ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}

คนไทยนับล้านไม่รู้! การออมทรัพย์กับการลงทุนต่างกันอย่างไร?

blog_list_heading
21 มิ.ย. 2566;
ใช้เวลาอ่าน 5 นาที
25939
แชร์บทความนี้
test_blog_details_img

เนื้อหาโดยรวม

    คู่มือเพื่อคนอยากมั่งคั่ง สรุปความสำคัญและความแตกต่างของการลงทุนและการออมทรัพย์ กุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การมีสุขภาพการเงินที่มั่นคง

การลงทุนและการออมสำคัญอย่างไร ต่างกันตรงไหนบ้าง?

การมีสุขภาพการเงินที่มั่งคั่งเพื่อนำไปสู่ความมั่นคงในชีวิต ถือเป็นเป้าหมายของใครหลายคน แต่การจะไปสู่เป้าหมายนั้นได้ย่อมเกิดจากหลายปัจจัย ซึ่งการลงทุนและการออมก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้การวางแผนทางการเงินประสบความสำเร็จได้

สำหรับคนที่มีคำถามคาใจ ว่าการออมเงินหรือการออมทรัพย์กับการลงทุนต่างกันอย่างไรห้ามพลาด เพราะวันนี้เรามีข้อมูลสำคัญของการลงทุนและการออมมาฝากกัน มาเริ่มต้นก้าวแรกสู่ความมั่งคั่งได้ง่าย ๆ เพียงแค่คุณรู้และเข้าใจเรื่องราวเหล่านี้

Key takeaway: สรุปชัด ความแตกต่างของการลงทุนและการออม

● วัตถุประสงค์:

○ การลงทุน มีวัตถุประสงค์เพื่อต่อยอดทรัพย์สินที่มีอยู่

○ การออม มีวัตถุประสงค์เพื่อเก็บเงินไว้ใช้ในอนาคต

● ความเสี่ยงและผลตอบแทน:

○ การลงทุน มีความเสี่ยงหลายระดับ โอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่า

○ การออม ความเสี่ยงน้อย โอกาสได้ผลตอบแทนน้อยและมักแพ้อัตราเงินเฟ้อ

● จุดแข็ง:

○ การลงทุนมีโอกาสทำกำไรได้สูง ลดหย่อนภาษีได้ ได้รับกรรมสิทธิ์ในการจัดการทรัพย์สินด้วยตัวเอง

○ การออม ทำได้ง่าย ความเสี่ยงต่ำ สภาพคล่องสูง สามารถทำได้โดยไม่ต้องเฝ้าดูสภาวะของตลาด

ความสำคัญของการลงทุนและการออมที่ควรรู้

ความหมายและความสำคัญของการลงทุน

การลงทุน หรือ Investment หมายถึงการทำให้เงินสดหรือทรัพย์สินที่มีอยู่งอกเงยขึ้นและสร้างผลตอบแทนกลับมาให้กับผู้ลงทุน และการที่จะได้มาซึ่งผลตอบแทนมากหรือน้อยนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงในการสูญเสียเงินต้นด้วยเช่นกัน ยิ่งหากต้องการได้ผลกำไรสูงมากเท่าไหร่ ความเสี่ยงในการลงทุนก็ยิ่งสูงตามไปด้วย แต่หากต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ไม่กระทบต่อเงินต้น ก็หมายความว่าโอกาสที่จะทำกำไรก็อาจน้อยกว่าการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงนั่นเอง

โดยปัจจุบัน การลงทุนมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบและหลากหลายความเสี่ยง ทำให้การจะตัดสินใจเลือกลงทุนในสินทรัพย์ได้ นอกจากจะต้องพิจารณาถึงผลตอบแทนแล้ว อย่าลืมนำความเสี่ยงที่สามารถรับได้มาพิจารณาร่วมด้วย ดังนั้น เราจึงสามารถสรุปข้อดีของการลงทุนได้ดังนี้

● มีโอกาสทำกำไรและสร้างผลตอบแทนได้สูง หากลงทุนด้วยความรู้ความเข้าใจในช่วงเวลาที่ถูกต้อง

● การลงทุนหลายรูปแบบสามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ เช่น การลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)

