ 90% ของประเทศที่พัฒนาแล้วจะเห็นการเติบโตที่ช้าลงในปีนี้ เนื่องจากนโยบายการเงินที่เข้มงวด 3) ตลาด EM : บางแห่งมีความแข็งแกร่งโดยเฉพาะในเอเชียและคาดอินเดียและจีนจะมีสัดส่วนครึ่งหนึ่งของการขยายตัวทั่วโลก 4) ความเสี่ยงภูมิรัสศาสตร์: ประเด็นนี้อาจลดผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศทั่วโลกได้มากถึง 7% นอกนี้การหยุดชะงักของการค้าเทคโนโลยีอาจทำให้สูญเสียมากถึง 12% ของ GDP สำหรับบางประเทศ 5) นโยบายปรับขึ้นดอกเบี้ย: IMF แม้นโยบายดังกล่างจะส่งผลต่อแนวโน้มการเติบโต แต่หากอัตราเงินเฟ้อยังสูง ธนาคารกลางจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงิน
  •  
  • จีนเผยดัชนี PMI ภาคบริการเดือน มี.ค. 66 อยู่ที่ 57.8 เพิ่มขึ้นจากระดับ 55.0 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเดือนที่ 3 และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 28 เดือน บ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการหลังเปิดเมือง ตัวเลขภาคบริการที่เพิ่มขึ้นเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับผลสำรวจของ PBOC ทำให้เรายังคงเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะถัดไป โดยเฉพาะการบริโภคในประเทศ ขณะที่เราก็ยังเน้นไปที่หุ้นกลุ่ม Domestic Consumption และ Reopening ที่ราคายังไม่กลับไป Precovid ทั้งกลุ่มท่องเที่ยวและกลุ่มที่อิงกับบริโภค เช่น Trip.com Anta Sport 
PDF อ่านเพิ่มเติมคลิก  Global Morning Routine 07042023
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5