สวัสดีตอนเช้า - 7 ธ.ค. 2566 ติดตามกรอบ รอการ breakout

Morning Update

07 ธ.ค. 2566;

191

แชร์บทความนี้

เนื้อหาโดยรวม

ติดตามกรอบ รอการ breakout

แนวโน้มตลาดวันนี้

SET ฟื้นตัว แต่มีแนวต้านสำคัญบริเวณกรอบบน 1398 จุด ซึ่งต้องขึ้นทะลุผ่านก่อน ถึงจะเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาพการฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1410 จุด ขณะที่กรอบล่างอยู่ที่แนวรับ 1380 จุด หากต่ำกว่า จะกลับมาเป็นสัญญาณลบ และมีแนวรับถัดไปที่ 1370 จุด

ประเด็นสำคัญ

• การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐ พ.ย. เพิ่มขึ้น 1.03 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าคาด บ่งชี้ตลาดแรงงานของสหรัฐเริ่มคลายความร้อนแรง
• ตัวเลขขาดดุลการค้าในภาคสินค้าและบริการของสหรัฐ ต.ค. เพิ่มขึ้น 5.1% สู่ระดับ 6.43 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตลาดคาด
• EIA รายงานสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 5.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าคาด บ่งชี้ว่าอุปสงค์เชื้อเพลิงในสหรัฐชะลอตัวลง
• ปธน. ปูติน เดินทางถึง UAE แล้ว ก่อนบินต่อไปซาอุฯ วันเดียวกัน ในการเยือนตะวันออกกลางครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มทำสงครามยูเครน คาดหารือเรื่องพลังงานเป็นหลัก
• มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ปรับลดแนวโน้มธนาคารจีน 8 แห่งจากมีเสถียรภาพ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับระดับหนี้ พร้อมปรับลดแนวโน้มอันดับเครดิตของฮ่องกงและมาเก๊า
• กกร. คาด GDP ปี 67 โต 2.8-3.3% ภายใต้นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตเต็มวงเงิน 5 แสนลบ. แนะนำรัฐบาลชะลอขึ้นค่าไฟ ศก. ยังเปราะบาง ทำราคาสินค้าเพิ่ม 5-10% ตั้ง กรอ. พลังงานแก้ปัญหาทั้งระบบ
• กรมสรรพสามิตระบุยอดใช้สิทธิมาตรการอุดหนุนซื้อรถ EV ปีนี้ กว่า 7.4 หมื่นคัน รัฐใช้งบอุดหนุนกว่า 4 พันลบ. ขณะที่ปีหน้าตั้งงบ 1.7 หมื่นลบ. ประเมินตลอดโครงการ 4 ปี คาดทะลุ 4 หมื่นลบ. หลังความต้องการเพิ่มต่อเนื่อง
• ภาคธนาคารเร่งปรับโครงสร้างหนี้ช่วยลูกหนี้ก่อนหมดมาตรการช่วยเหลือของ ธปท. สิ้นปีนี้ ส่วนเครดิตบูโรคาดยอดปรับโครงสร้างหนี้เกิน 1 ล้านลบ. โดยหนี้รถยนต์-บ้านตกชั้นจำนวนมาก

กลยุทธ์การลงทุน

เรามองช่วงสั้น SET มีโอกาสฟื้นตัว หลังคาดจะเริ่มมีเม็ดเงินลงทุนในกองทุน TESG ทยอยเข้ามาซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้แก่ตลาดหุ้นไทย โดยคาดหวังการฟื้นตัวของหุ้นขนาดใหญ่หลังราคามีการปรับตัวลงแรงในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ล็อคเป้าลงทุน