● การลงทุนบางประเภทจะช่วยให้คุณมีอำนาจการบริหารจัดการสินทรัพย์ได้ด้วยตนเอง เช่น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นซื้อมาเพื่อปล่อยเช่า หรือซื้อมาเพื่อขายไป

● สามารถต่อยอดเป็นอาชีพหลักได้ แม้ว่าจะหยุดทำงาน แต่สินทรัพย์ที่ลงทุนไว้ก็ยังคงสร้างรายได้ให้คุณได้อย่างต่อเนื่อง

ประเภทของการลงทุนที่ควรรู้

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่ายุคนี้ การลงทุนมีให้เลือกหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนสามารถรับได้ ซึ่งในตลาดการลงทุน สามารถแบ่งประเภทของการลงทุนออกเป็น 5 ประเภทด้วยกัน ได้แก่

ตราสารหนี้: แบ่งเป็นตราสารหนี้ภาครัฐและตราสารหนี้ภาคเอกชน มีความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนน้อย

หุ้น: ตราสารกิจการเพื่อระดมทุนในการทำธุรกิจ ทำให้ผู้ถือหุ้นกลายเป็นเจ้าของร่วมไปโดยปริยาย ให้ผลตอบแทนสูง แต่ความเสี่ยงก็สูงตามไปด้วย เช่น ความเสี่ยงกรณีธุรกิจล้มละลาย

● สินค้าโภคภัณฑ์: มีทั้งแบบที่ผลิตโดยมนุษย์และสินค้าจากธรรมชาติ เหมาะกับผู้ที่อยากกระจายความเสี่ยง

● อสังหาริมทรัพย์: ลงทุนได้หลายรูปแบบ ทั้งซื้อไว้เก็งกำไรหรือซื้อไว้ปล่อยเช่า ความเสี่ยงน้อย แต่สภาพคล่องต่ำ

สกุลเงินดิจิทัล: สินทรัพย์รูปแบบใหม่ มีความผันผวนสูง แต่ก็มีโอกาสทำกำไรได้สูงด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเลือกลงทุนในรูปแบบไหน อย่าลืมว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนอย่างละเอียดและประเมินความเสี่ยงที่ตนเองสามารถรับได้ให้ดี เพื่อป้องกันการขาดสภาพคล่องทางการเงินในอนาคต

ความหมายและความสำคัญของการออมทรัพย์

การออมทรัพย์ หรือ Saving เป็นการเก็บเงินส่วนหนึ่งเอาไว้เพื่อใช้จ่ายในอนาคต รวมทั้งเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ เช่น ออมเงินเพื่อซื้อของบางอย่าง, ออมเงินไว้สำหรับวางแผนเกษียณ เป็นต้น ซึ่งการออมจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเงินต้นเป็นหลัก ทำให้อาจเสียโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่สูง แต่ความเสี่ยงก็น้อยด้วยเช่นกัน

จุดเด่นของการออมก็คือ การออมสามารถทำได้ง่ายกว่า ไม่ต้องศึกษาข้อมูลหรือติดตามสภาวะตลาดอย่างใกล้ชิด มีสภาพคล่องสูง ออมง่ายโดยไม่มีความเสี่ยง ผลตอบแทนแน่นอน และสามารถทำได้หลายวิธี ตั้งแต่เงินฝากประจำ เงินฝากออมทรัพย์ ประกันสะสมทรัพย์ สลากออมสิน ไปจนถึงการหยอดกระปุกออมสินซึ่งสามารถปลูกฝังนิสัยรักการออมได้ตั้งแต่เด็ก ๆ เลยทีเดียว

สรุปความสำคัญและความแตกต่างของการลงทุนและการออมทรัพย์

สรุปความแตกต่างระหว่างการลงทุนและการออมทรัพย์

รู้จักความหมายและความสำคัญของการลงทุนและการออมกันไปแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงเริ่มเห็นภาพแล้วว่าการออมทรัพย์กับการลงทุนต่างกันอย่างไร แต่เราจะมาสรุปถึงความแตกต่างของทั้งการลงทุนและการออมให้เห็นกันชัด ๆ ด้วย 3 ประเด็นหลัก ๆ ดังนี้ แต่เราจะมาสรุปถึงความแตกต่างของทั้งการลงทุนและการออมให้เห็นกันชัด ๆ ด้วย 3 ประเด็นหลัก ๆ ดังนี้

