![test_blog_details_img](/ResourcePackages/scbs/assets/dist/images/blog-details/smile-face.png)
เนื้อหาโดยรวม
![magnificent7](/images/default-source/about-company/screenshot-2024-05-30-at-14.20.48b98c0bff-3182-47f6-8c18-3d316f47f049.png?sfvrsn=bd2a1b8b_1)
บทสรุป
•ผลประกอบการของ 1Q24 ในภาพรวมของหุ้นในกลุ่ม Magnificent 7 ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ และมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องใน 2Q24 ทั้งนี้สะท้อนจากการปรับประมาณการขึ้นของกำไรและราคาเป้าหมาย
•เรามองว่าปัจจัยพื้นฐานของหุ้นในกลุ่ม Magnificent 7 แข็งแกร่งและมีการเติบโตที่โดดเด่น ฐานะทางการเงินและกระแสเงินสดสะท้อนภาพความเสี่ยงด้านการเงินที่ต่ำ อย่างไรก็ดีราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 28% ตั้งแต่ต้นปี 2024 ทำให้ Valuation ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ P/E 29.7x
•การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาในกลุ่ม Magnificent 7 นั้นค่อนข้างสมเหตุสมผลกับแนวโน้มกำไรและปัจจัยพื้นฐานของหุ้น เรามองว่าราคาหุ้นตอบสนองข่าวดีมาระยะหนึ่งแล้วซึ่งอาจจะมองได้ว่าราคาหุ้นอยู่ในช่วงกลางถึงปลายรอบขาขึ้นแล้วจึงอาจจะต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น แต่อย่างไรก็ดีเรามองว่าองค์ประกอบราคาและ Valuation ของหุ้นในกลุ่ม Magnificent 7 ยังไม่เข้าข่ายของฟองสบู่เหมือนอย่างในช่วง 2001 เพราะการเติบโตของกำไรสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของราคา นอกจากนั้นหุ้นที่มีการเติบโตต่ำและมีความเสี่ยงสูงราคาก็ไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นและให้ผลตอบแทนต่ำกว่าตลาดมาก
•เราประเมินว่า Valuation ในภาพรวมนั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก P/E 27x ในช่วง 4Q23 เป็น 29.7x ในช่วงปลายเดือน พ.ค. 2024 และสูงกว่าค่าเฉลี่ย P/E ที่ 26x ทำให้เราประเมินว่าการปรับ
ตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นหรือ Upside จากระดับปัจจุบันจะมาจากแนวโน้มการเติบโตของกำไรมากกว่าการปรับเพิ่มหรือขยายตัวของ Valuation นอกจากนั้นเรามองว่า Valuation ก็ขยายตัวรับข่าวบวกไปมากพอสมควรแล้ว จึงทำให้ต้องระมัดระวังหรือรอซื้อเมื่อราคาหุ้นย่อตัวลงเพื่อเพิ่มแต้มต่อในการลงทุนที่มากขึ้น
•เรามองว่าในระยะถัดไปความเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่ม Magnificent 7 จะส่งผลกับตลาดสหรัฐ (S&P500)น้อยลง โดยมองว่าแนวโน้มกำไรของหุ้นนอก Magnificent 7 จะเริ่มฟื้นตัวและมีน้ำหนักมากขึ้นในช่วง2H24
•ความเสี่ยงรวมของหุ้นในกลุ่ม Magnificent 7 คือภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและไม่ชัดเจน ทำให้บริษัทมีการปรับลดค่าใช้จ่ายด้าน IT นอกจากนั้นราคาสินค้าที่มีราคาแพงขึ้นทำให้การเข้าถึงการใช้งาน AI ช้ากว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งจะส่งผลให้การลงทุนและการหารายได้จากใน AI อาจจะช้ากว่าที่คาดการณ์
•หุ้นในกลุ่ม Magnificent 7 เรามองว่า 1) หุ้นที่เราชอบและมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีได้แก่ Microsoft, Google และAmazon 2) ในขณะที่หุ้นอย่าง Nvidia มีการเติบโตที่ดีแต่อาจจะต้องรอจังหวะซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงเพราะราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 132% 3) สำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูงเรามองว่า Apple และ Tesla มีความน่าสนใจมากขึ้นหลังจากราคาตอบสนองข่าวลบมาเยอะ โดยลดลง 1% และ 29% ตั้งแต่ต้นปี 2024 ตามลำดับ และมองว่ามีโอกาสที่จะมีปัจจัยสนับสนุนให้ผลประกอบการฟื้นตัวใน 2H24 ได้มากขึ้นแต่จะมีความผันผวนสูงเพราะปัจจัยพื้นฐานปัจจุบันยังค่อนข้างผันผวน 4) ระมัดระวัง Meta Platform ที่แนวโน้มกำไรจะเริ่มชะลอตัวลงและการแข่งขันในค่าโฆษณาจากผู้เล่นใน Platform อื่นจะเพิ่มสูงขึ้น
ดาวน์โหลดเอกสาร คลิก!