| บทสรุป |
ตลาดหุ้นทรงตัวในภาพรวม โดยจีนยังคงมีความเสี่ยงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้า ขณะที่สหรัฐฯยังคงมีความผันผวนตามภาพผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนโดยรวมที่มีความคาดหวังที่สูง ขณะที่ในช่วงคืนนี้แนะติดตามผลการประชุม Fed กระแสเงินในวันที่ 29 ม.ค. 2024 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน ทั้งนี้อยู่ในช่วงปรับลดความคาดหวังในการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐว่าอาจจะช้ากว่าที่คาด ซึ่งทำให้มีแรงขายสลับซื้อตาม Yield ที่ไม่มีเทรนด์ในระยะสั้น 2) มีแรงซื้อกลับในตลาดหุ้น EM และตลาดหุ้นจีน บนความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนตลาดทุนของจีนและการฟื้นตัวในประเทศกลุ่ม EM 3) แรงซื้อในกลุ่มพลังงานมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงหรือเก็งกำไรในประเด็นความขัดแย้งในทะเลแดง 4) มีแรงซื้อในกลุ่มเทคโนโลยีน้อยลงรอความชัดเจนเรื่องผลประกอบการและแนวโน้มปี 2024 5) หุ้นขนาดเล็กมีแรงขายจากความเปราะบางในการฟื้นตัวและได้รับผลกระทบจากภาวะดอกเบี้ยสูง 6) โลหะมีค่ามีแรงขายมองว่าเป็นเรื่องของแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์ ภาพรวมงบ 4Q23 ของ MSFT และ GOOGL เป็นไปตามคาดทั้งรายได้และกำไรเติบโตได้ดี อย่างไรก็ดีมองราคาตอบสนองเชิงลบต่อค่าใช้จ่าย MSFT และรายได้ Search GOOGL ที่ผิดคาด รวมถึงแนวโน้ม GM ชะลอตัวลงกดดันจากค่าใช้จ่ายที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่เรายังคงมุมมองบวกและแนะสะสมในช่วงย่อตัวหลังมองปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลงและมีแนวโน้มที่รายได้ยังคงเติบโตต่อเนื่อง AMD เผยงบ 4Q23 ดีกว่าคาดแต่หุ้นตอบสนองเชิงลบต่อคาดการณ์ที่อ่อนแอกว่าคาด รวมถึงการเติบโตในแต่ละภาคส่วนธุรกิจที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก ทั้ง AI ที่เป็นตัวสนับสนุนหลักกลับมีแนวโน้มทรงตัว รวมถึงกลุ่มเกมที่การเติบโตยังคงหดตัวสะท้อนภาพการฟื้นตัวที่ช้ากว่าคาด ซึ่งเรามองว่าเป็นผลมาจากแรงกดดันจาก 1) การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากคู่แข่งโดยกลุ่ม AI ที่ชิป MI300 ของ AMD มีแรงกดดันจาก H100 ของ Nvidia Starbuck เผยงบและคาดการณ์ในภาพรวมต่ำกว่าคาดทุกมิติ แต่ด้วยความคาดหวังที่ต่ำ ทำให้ตลาดตอบสนองเชิงบวกต่อ comparable transactions ที่ดีกว่าคาด อย่างไรก็ดีเรามองว่า Starbuck ยังคง Downside จาก 1) แนวโน้มการเติบโตที่ชะลอตัวจากต้นทุนที่สูง การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น และภาพแรงซื้อที่ยังคงไม่ดี 2) ประเด็นความเสี่ยงการแบนจากประเด็นสงครามในตะวันออกกลาง ทำให้ในระยะสั้นเรามองว่าราคาหุ้นยังคงมีความเสี่ยงและอาจปรับตัวลง ผลประกอบการของ Pfizer ผสม โดยรายได้ใกล้เคียงคาดการณ์ในขณะที่กำไรดีกว่าที่คาด ทั้งนี้เป็นผลจากมาตรการควบคุมต้นทุน ขณะที่เรามอง Momentum ของกำไรของ Pfizer ดูเหมือนจะผ่านจุดต่ำสุดในช่วง 3Q23-4Q23 ไปแล้วแต่ภาพการฟื้นตัวยังมีฐานสูงกดดันอยู่ ซึ่งอาจจะส่งผลให้แนวโน้มกำไรถูกปรับลงได้อีกไม่มากนัก ดังนั้นมองว่าราคาหุ้นน่าจะเริ่มปรับเพิ่มขึ้นหรือฟื้นตัวในช่วง 2Q24 |
ท่าน สามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Global morning routine_240131_T |
