| ยังไร้ปัจจัยหนุน สัญญาณเป็นลบต่อ |
ดัชนีปรับลงจ่อทำจุดต่ำใหม่ ขณะที่สัญญาณเทคนิคยังเป็นลบ และตลาดที่ขาดปัจจัยหนุน ทำให้ดัชนีมีแนวโน้มปรับลงได้ต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1345 และ 1330 จุด ตามลำดับ ทั้งนี้ อาจมีการดีดสลับบ้าง แต่การฟื้นตัวถูกจำกัดที่แนวต้าน 1370 และ 1380 จุด ตามลำดับ |
| ประเด็นสำคัญ |
• ก. พลังงานติดตามราคาน้ำมันตลาดโลกใกล้ชิดเพื่อใช้พิจารณาว่าควรลดราคาน้ำมันเบนซินต่อไปหรือไม่ตามมติ ครม. ลดราคาขายปลีกแก๊สโซฮอล์ 91 ลง 2.50 บ./ลิตร ที่จะครบกำหนด 31 ม.ค. นี้• กรมพัฒนาธุรกิจการค้าคาดปี 2567 จะมีจำนวนการจัดตั้งธุรกิจใหม่ 9-9.5 หมื่นราย เพิ่มขึ้น 5-10%YoY และคาดมี นลท. ต่างชาตินำเงินเข้ามาลงทุนในไทยรวม 1.3-1.5 แสนลบ. เพิ่มขึ้น 5-15%YoY• ก. คลังเผยแพร่เอกสาร GDP ปี 2566 เติบโต 1.8%YoY ต่ำกว่า ธปท. คาด 3.6% ก่อนยกเลิกเอกสาร โดยระบุรอให้ยืนยันชัดเจนก่อน ขณะที่ IMF คาด GDP ไทยปี 66 เติบโต 2.5%YoY และปี 67 เติบโต 4.4%YoY หากรวมดิจิทัลวอลเลต ด้านผู้ว่า ธปท. เผย ศก. ไทยไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤต เพียงแต่มีการขยายตัวที่ต่ำกว่าคาด• ก. ท่องเที่ยวฯ ระบุ 15-21 ม.ค. 67 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 715,579 คน เพิ่มขึ้น 3%WoW โดย 5 อันดับแรกของ นทท. ต่างชาติ ได้แก่ จีน มาเลเซีย เกาหลีใต้ รัสเซีย อินเดีย• จีนเตรียมใช้มาตรการมูลค่า 2.78 แสนล้านเหรียญ ฟื้นฟูตลาดหุ้น โดยเม็ดเงินส่วนใหญ่มาจากบัญชี ตปท. ของบริษัทรัฐบาลจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกองทุนสร้างเสถียรภาพที่มีเป้าหมายเพื่อเข้าซื้อหุ้นในตลาดหุ้นจีนผ่านโครงการ Hong Kong Exchange Link• Reuters ระบุผลสำรวจคาด Fed จะลด ดบ. ในช่วง 2Q67 และมีโอกาสเกิดขึ้นในเดือน มิ.ย. มากกว่าเดือน พ.ค.• รัฐนอร์ทดาโคตา แหล่งผลิตน้ำมันอันดับ 3 ของสหรัฐกลับมาผลิตน้ำมันได้อีกครั้ง หลังปิดสายการผลิตจากสภาพอากาศที่หนาวจัด |
| กลยุทธ์การลงทุน |
ช่วงสั้นตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดตลาดจะมีการปรับลดความคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดลง หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ เงินเฟ้อ ตลาดแรงงานและการผลิตไม่ได้แย่อย่างที่กังวล ซึ่งทำให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงมีโอกาสพักฐานในช่วงสั้น ขณะที่ในประเทศเองยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ กลยุทธ์ลงทุนจึงเน้น “ตั้งรับ สะสมหุ้นพื้นฐานรอการฟื้นตัวของตลาด” |
| ล็อคเป้าลงทุน |
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมอง SET ยังเปราะบางและมีแนวโน้มได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก ขณะที่ในประเทศมองยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นบรรยากาศการใหม่ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงเน้น “ตั้งรับ สะสมหุ้นพื้นฐานรอการฟื้นตัวของตลาด” ใน 2 ธีมหลัก ดังนี้1) นักลงทุนระยะกลางที่ต้องการลงทุนในหุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี เลือก AP BCP และ KTB โดยใช้หลักเกณฑ์ คือ มีสถิติจ่ายปันผลต่อเนื่องอย่างน้อย 10 ปีขึ้นไป, มี SET ESG Rating ระดับ AAA/AA, คาดให้ Div. Yield ที่เหลือหลังหักเงินปันผลที่จ่ายระหว่างกาลไปในระหว่างปี 66 สูงเกิน 5% และปี 2567 ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโต YoY2) นักลงทุนระยะยาวแนะนำลงทุนสะสมแบบ DCA เนื่องจากมองเป็นจังหวะที่ดีที่สุด หลัง SET ปรับลงแรงจนความเสี่ยงลดลงไปมาก และราคาหุ้นอยู่ในระดับ Undervalue มาก โดยเลือก BBL BDMS BEM CPALL PTT และ SCC ซึ่งเป็นหุ้น SET100 ซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม และมี ESG Rating ระดับ AAA/AA, Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี และผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่งระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากภาวะเอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT BTG) |
| Daily Top picks |
ERW กำไรปกติ 4Q66 คาดเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปี เติบโต YoY และ QoQ หนุนจากฤดูกาลท่องเที่ยวและ ARR ที่เพิ่มขึ้น คาดปี 2566 พลิกมีกำไรปกติ 718 ลบ. และเติบโต 13%YoY ในปี 2567 กลยุทธ์การเติบโตระยะยาวจะมุ่งเน้นกลุ่มโรงแรมบัดเจ็ท HOP INN ขยายออกไป ตปท. มากขึ้นTNP 4Q66 คาดเป็นไตรมาสดีสุดของปี เติบโต 22.5%QoQ ทั้งปี 2566 คาดกำไรสุทธิทรงตัว YoY และเติบโต 6%YoY ในปี 2567 จากกำลังซื้อดีขึ้นและรับรู้ยอดขายสาขาใหม่ที่มีแผนเปิดต่อเนื่อง 6 แห่ง อีกทั้งฐานะการเงินแข็งแกร่ง (Net Cash 69 ลบ.) และได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้น ศก. |
| บทวิเคราะห์วันนี้ |
กลุ่มปิโตรเคมี – ส่วนต่างราคาโอเลฟินส์ที่กว้างขึ้นจะเกิดขึ้นแค่ช่วงสั้นๆIRPC – พรีวิว 4Q66: คาดผลประกอบการอ่อนแอKKP – เป้าหมายปี 2567 ส่งสัญญาณเชิงลบSCGP – 4Q66: กำไรสุทธิต่ำกว่า INVX และ consensus คาดSIRI – เปิดโครงการใหม่ลดลงเล็กน้อยในปี 2567 |
| ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Daily240124_T |
| Still no catalyst, clouded skies |
| Market today |
