| ทดสอบ 1400 จุด อีกครั้ง | |
SET ปรับขึ้นด้วยแรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น และยังมีโมเมนตัมต่อเนื่อง หนุนดัชนีให้คาดขึ้นทดสอบบริเวณแนวต้านสำคัญ 1400 จุด อีกครั้ง ซึ่งหากขึ้นทะลุผ่านได้ จะเป็นสัญญาณบวกต่อ โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1410 จุด ด้านแนวรับอยู่ที่ 1390 และ 1380 จุด ตามลำดับ | |
| ประเด็นสำคัญ | |
• สหรัฐรายงานดัชนี PPI ทั่วไป ก.พ. ปรับขึ้น 1.6%YoY และดัชนี PPI พื้นฐาน ก.พ. ปรับขึ้น 2.0%YoY สูงกว่าตลาดคาด ทำให้นักลงทุนกังวล Fed อาจจะตรึง ดบ. ที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดไว้ ขณะที่จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ที่แล้วลดลงสู่ 2.09 แสนราย ต่ำกว่าคาด ส่วนยอดค้าปลีก ก.พ. เพิ่มขึ้น 0.6% ต่ำกว่าคาด• IEA คาดอุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2567 ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.1 แสนบาร์เรล/วัน จากการคาดการณ์ในเดือนที่แล้ว อีกทั้งปรับลดคาดการณ์อุปทานน้ำมันในปี 2567 สู่ระดับ 102.9 ล้านบาร์เรล/วัน ต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ระดับ 103.8 ล้านบาร์เรล/วัน• ผู้นำเข้าข้าวสาลีของจีนหลายรายยกเลิกหรือชะลอการนำเข้าข้าวสาลีออสเตรเลียราว 1 ล้านเมตริกตัน ขณะที่อุปทานข้าวสาลีที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกฉุดให้ราคาลดลง• ทางการจีนประกาศจะใช้ทุกมาตรการที่จำเป็น เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทจีนในต่างประเทศ หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายระบุให้ ByteDance ขายกิจการ TikTok ภายในเวลา 6 เดือน• กองทุนของรัฐบาลจีนระงับการซื้อ ETF หลังใช้เงินซื้อไปกว่า 5 หมื่นล้านเหรียญในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา• ก.ล.ต. จับตาหุ้นกู้ความเสี่ยงสูง ปรับเกณฑ์ก่อนออก แสดงข้อมูลเป็น filing เปิดเผยข้อมูลการเงินอย่างละเอียด แจ้งการบริหารเงินทุก 6 เดือน เตรียมเปิดรับฟังความคิดเห็น เพื่อสร้างความเชื่อมั่น หลังพบปัญหาเหตุผิดนัดชำระหนี้สูง | |
| กลยุทธ์การลงทุน | |
ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยยังผันผวนในกรอบ โดยยังมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1400 จุด หลังในประเทศยังไร้ปัจจัยใหม่ชี้นำ ขณะที่มองว่าตัวเลขเศรษฐกิจของต่างประเทศที่ประกาศสัปดาห์นี้ อาทิ GDP 4Q66 ของญี่ปุ่น ออกมาแย่กว่าตลาดคาด ขณะที่ยอดค้าปลีกของสหรัฐยังอ่อนแอกว่าคาด และดัชนี CPI (เงินเฟ้อ) ก.พ. ของสหรัฐ ออกมาสูงกว่าตลาดคาด สร้างแรงกดดันต่อความคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” | |
| ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ | |
| ช่วงสั้น SET ยังผันผวนในกรอบ หลังยังไร้ปัจจัยชี้นำใหม่ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลัก ดังนี้1) หุ้นเก็งกำไรจากแรงซื้อกลับจากทำ Cover Short และ Fund Flow ไหลกลับ อีกทั้ง ตลท. มีแผนออกมาตรการคุม Short Sales มากขึ้น ขณะที่พื้นฐานยังแข็งแกร่ง เลือก AOT KBANK BBL PTT2) หุ้นเก็งกำไรขนาดเล็กที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง โดยกำไรปี 2567 ยังเติบโตดี YoY และมองราคาหุ้นผ่านจุดต่ำสุดแล้ว เลือก AU ONEE SECURE KLINIQ HTC3) นักลงทุนระยะยาวแนะนำลงทุนสะสมแบบ DCA หลังราคาหุ้นอยู่ในระดับ Undervalue มาก โดยเลือก BBL BDMS BEM CPALL PTT และ SCC ซึ่งเป็นหุ้น SET100 ซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม และมี ESG Ratings ระดับ AAA/AA, Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี และผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่ง | |
| Daily Top picks | |
| PTTEP ช่วงสั้นคาดราคาหุ้นได้อานิสงส์บวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น โดย Brent +1.65%DoD ปิดที่ $85.42/bbl และ WTI +1.93%DoD ปิดที่ $81.26/bbl สูงสุดนับตั้งแต่ พ.ย. 66 หลังปีนี้ IEA คาดอุปทานน้ำมันในตลาดโลกตึงตัวมากขึ้น พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์ แนะนำซื้อเก็งกำไรวันนี้ราคาไม่เกิน 155 บ.BCH มองเป็นหุ้นเด่นของเราในฐานะ earnings play โดยปี 2567 คาดกำไรปกติจะเติบโต 18%YoY สู่ 1.8 พันลบ. แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มการแพทย์ แรงหนุนจากการดำเนินงานที่เติบโตเพิ่มขึ้นที่โรงพยาบาลเปิดใหม่ 3 แห่ง สำหรับ 1Q67 คาดกำไรปกติจะเติบโต YoY และ QoQ จากปัจจัยฤดูกาล | |
| บทวิเคราะห์วันนี้ | |
กลุ่มธนาคาร – รวมโอกาสลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเข้ามาในประมาณการ | |
| ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Daily240315_T |
| Testing 1400 again |
| Market today |
The SET rose on support from Energy as oil price rose, pushing the index to test a strong resistance at 1400 again. If it can break through, signal will be positive with the next resistance at 1410. Supports are at 1390 and 1380. |
| Today’s highlights |
• US PPI in February increased by 1.6%YoY, while core PPI rose by 2.0%YoY, exceeding market expectations. This raised concerns that the Fed may delay its plans to taper its bond purchases for longer than anticipated. Initial jobless claims fell to 2.09mn last week, lower than expected. However, retail sales figures increased by only 0.6%, falling short of expectations.• The IEA forecasts global oil demand in 2024 will increase by 1.3mn barrels per day, up by 110,000 from the previous month. The IEA has revised down its projection for global oil supply in 2023 to 102.9mn barrels per day, lower than the previous estimate of 103.8mn barrels per day.• Several Chinese wheat importers have canceled or postponed orders from Australia totaling ~1mn tons, with higher global wheat supplies pushing prices down.• China has announced it will use all necessary measures to protect the interests of Chinese companies abroad following the US House vote to pass legislation requiring ByteDance to sell TikTok's operations within six months.• The Chinese government's state-backed funds have suspended purchases of exchange-traded funds (ETFs) after spending over US$50bn in the past five months.• The SEC is watching high-risk bonds and will adjust criteria before underwriting by showing data when filing and disclose financial data in detail and report financial statements every six months. It is preparing to hold public hearings to build confidence after finding high bond defaults. |
| Strategy today |
In the short term, the Thai stock market is expected to be range-bound with a significant resistance at 1400 as there is no new domestic catalyst. External economic figures to be reported this week include Japan 4Q23 GDP, US retail sales (expected to be weak) and US CPI in Feb (expected to be higher than market estimates and pressure the hopes of an interest rate cut by the Fed). The strategy is “Selective Buy”. |
| Trading today |
Weekly portfolio: In the short term the SET is expected to be range-bound without a new catalyst. We recommend “Selective Buy” in four main themes: 1) Speculative stocks with strong fundamentals being bought back to cover shorts and bringing fund inflow, plus the SET’s plans to introduce some measures to regulate short selling – AOT, KBANK, BBL and PTT. 2) Small-cap speculative stocks with strong fundamentals and growth expected in 2024 plus stock price already bottomed – AU, ONEE, SECURE, KLINIQ and HTC. 3) Long-term investors are recommended to invest via DCA accumulation as now would be good timing since the SET has fallen significantly, risk is low and stocks are undervalued – BBL, BDMS, BEM, CPALL, PTT and SCC, all of which are in SET100 and are leaders in their industries with ESG ratings of AAA and AA, valuation lower than 10-year historical average and strong operating results. |
| Daily top picks |
PTTEP: In the short term PTTEP benefits from rising crude oil price with Brent rising 1.65%DoD, closing at US$85.42/bbl and WTI up by +1.93%DoD, closing at US$81.26/bbl, the highest since Nov 2023. IEA expects oil supply to be tighter and has revised up its demand forecast. Recommended to buy for trading at no higher than Bt155/share.BCH: Our top pick as an earnings play. 2024 core profit is expected to grow 18% to Bt1.8bn, the strongest growth in the Healthcare sector, underwritten by better operations at its three new hospitals. 1Q24 core profit is expected to grow YoY and QoQ on seasonality. |
Today’s reports |
Bank – Effect of potential policy rate cuts |
| Click here to read and/or download file Daily240315_E |