Weekly Portfolio : SET มีโอกาสฟื้นตัว หลังปรับตัวลงแรงก่อนหน้านี้และคาดหวังมีเม็ดเงินลงทุนในกองทุน TESG ทยอยเข้ามาช่วยสร้างเสถียรภาพให้แก่ตลาดหุ้นไทย กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ ดังนี้
1) หุ้น Big Cap. (SET50) ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนจากแผนจัดตั้งกองทุน TESG ซึ่งเราได้คัดเลือกหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETESG ที่มีคุณสมบัติน่าสนใจ ดังนี้ (I) ได้ ESG Rating “AAA” หรือ “AA” และ (II) ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงกว่า SET YTD เลือก SCGP OR CPALL BEM GULF CRC HMPRO ขณะที่หุ้น ESG Rating “A” ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวลงแรงมากในช่วงที่ผ่านมา แนะนำ AOT
2) หุ้น Big Cap. (SET50) ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนจากแผนจัดตั้งกองทุน TESG ซึ่งคัดเลือกหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETESG ที่ได้ ESG Rating “AAA” และราคาหุ้นปรับขึ้นดีกว่า SET YTD อีกทั้งผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่ง และคาดให้ Div. Yield มากกว่า 5% ต่อปี เลือก PTT KTB
3) นักลงทุนระยะยาวแนะนำเริ่มลงทุนแบบ Dollar-Cost-Average (DCA) เนื่องจากมองเป็นจังหวะที่ดีที่สุด หลัง SET ปรับลงแรงจนความเสี่ยงลดลงไปมากและราคาหุ้นอยู่ในระดับ Undervalue มาก โดยเลือก BBL BDMS BEM CPALL PTT และ SCC ซึ่งเป็นหุ้น SET100 ซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม และมี ESG Rating ระดับ AAA/AA, Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี และผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง
ช่วงสั้นแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบอย่างมีนัยจากแผนปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลซึ่งจะมีการประชุม ครม. 12 ธ.ค. นี้ ได้แก่ กลุ่มขนส่งพัสดุ (KEX) กลุ่มอาหาร (CPF ZEN GFPT TU AU) กลุ่มอสังหาฯ (LPN PSH SPALI SIRI QH AP) และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (HANA KCE) ขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากภาวะเอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT BTG)

Daily Top picks

OR เป็นหุ้นใน SETESG Index ที่น่าสนใจ โดยได้ Rating “AA” ขณะที่ราคาหุ้นปรับลง 14.7%YTD ซึ่งมองตลาดกังวลมาตรการคุมราคาน้ำมันในประเทศมากไป ทั้งนี้ 4Q66 คาดกำไรปกติจะได้แรงหนุนจากเป็นไฮซีซั่นของการเดินทาง หนุนปี 2566 คาดกำไรสุทธิ 1.36 หมื่นลบ. (+31%YoY)
AOT เป็นหุ้นใน SETESG Index ที่น่าสนใจ โดยได้ Rating “A” ขณะที่ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้นลดลง 13% สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว โดยประเมินระดับราคา 57-60 บาท/หุ้น เป็นแนวรับขาลง เชื่อว่าเป็นโอกาสที่ดีในการซื้อสะสมสำหรับลงทุนระยะยาว หลังคาดกำไรยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัว

บทวิเคราะห์วันนี้

KTC – เติบโตเล็กน้อยและมีแรงกดดันด้านกฎระเบียบ

ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Daily231207_T

Monitoring and waiting for break-out

Market today

The SET has recovered, but there is a significant resistance at around 1398, which must be broken through first for a positive signal for continued recovery. Next resistance is at 1410, while support is at 1380. A fall below this could turn into a negative signal, with the next support at 1370.

