ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}

สวัสดีตอนเช้า - 18 เม.ย. 2567 ดีดสลับได้บ้าง แต่ภาพรวมปรับลงได้ต่อ

blog_list_heading
InnovestX Research
18 เม.ย. 2567;
25
แชร์บทความนี้
test_blog_details_img

เนื้อหาโดยรวม

ดีดสลับได้บ้าง แต่ภาพรวมปรับลงได้ต่อ

คาด SET มีแนวโน้มปรับตัวลงได้ต่อ หลังดัชนีหลุดแนวรับบริเวณ 1370 จุด ซึ่งรองรับได้ก่อนหน้านี้ สร้างสัญญาณลบทางเทคนิค และดัชนีได้รับปัจจัยลบ หลังเฟดส่งสัญญาณจำเป็นต้องคงดอกเบี้ยระดับสูงไว้ ด้านแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1360 และ 1350 จุด ส่วนกรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1370 และ 1380 จุด ตามลำดับ

ประเด็นสำคัญ 
• Fed เปิดเผยรายงาน Beige Book ว่ากิจกรรมทาง ศก. ขยายตัวเล็กน้อยในช่วงปลาย ก.พ.-ต้น เม.ย. และ บ.เอกชนส่วนใหญ่ของสหรัฐกังวลการชะลอตัวของเงินเฟ้ออาจเผชิญกับภาวะชะงักงัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยขัดขวางการลด ดบ. ของ Fed ขณะที่ FedWatch Tool บ่งชี้ นลท. ให้น้ำหนัก 84.8% ที่ Fed จะคง ดบ. ใน มิ.ย. และให้น้ำหนัก 46.2% ที่ Fed จะลด ดบ. 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ใน ก.ย.
• EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์น้ำมันที่ซบเซาในตลาด
• IMF คาดว่า ศก. รัสเซียจะเติบโต 3.2% ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี อย่างมีนัยสำคัญ โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกน้ำมันที่ยังคงแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ บวกกับการใช้จ่ายของรัฐบาลที่อยู่ในระดับสูง
• Morgan Stanley วางแผนจะเริ่มปลดพนักงานวาณิชธนากรประมาณ 50 ตำแหน่ง คิดเป็น 13% จาก 400 ตำแหน่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในสัปดาห์นี้ โดยอย่างน้อย 80% จะเป็นพนักงานในฮ่องกงและจีน
• CEO Apple Inc. ระบุพิจารณาความเป็นไปได้ในการสร้างโรงงานผลิตในอินโดนีเซีย หลังจากได้เข้าพบหารือกับ ปธน. อินโดนีเซียที่กรุงจาการ์ตา
• สศค. คาดความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน ส่งกระทบต่อ ศก. ไทยไม่มาก ภายใต้ความขัดแย้งที่อยู่ในวงจำกัดและมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยประเมินผลกระทบต่อ ศก. ไทยจะเกิดขึ้นจากความผันผวนของตลาดเงิน ตลาดทุน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน 

ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยมีโอกาสผันผวนเชิงลบ โดยแม้มีปัจจัยบวกในประเทศจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ แต่คาดสถานการณ์ตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง หลังอิหร่านปฏิบัติการโจมตีตอบโต้อิสราเอล จะกดดันต่อการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก โดยหากสถานการณ์ยืดเยื้อและขยายวงกว้างจะทำให้มีความเสี่ยงที่ราคาพลังงานและเงินเฟ้อสูงขึ้น อีกทั้งมีโอกาสที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยล่าช้ามากขึ้น กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยจะผันผวนเชิงลบ จากกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะทำให้ราคาพลังงานและเงินเฟ้อสูงขึ้น อีกทั้งเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยล่าช้ามากขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีมหลัก ดังนี้
1) หุ้นที่สามารถลดความผันผวนและเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากกรณีความไม่สงบในตะวันออกกลาง ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนสูงขึ้นกับการตอบโต้ของอิสราเอลว่าจะออกมาในรูปแบบใด และจะนำไปสู่สงครามระหว่างอิหร่านอย่างเต็มรูปแบบหรือไม่ โดยนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง เลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP ซึ่งคาดจะได้ประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และหุ้นโรงกลั่นจะได้ผลบวกผ่านกำไรสต๊อกที่เพิ่มขึ้นเชิงพื้นฐานชอบ BCP ส่วน TOP สำหรับการ Trading (ทั้งนี้หากสถานการณ์ลุกลามไปสู่การสู้รบอย่างเต็มรูปแบบอาจหนุนราคาน้ำมันเกิน 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในระยะสั้น เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานของอิหร่านที่คิดเป็น 3-4% ของอุปทานโลก และในกรณีเลวร้ายกระทบการส่งออกน้ำมันผ่านช่องแคบ Hormuz อาจกระทบการส่งออกได้สูงสุดถึงกว่า 17% ของอุปทานโลก) ขณะที่มองลบต่อกลุ่มค้าปลีกน้ำมัน (ค่าการตลาดแคบ) และกลุ่มสายการบิน (ต้นทุนเพิ่ม)
2) นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แนะนำหุ้นปลอดภัย (Defensive Stock) ซึ่งพื้นฐานแข็งแกร่ง ผลประกอบการไม่ผันผวนตามเศรษฐกิจ เลือก หุ้นการแพทย์ (BDMS BCH) หุ้นขนส่งทางบก (BEM) หุ้นค้าปลีก (CPALL CPAXT) หุ้นสื่อสาร (ADVANC)
3) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐผ่านการแจกเงินดิจิทัล เลือก CPALL CPAXT BJC HTC SNNP
4) หุ้นที่ได้อานิสงส์บวกจากธุรกิจท่องเที่ยวไทยที่จะดีขึ้นตามผลฤดูกาล เลือก AOT ERW MINT CPALL
Daily Top picks
GPSC ช่วงสั้นมองได้ Sentiment บวกจากราคาก๊าซในยุโรปและ Bond Yield ของสหรัฐที่ปรับตัวลง ขณะที่เชื่อว่าปีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับ GPSC ได้ผ่านพ้นไปแล้ว โดยแรงกดดันที่ลดน้อยลงจากต้นทุนพลังงานและกำไรที่ดีขึ้นจากโรงไฟฟ้าทั่วไป จะหนุนให้ปี 2567 กำไรปกติจเติบโตแข็งแกร่ง 49%YoY
CPALL มองเป็นหุ้นเด่นที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการดิจิดัลวอลเล็ตซึ่งจะหนุนให้กำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 4Q67 เป็นต้นไป ขณะที่ 1Q67 คาดกำไรจะเติบโต YoY ดีที่สุดในกลุ่มพาณิชย์ และ SSS ของธุรกิจ CVS มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งใน 2Q67 จากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นและอากาศร้อน 
บทวิเคราะห์วันนี้
SCC – พรีวิว 1Q67: คาดกำไรปรับตัวดีขึ้น QoQ
TISCO – 1Q67: กำไรชะลอตัวตามคาด

