ลุ้นฟื้นตัวกลับที่แนวรับ | |||||||||||||
แนวโน้มตลาดวันนี้ | |||||||||||||
SET พักตัวลงมา 3 วัน กว่า 30 จุด ในขณะที่สัญญาณเทคนิคระยะสั้นเข้าสู่ภาวะ oversold แล้วทำให้ในช่วงนี้ คาดว่าดัชนีมีโอกาสฟื้นตัว ตามสัญญาณเทคนิค โดยมีแนวรับที่ 1540 และ 1535 จุด ตามลำดับ ด้านแนวต้านอยู่ที่ 1560 จุด หากขึ้นทะลุผ่านจะเห็นการฟื้นตัวชัดขึ้น โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1570 จุด | |||||||||||||
ประเด็นสำคัญ | |||||||||||||
• Moody’s เพิ่มคาดการณ์ GDP สหรัฐในปีนี้เป็น 1.9% จาก 1.1% เนื่องจาก ศก. มีแนวโน้มแข็งแกร่งมากขึ้น แต่ปรับลดคาดการณ์ GDP จีนในปีหน้าลงสู่ 4% จาก 4.5% มอง ศก. จีนฟื้นตัวอ่อนแอ• นายกฯ หลี่ เฉียงของจีนเตรียมเข้าร่วมประชุมกลุ่ม G20 ครั้งที่ 18 ณ กรุงนิวเดลี อินเดีย ในวันที่ 9 -10 ก.ย. แทน ปธน. สี จิ้นผิง• รัฐบาลกลางจีนได้อนุมัติให้จัดตั้งสำนักงานพิเศษภายใต้สังกัดของ NDRC เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและการเติบโตของ ศก. ภาคเอกชน• ยอดขายบ้านในกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้สูงขึ้นในช่วง 2 วันที่ผ่านมา หลังรัฐบาลออกมาตรการผ่อนปรนสินเชื่อที่อยู่อาศัย• การใช้จ่ายภาคครัวเรือนออสเตรเลีย ก.ค. ปรับลง 0.7%YoY ลดลงครั้งแรกตั้งแต่ ก.พ. 64 เนื่องจากผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายใช้สอยท่ามกลางความกังวล ดบ. และเงินเฟ้อที่สูงขึ้น• สหภาพแรงงานออสเตรเลียกำลังเจรจากับ Chevron เพื่อเลี่ยงการนัดหยุดงาน LNG 2 แห่งที่ออสเตรเลีย• กรมการค้าต่างประเทศกังวลอินเดียเตรียมห้ามส่งออกน้ำตาลส่งผลอุปทานโลกลดลง และราคาน้ำตาลโลกปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งราคาสินค้าที่ใช้น้ำตาลเป็นส่วนประกอบจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย• TOP ระบุควบคุมน้ำมันดิบรั่วกลางทะเลเมื่อคืนวันที่ 3 ก.ย. ได้แล้ว อยู่ระหว่างหาสาเหตุ ยืนยันไม่กระทบการเดินเครื่องโรงกลั่นน้ำมัน | |||||||||||||
กลยุทธ์การลงทุน | |||||||||||||
มอง SET แกว่งตัวในกรอบ 1550-1600 ระหว่างรอรัฐบาลใหม่แถลงนโยบายบริหารประเทศ ทั้งนี้แม้ภาพรวมบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทยจะได้รับ sentiment เชิงบวกจากสถานการณ์การเมืองที่ชัดเจนขึ้น และคาดจะเห็น Fund Flow เริ่มไหลกลับเข้าเก็งกำไรในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงด้านภาคบริการและการค้าของเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง รวมถึงภาวะเงินฝืด น่าจะยังเป็นแรงกดดัน SET ให้มี Upside จำกัด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” | |||||||||||||
ล็อคเป้าลงทุน | |||||||||||||
Weekly Portfolio : มอง SET แกว่งในกรอบรอรัฐบาลใหม่แถลงนโยบาย แต่ยังมีความเสี่ยงภายนอกกดดัน Upside กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ดังนี้1) หุ้นที่เหมาะลงทุนระยะกลาง แนะนำ 8 หุ้นเด่นใน 4 อุตสาหกรรม ซึ่งคาด 2H66 กำไรจะเติบโต HoH และ YoY เลือก PTT BCP KCE HANA BDMS BCH AOT ERW2) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์จากมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ โดยราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นช้า เลือก มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ (CPALL CPAXT HTC CRC) มาตรการกระตุ้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (GULF KTB) และเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ (LH)3) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์ Fund Flow ไหลกลับ เลือก KBANK CPNขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT) | |||||||||||||
Daily Focus | |||||||||||||
PTTEP เป็นหุ้นที่มีโอกาสถูกกระทบจากนโยบายรัฐบาลน้อยสุดในกลุ่ม PTT และช่วงสั้นคาดได้อานิสงส์จากการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน หนุนให้ 3Q66 กำไรมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น QoQAOT เราชอบ AOT เนื่องจากคุณภาพกำไรสูงและราคาหุ้นยังไม่ปรับขึ้นมาก โดยผลประกอบการ 4QFY66 (ก.ค. – ก.ย. 66) คาดจะเติบโต QoQ และ YoY จากการเพิ่มขึ้นของผู้โดยสารระหว่างประเทศ อีกทั้งกลับมาเก็บ Minimum guarantee ตั้งแต่ เม.ย. 66 | |||||||||||||
บทวิเคราะห์วันนี้ | |||||||||||||
กลุ่มพลังงาน – โรงกลั่นน้ำมันจะเผชิญกับต้นทุนค่าระวางที่สูงขึ้นกลุ่มท่องเที่ยว – ภาพรวม 2H66 เป็นบวกAAV – ปัจจัยบวกเปิดโอกาสให้ trading ระยะสั้น ปรับเรทติ้งขึ้นสู่ NEUTRAL
|
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม Daily230905_T
PDF Click > Daily230905_E