สัญญาณยังดูอ่อนแรง | |||||||||||||
แนวโน้มตลาดวันนี้ | |||||||||||||
SET พยายามฟื้นตัว แต่มีแรงขายกดดันให้อ่อนตัวกลับ แสดงถึงสัญญาณที่อ่อนแรง โดยกรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1400 และ 1406 จุด ต้องขึ้นทะลุผ่านให้ได้ก่อนถึงจะเป็นสัญญาณบวกต่อภาพการฟื้นตัว ด้านแนวรับอยู่ที่ 1380 จุด และบริเวณ 1370 จุด หากต่ำกว่า จะเป็นสัญญาณลบต่อความเสี่ยงในการทำจุดต่ำใหม่อีกครั้ง | |||||||||||||
ประเด็นสำคัญ | |||||||||||||
• นายกฯ ระบุโครงการดิจิทัลวอลเล็ต คาดจะแจกเงิน 1 หมื่นบาทได้ใน พ.ค. 67 และโครงการ E-refund สำหรับผู้ที่ไม่ได้เงินดิจิทัล คาดจะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการซื้อสินค้าและบริการมูลค่าไม่เกิน 5 หมื่นบาท ได้ใน ม.ค. 67 เรามองเป็นบวกต่อกลุ่มพาณิชย์ในปี 2567• พาณิชย์ตรวจสอบพบโรงงานผลิตน้ำตาลทรายยังมีปริมาณเพียงพอต่อการจำหน่ายใน ปท. จนถึงฤดูการผลิตหน้า สินค้ายังหมุนเวียนเข้าสู่ตลาดตามปกติ ปชช. ไม่จำเป็นต้องกักตุนน้ำตาล• ภาคเอกชนรับมือค่าแรงขึ้น กลุ่มเครื่องดื่มปรับแผนผลิต-บริหารต้นทุน กลุ่มค้าปลีกคาดรับมือได้ จับตาสถานการณ์ ศก. ใกล้ชิด• บอร์ด กสทช. มีมติ 4 ต่อ 1 โหวต อนุญาต ADVANC ควบรวม 3BB แบบมีเงื่อนไข ให้คงราคาแพคเกจต่ำสุดไว้ก่อนควบรวม 5 ปี และหลังควบรวมหากมีการร้องเรียนอาจระงับหรือปรับเงื่อนไขเพิ่ม• Moody’s ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือรัฐบาลสหรัฐสู่เชิงลบจากมีเสถียรภาพ โดยคาดการขาดดุลการคลังจะอยู่ในระดับสูงมาก และจะทำให้ความสามารถชำระหนี้ลดลงอย่างมาก แต่ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาว ตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ์และไม่มีประกันของรัฐบาลไว้ที่ระดับ Aaa• ปท. ต่างๆ กว่า 60 ปท. นำโดย EU สหรัฐฯ UAE สนับสนุนข้อตกลงเพิ่มพลังงานทดแทนขึ้น 3 เท่าในทศวรรษนี้และเลิกใช้ถ่านหิน• ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ พ.ย. ปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ | |||||||||||||
กลยุทธ์การลงทุน | |||||||||||||
แม้ตลาดหุ้นไทยจะยังคงเผชิญความผันผวนสูง แต่ช่วงสั้นคาด SET จะมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวได้ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการทั่วโลกไม่แย่กว่าที่ตลาดกังวล อีกทั้งในประเทศยังมีความคาดหวังการจัดตั้งกองทุน LTF และต่ออายุ SSF อย่างไรก็ดีในแง่ของ Upside ของ SET มองจะยังถูกจำกัด หลังอาจมีแรงขายทำกำไรจากการสิ้นสุดประกาศผลการดำเนินงาน 3Q66 ของหุ้นกลุ่ม Real Sector กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” | |||||||||||||
ล็อคเป้าลงทุน | |||||||||||||
Weekly Portfolio : แม้ตลาดหุ้นไทยยังเผชิญความผันผวนสูง แต่ช่วงสั้นมอง SET ยังมีโอกาสฟื้นตัวได้ ภายใต้ Upside ที่จำกัด กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ดังนี้1) หุ้น Big Cap. ที่คาดฟื้นตัวได้ตามตลาดและมีความผันผวนต่ำ โดยเลือกหุ้น Undervalued ซึ่งราคาปรับลงมาจนเข้าเขต Oversold และยังมีพื้นฐานดี อีกทั้ง Valuation ไม่แพง (PER และ PBV 23F ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) เลือก BDMS BEM BBL GULF SCGP2) หุ้น Earnings Play ซึ่งจะมีการประกาศงบ 3Q66 ในสัปดาห์หน้า ขณะที่โมเมนตัมกำไร 4Q66 จะยังเติบโต YoY และเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปี เลือก ERW AOT CENTEL ZEN CRCขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT BTG) | |||||||||||||
Daily Top picks | |||||||||||||
CPALL 3Q66 กำไรปกติตามคาด และ 4Q66 คาดกำไรจะเพิ่มขึ้น YoY จากยอดขายและมาร์จิ้นของธุรกิจ CVS ที่ดีขึ้น และส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก CPAXT อีกทั้งการมีสาขามากสุดในกลุ่มฯ ทำให้ได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้น ศก. E-refund และ digital wallet ที่จะออกมาในปี 2567AOT ได้ประโยชน์จากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจท่องเที่ยวไทย เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจะทำให้กำไรเพิ่มขึ้น (+YoY, +QoQ) ใน 4QFY66-1QFY67 ขณะที่ช่วงสั้นมองราคาหุ้นปรับลงสะท้อนปัจจัยลบแล้ว อีกทั้งหากเทียบ YTD ราคาหุ้นยังตามหลังหุ้นอื่นๆ ในกลุ่มท่องเที่ยว | |||||||||||||
บทวิเคราะห์วันนี้ | |||||||||||||
กลุ่มพาณิชย์ – ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นศก.ที่จะออกมาในปี 2567BAM – 3Q66: กำไรจาก NPL และ NPA ลดลงCBG – 3Q66: กำไรสุทธิใกล้เคียงคาดCPALL – 3Q66: ดีเกินคาดเพราะกำไร XF; กำไรปกติตามคาด EPG – 2QFY67: ผลประกอบการแข็งแกร่งจากส่วนแบ่งกำไรLH – 3Q66: กำไรลดลงแรงMTC – คาด credit cost ทำจุดสูงสุด และ NPL เกิดใหม่ลดลงOR – 3Q66: กำไรสินค้าคงเหลือหนุนกำไรเพิ่มขึ้นStock Note – AU
|