| หากต่ำกว่า 1365 เป็นลบต่อ |
SET ลงมาใกล้แนวรับบริเวณ 1365 จุด ซึ่งอาจมีการดีดขึ้นสลับในระยะสั้นได้บ้าง อย่างไรก็ตาม สัญญาณเทคนิคในภาพรวมที่เป็นลบ ทำให้กรอบบนถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1375 และ 1380 จุด ตามลำดับ ขณะที่หากหลุดต่ำกว่า 1365 จุด จะเป็นสัญญาณลบต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1360 จุด |
| ประเด็นสำคัญ |
• ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ พ.ค. ปรับขึ้นสู่ระดับ 54.4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 25 เดือน จากระดับ 51.3 ในเดือน เม.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
• คณะบริหาร ปธน. สหรัฐระบุมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนรอบใหม่มูลค่า 1.8 หมื่นล้านเหรียญจะเริ่มมีผลบังคับใช้ 1 ส.ค. นี้ พุ่งเป้าไปที่ภาคส่วนที่สำคัญต่อ ศก. จีนในอนาคตรวมถึงอุตสาหกรรม EV และชิป
• Tesla แจ้งให้บรรดา supplier ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์นอกเขตแดนจีนและไต้หวันภายในปีหน้า จากความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น
• ส.อ.ท. รายงานยอดผลิตและยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เม.ย.67 อยู่ที่ 104,667 คัน (-11.02%YoY) และ 70,160 คัน (-12.23%YoY) ตามลำดับ อาจปรับลดเป้าผลิตหลังยอดขายใน ปท. และส่งออกลดลง
• พาณิชย์รายงานมูลค่าการส่งออก เม.ย.67 พลิกขยายตัว 6.8%YoY จากออเดอร์สินค้าอุตสาหกรรม-สินค้าเกษตรราคาดี พร้อมยังคงเป้าหมายการส่งออกทั้งปี 2567 ไว้ที่ 1-2%
• ศาล รธน. มติ 5:4 รับคำร้อง 40 สว. ให้วินิจฉัยสถานะตำแหน่งนายกฯ แต่ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยให้ชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน
• รมช. คลังสั่งตั้ง คกก. ศึกษาความคุ้มค่าของหุ้นที่ ก. คลังถือจำนวน 100 หุ้น มูลค่า 3 หมื่นลบ. จากกลุ่มที่ได้จากยึดทรัพย์หรือนิติเหตุ เตรียมจำหน่ายหุ้นกลุ่มประสิทธิภาพต่ำออกเพื่อบริหารพอร์ตลงทุนให้มีประโยชน์สูงสุดกับภาครัฐ |
| กลยุทธ์การลงทุน |
ช่วงสั้นมอง SET ยังแกว่งตัวเคลื่อนไหวในกรอบ หลังขาดปัจจัยชี้นำและสิ้นสุดเทศกาลประกาศผลประกอบการ 1Q67 ของ บจ. แล้ว ขณะที่ประเด็นในประเทศลุ้นอาจมีแรงเก็งกำไรในหุ้นขนาดใหญ่จากความคาดหวังข่าวความคืบหน้าการจัดตั้งกองทุน LTF นอกจากนั้นตัวเลขเศรษฐกิจในต่างประเทศเองก็มีแนวโน้มชะลอตัวลง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” |
| ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ |
ตลาดหุ้นไทยจะแกว่งตัวในกรอบ หลังขาดปัจจัยชี้นำและสิ้นสุดเทศกาลประกาศงบ 1Q67 โดยสัปดาห์นี้รอลุ้นข่าวความคืบหน้าการฟื้น LTF กลับมาอีกครั้ง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลัก ดังนี้
1) หุ้น Big Cap. ซึ่งกำไร 1Q67 ออกมาดีกว่าตลาดคาด และ 2Q67 มองกำไรจะยังสามารถเติบโตทั้ง YoY และ QoQ อีกทั้ง Valuation ยังไม่แพง เลือก MINT ADVANC TU BEM CPF
2) สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไรหุ้น Mid-Small Cap. ซึ่งคาดกำไร 2Q67 จะมีแนวโน้มเติบโตดีทั้ง YoY และ QoQ เลือก KCE BTG OSP HMPRO TIDLOR
3) สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มเบาบางลง ทำให้ราคาน้ำมันดิบ Bent ปรับตัวลดลงมาอยู่ในกรอบล่างของช่วง 80-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP |
| Daily Top picks |
ADVANC 2Q67 คาดกำไรจะเติบโต YoY จากรายได้ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและรายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งคาดค่าใช้จ่ายในการบริหารจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจาก synergy ด้านต้นทุนเริ่มเห็นผลแล้ว คาดกำไรปี 2567 จะเพิ่มขึ้นสู่ 3.16 หมื่นลบ. (+10.9%YoY)
BCH 2Q67 คาดกำไรจะเติบโต YoY เพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ และคาดจะเห็นการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 2H67 หนุนจากการเปิดศูนย์การแพทย์เพิ่ม การปรับปรุงโรงพยาบาลแล้วเสร็จ และการดำเนินงานที่ดีขึ้นของ รพ. ใหม่ valuation ระดับไม่แพง คาดกำไรปี 2567 โต 20%YoY ดีสุดในกลุ่มการแพทย์ |
| บทวิเคราะห์วันนี้ |