วัตถุประสงค์

● การลงทุน: เพื่อต่อยอดทรัพย์สินที่มีอยู่ให้งอกเงยขึ้น

● การออมทรัพย์: เพื่อเก็บเงินไว้ใช้จ่ายในอนาคต

ความเสี่ยงและผลตอบแทน

● การลงทุน: มีความเสี่ยงหลายระดับ หากเป็นการลงทุนที่ผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงก็สูงตามไปด้วย

● การออมทรัพย์: ความเสี่ยงต่ำมาก หมดกังวลเรื่องการสูญเสียเงินต้น แต่ก็ได้ผลตอบแทนน้อยเช่นกัน และส่วนใหญ่ผลตอบแทนจากเงินฝากออมทรัพย์ มักจะแพ้อัตราเงินเฟ้อด้วย

จุดแข็ง

● การลงทุน: มีโอกาสทำกำไรได้สูง ลดหย่อนภาษีได้ และได้กรรมสิทธิ์ในการจัดการทรัพย์สินด้วยตัวเอง เหมาะกับผู้ที่มีทุนทรัพย์และศึกษาข้อมูลมาเป็นอย่างดี

● การออมทรัพย์: สภาพคล่องสูง เงินต้นปลอดภัย ไม่ต้องเฝ้าระวังสภาวะตลาด จึงเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย

แม้ว่าการลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่รู้หรือไม่ว่าการไม่ลงทุนเลยกลับมีความเสี่ยงยิ่งกว่า เพราะปัจจุบัน อัตราเงินเฟ้อในประเทศไทยสูงถึง 7% สินค้าและค่าครองชีพก็ราคาสูงขึ้นทุกวัน ในอนาคต เงิน 100 บาทอาจมีมูลค่าไม่เท่าเดิม ลองนึกภาพง่าย ๆ ว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ราคาก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่ชามละ 30-35 บาท มีเงิน 100 บาท สามารถซื้อได้ 3 ชาม แต่ในปัจจุบัน ราคาก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่ชามละ 50-60 บาท คิดเป็นกว่า 66% ในขณะที่เงินฝากประจำมีผลตอบแทนอยู่ที่ 0.25-2% เท่านั้น ส่วนการลงทุนในทองคำ ก็อาจไม่ได้ผลตอบแทนแบบก้าวกระโดดอย่างที่หวัง เพราะใน 1 ปี ทองคำอาจขึ้นราคาไม่ถึงบาทละ 1,000 บาท อีกทั้งต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้นค่อนข้างเยอะ จึงอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะสม สำหรับคนที่อยากได้ผลตอบแทนสูงสุดในระยะยาว

ดังนั้น การเลือกลงทุนในหุ้น กองทุน หรือหลักทรัพย์ที่ถูกต้อง จึงเปรียบเสมือนทางออกฉุกเฉินที่จะช่วยให้คุณทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง กลายเป็น Passive Income ที่สร้างผลตอบแทนได้สูงที่สุดในระยะยาวได้นั่นเอง

สรุปชัด การออมทรัพย์กับการลงทุนต่างกันอย่างไร

อยากทำความเข้าใจเพิ่มเติมว่า ทำไมต้องลงทุนสามารถชมคลิปเพิ่มเติมได้ที่ คลิก แล้วมาเริ่มต้นสร้างความมั่งคั่งและวางแผนการเงินด้วย แพลตฟอร์มการลงทุนจาก InnovestX แอปเดียวจบ ครบทุกจักรวาลการลงทุน เพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญและเข้าใจเรื่องการลงทุนเพื่อทุกคน ใช้งานได้ทั้งระบบ iOS และ Android

เปิดบัญชีลงทุน InnovestX วันนี้ ลงทุนได้ครบทั้งจักรวาลการลงทุน คลิกดาวน์โหลด

**คำเตือน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

 

หัวข้ออื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ
กลับด้านบน