 

 
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก   Daily240418_T
May recover some, but overall heading down
Market today

The SET is likely to continue to decline after the index fell below support of 1370 which had been expected to hold, causing a negative technical indicator; there is also pressure from the Fed’s signal that interest would be kept high. Next supports are at 1360 and 1350; the upper bound is limited at resistances of 1370 and 1380.

Today’s highlights

• The Fed's Beige Book showed economic activity expanded slightly in late Feb-early Apr. Most US private companies are concerned a slowdown in inflation could lead to a stall, which would hinder the Fed's rate cut plans. The FedWatch Tool indicates an 84.8% probability that the Fed will keep rates unchanged in Jun and a 46.2% chance of a 25bps-rate cut to 5.00-5.25% in Sep.
• The EIA reported US crude oil stocks rose by 2.7mn bbl last week, above the expected increase of 1.6mn bbl, signalling sluggish oil demand in the market.
• The IMF projects Russia's economy will grow 3.2% this year, significantly higher than the US, UK, France, and Germany, supported by still-strong and stable oil exports and high government spending.
• Morgan Stanley plans to lay off around 50 investment banking roles, 13% of its 400 positions in the Asia-Pacific region this week, with at least 80% being in Hong Kong and China.
• Apple's CEO is considering building a manufacturing plant in Indonesia after meeting with the Indonesian president in Jakarta.
• NESDC expects the Israel-Iran conflict to have a limited impact on Thailand's economy, with any effects arising from volatility in financial markets and higher commodity prices.

Strategy today 

In the short-term the Thai stock market is likely to decline and test 1380 despite domestic catalysts from stimulus and accelerating budget spending. Investment is expected to be pressured by tension in the Middle East after Iran retaliated to Israel’s attack that killed high-ranking officers. If the situation escalates, it will push energy prices and inflation up, and the Fed is likely to delay any interest rate cut. The strategy is “Selective Buy”.

Trading today

In the short term the SET is expected to fluctuate in response to tension in the Middle East, which will raise energy prices and inflation, plus the Fed looks likely to delay its interest rate cut. We recommend “Selective Buy” in four main themes:
1) Stocks more resistant to fluctuation and risk from the conflict in the Middle East given the uncertainty of Israel’s response to Iran’s attack. For high-risk-takers, choose the upstream stock PTTEP, which directly benefits from higher oil price and refinery stocks who benefitting from higher inventory gain – BCP and TOP for trading. An escalation into a full-scale war may push oil price up to above US$100/bbl in the short term as supply from Iran, which has 3-4% of the world’s supply, would be affected. In the worst case, the situation may affect oil exports in the Straits of Hormuz, 17% of the world supply. This is negative for oil retailing (lower marketing margin) and aviation (higher cost).
2) For risk-averse investors, look for defensive stocks with strong fundamentals whose profit is less exposed to economic fluctuations – healthcare (BCH and BDMS), land transport (BEM), commerce (CPALL and CPAXT) and telecommunication (ADVANC).
3) Stocks benefiting from the “digital wallet” – CPALL, CPAXT, BJC, HTC and SNNP.
4) Stocks benefiting from a higher season for the tourism industry – AOT, ERW, MINT and CPALL.

Daily top picks

GPSC: In the short term sentiment is boosted by a fall in European natural gas prices and US bond yield. We believe its worst year has passed and pressure will be eased by lower fuel cost and improving profit from power plants, together lifting 2024 core profit to growth of 49%.
CPALL: Our top pick stock benefits from the digital wallet, which will support profit growth from 4Q24; 1Q24 profit is expected to grow the highest of peers YoY, with SSS of the CVS business poised to grow strongly in 2Q24 from increasing tourists and hot weather.

Today’s reports

SCC – Preview 1Q24F: Earnings to be up QoQ
TISCO – 1Q24: Sluggish, as expected

 
Click here to read and/or download file  Daily240418_E 

 

กลับด้านบน