| CBG – เติบโตต่อเนื่องใน 2Q67 |
|
|
|
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Daily240524_TBad news if it falls below 1365
| | Market today | The SET fell to near support of 1365, which may switch to a short-term rebound, though overall technical indicators are negative, limiting the upper bound at resistances of 1375 and 1380. A fall to below 1365 will keep technical negative, with the next support of 1360. | | Today’s highlights | • The preliminary US composite PMI in May rose to its highest in 25 months at 54.4 from 51.3 in April, boosted by an increase in new orders as business confidence improved.
• The US administration has announced US$18bn in new tariffs on Chinese imports effective August 1, targeting sectors critical to China's economy including the EV and chip industries.
• Tesla has told suppliers to shift production out of China and Taiwan by next year due to rising geopolitical uncertainties.
• FTI reported a fall in Thailand's car production and exports in April of 11.02%YoY to 104,667 units and 12.23%YoY to 70,160 units, respectively. It may revise down its 2024 production target in view of the decline in domestic sales and exports.
• Thailand's April exports rose 6.8%YoY, boosted by industrial and agricultural shipments. The 2023 export growth target of 1-2% was maintained.
• The Constitutional Court voted 5:4 to accept a petition to rule on the PM's status but allowed him to remain in office while presenting his defense within 15 days.
• The Minister of Finance has appointed a committee to study the value of 100 stocks worth Bt30bn held by the ministry from confiscations, preparing to divest low-performing holdings to optimize the investment portfolio. | | Strategy today | In the short term, the SET is expected to be range-bound with no true mover after 1Q24 earnings announcements ended. Expectations for a return of the LTF program may lead to speculation on big-caps, while external factors (economic data) are expected to slow down. Our strategy is “Selective Buy”. | | Trading today | The Thai capital market is expected to be range-bound on the lack of any real mover and the ending of 1Q24 quarterly earnings announcements. This week we will follow progress of a revival of the LTF program. We recommend “Selective Buy” with three main themes:
1) Big-cap stocks whose 1Q24 net profits were better than expected and 2Q24 profit is expected to grow YoY and QoQ, while valuations are not expensive – MINT, ADVANC, TU, BEM and CPF.
2) High risk takers who want to speculate on mid- to small-cap stocks whose 2Q24 profits are expected to grow YoY and QoQ – KCE, BTG, OSP, HMPRO and TIDLOR.
3) Tension has eased about the situation in the Middle East, causing Brent to decline to a lower bound of US$80-90/bbl, which is seen as an opportunity to hedge. For high risk takers, we recommend an upstream oil stock – PTTEP. | | Daily top picks | ADVANC: 2Q24 profit is expected to grow YoY from continued growth in tourism-related and mobile phone revenue, while management expense is not expected to go up much as cost synergy begins to be felt. 2024 profit is expected to grow to Bt31.6bn (+10.9%).
BCH: 2Q24 profit is expected to grow YoY and inch up QoQ, with profit expected to shoot up in 2H24 on the opening of new medical centers, completion of hospital renovations and better operations at new hospitals. Valuation is not expensive. 2024 profit is expected to grow 20%, outperforming peers in the healthcare sector. | Today’s reports | CBG – Growth continuing in 2Q24 | | | | Click here to read and/or download file Daily240524_E |
|