The index fell to a new low, while technical indicators remain negative. Given the lack of a catalyst, the SET is likely to continue declining with supports at 1345 and 1330. There may be some temporary comeback, but recovery is limited at resistances at 1370 and 1380. |
| Today’s highlights |
• The Ministry of Energy is monitoring global oil prices to decide whether to continue lowering gasoline prices after the Cabinet's decision to reduce retail prices of Gasohol 91 by Bt2.50/liter, which is set to expire on Jan 31.• The Department of Business Development expects the establishment of 90,000-95,000 new businesses in 2024, an increase of 5-10%. Foreign investment in Thailand is projected to reach Bt130-150bn, up 5-15%.• The Ministry of Finance released a report that Thailand's GDP growth in 2023 was 1.8%, far below the BoT's forecast of 3.6%, before retracting the statement for further study. The IMF forecasts Thailand's GDP growth at 2.5% in 2023 and 4.4% in 2024, including the digital wallet program. The BoT governor said the Thai economy is not in a crisis but is expanding slower than expected.• The Ministry of Tourism reported 715,579 foreign tourists visited Thailand between Jan 15-21 an increase of 3%WoW, with the top five countries of origin being China, Malaysia, South Korea, Russia, and India.• China is preparing to introduce a US$278bn package to revitalize its stock market, primarily financed by the foreign accounts of state-owned enterprises. This is part of a stability fund intended to purchase shares in the Chinese stock market through the Hong Kong Exchange Link project.• A Reuters survey suggests the Fed will start cutting interest rates in the second quarter of 2024 with a higher likelihood in June than in May.• North Dakota, the third-largest oil-producing state in the U.S., has resumed oil production after a shutdown due to extremely cold weather. |
| Strategy today |
In the short-term the Thai stock market is likely to continue to be pressured by externals as hopes of a reduction in interest rate by the Fed fade after US figures for inflation, employment and manufacturing were not bad as expected. This means risky asset markets are likely to rest in the short term; at home, the market lacks a new catalyst. The strategy is “defensive and accumulate fundamental stocks to wait for the market recovery”. |
| Trading today |
Weekly portfolio: In the short term the SET is expected to be fragile and still pressured by externals while still lacking new domestic catalysts to stimulate investment. We recommend “defensive and accumulate fundamental stocks to wait for the market recovery” in two main themes: 1) Medium-term investors who want to invest in high-quality dividend stocks with the following criteria: has paid a consistent dividend for at least 10 years, has a SET ESG Rating of AAA or AA, with dividend yield of above 5% after deducting 2023 interim dividend and 2024 profit is expected to grow YoY - AP, BCP and KTB. 2) For long-term investors, we recommend DCA investment as it offers the best opportunity after the SET fell, reducing risk significantly, in stocks with undervalued stock price – BBL, BDMS, BEM, CPALL, PTT and SCC, all in SET100 and leaders in their industry with SET ESG Rating of AAA and AA, valuation below 10-year average and strong operating results.In the medium term we recommend being cautious on stocks that are set to be affected by El Nino, which will erode purchasing power in the agricultural sector: Finance (MTC, SAWAD), Automotive (SAT, STANLY), Beverages (CBG has high sugar cost) and Food & Agriculture (CPF GFPT and BTG). |
| Daily top picks |
ERW: 4Q23 core profit is expected to be the best of the year, growing YoY and QoQ, supported by tourism season and increased ARR. In 2023, we expect a turnaround with core profit of Bt718mn, followed by growth of 13% in 2024. Its long-term strategy is to focus on its budget hotel, HOP INN, and expand overseas.TNP: 4Q23 is expected to be the best quarter of the year with net profit growing 22.5% QoQ, leaving 2023 net profit little changed YoY. Growth is expected at 6% in 2024 on improved purchasing power and booking of sales from six new branches. The company has a strong financial position (net cash of Bt69mn) and benefits from economic stimulus. |
Today’s reports |
Petrochemicals – Wider olefins spread to be short-livedIRPC – Preview 4Q23F: poor earnings expected KKP – Bearish 2024 guidance SCGP – 4Q23: Misses INVX & consensusSIRI – Fewer launches in 2024 |
| Click here to read and/or download file Daily240124_E |