Today’s highlights

• US ADP non-farm payroll for Nov increased by 103k, less than expected, indicating a cooling of the US labour market.
• The US trade deficit in goods and services in Oct increased 5.1% to US$64.3bn, higher than market expectations.
• EIA reported an increase in last week's gasoline inventories of 5.4mn barrels, more than expected, indicating a slowdown in US fuel demand.
• Putin has arrived in the UAE as a stopover before flying to Saudi Arabia in his first Middle East visit since the start of the Ukraine war. He is expected to primarily discuss energy matters.
• Moody's Investors Service downgraded the outlook for eight Chinese banks from stable due to debt concerns and also lowered the credit outlook for Hong Kong and Macau.
• The JSCC predicts a GDP growth of 2.8-3.3% in 2024 assuming the digital wallet measure with a budget of Bt500bn. The JSCC has advised the government to delay increasing electricity prices as the economy remains fragile, which could lead to a 5-10% increase in product prices and to set up an energy committee to resolve problems in the energy system.
• The Excise Department reported that over 74,000 vehicles have utilized this year's EV purchase subsidy, with the government subsidizing over Bt4bn. Next year's budget is set at Bt17bn, with the program expected to exceed Bt40bn over four years due to increasing demand.
• The banking sector has accelerated debt restructuring to assist debtors before the end of the BoT’s relief measures this year. The Credit Bureau expects debt restructuring to exceed Bt1trn, with a significant number of car and home loans downgraded.

Strategy today

In the short term the SET is expected recover on expected fund flows into TESG funds that will help stabilize the Thai capital market, with recovery in big-cap stocks after earlier price drops. Our strategy is selective buy.

Trading today

Weekly portfolio: The SET is expected to recover after an earlier fall on expected fund inflows from TESG funds designed to help capital market stability. We recommend “selective buy” in themes with specific drivers:
1) Big-cap stocks in SET50 expected to be selected as investment targets for the TESG fund being set up. We select stocks in the SETESG index with two factors of interest: 1) ESG rating of “AAA” or “AA” and 2) prices are down more than the SET YTD – SCGP, OR, CPALL, BEM, GULF, CRC and HMPRO, while also recommend the stock with ESG rating of “A” and down more than the SET YTD – AOT.
2) Big-cap stocks in SET50 placed in the SETESG with a rating of “AAA” and outperforming the SET YTD, with strong profit and dividend yields greater than 5% - PTT and KTB.
3) Those looking for long-term dollar-cost-average (DCA) investment as we see it as the best after a sharp drop in the SET, so risk is low and stock prices are undervalued; on this theme we recommend BBL, BDMS, BEM, CPALL, PTT and SCC, all SET100 stocks and leaders in their industries. They are also included in the SETESG index with ESG rating of “AAA” or “AA” and valuations are below 10-year historical mean with steady profit.
In the short term we recommend being cautious on stocks that are expected to be significantly affected by the planned raise in the minimum wage, set to be discussed in the Dec 12 cabinet meeting: Courier Services (KEX), Food (CPF, ZEN, GFPT, TU and AU), Real Estate (LPN, PSH, SPALI, SIRI, QH and AP) and Electronic Components (HANA and KCE). In the medium term we recommend being cautious on stocks that are expected to be affected by El Nino, which will erode purchasing power in the agricultural sector: Finance (MTC, SAWAD), Automotive (SAT, STANLY), Beverages (CBG has high sugar cost) and Food & Agriculture (CPF GFPT and GFPT).

Daily top picks

OR: This is an interesting stock in the SETESG Index, rated “AA”. Stock price is down 14.7%YTD, incorporating concerns on government measures to control oil price. 4Q23 core profit will be bolstered by the high season for travel. 2023 net profit is forecast at Bt13.6bn, +31%YoY.
AOT: AOT, rated “A”, has also been included in the SETESG Index. Over the past two weeks price has fallen 13%, incorporating most of the negatives. A price of Bt57-60/share is seen as support. Now would be a good time to accumulate for the long term, as profit is expected to continue to grow.

Today’s reports

KTC – Modest growth with regulatory pressure

Click here to read and/or download file Daily231207_E

หัวข้ออื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

Industry Update

Digital Asset Daily

asset allocation

สินทรัพย์อื่นๆ

Investment Strategy

กลับด้านบน