Theme Play

กองทุน UGIS-N โอกาสเข้าลงทุนตราสารหนี้โลกคุณภาพสูง พร้อมรับดอกเบี้ยโลกขาลง

28 Nov 24 11:01 AM
Satellite Call Theme Play
Key Summary

INVX มองเป็นจังหวะสะสมการลงทุนในตราสารหนี้โลกคุณภาพดี เนื่องจากผลตอบแทน (Bond yield) ที่สูงในรอบหลายปี ประกอบกับความสามารถในการกระจายความเสี่ยงที่มีความจำเป็นมากยิ่งขึ้นในอนาคต

  • Macro: เศรษฐกิจสหรัฐฯ และโลกสะท้อนภาพ Soft Landing ทำให้การลดดอกเบี้ยเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
  • Valuation: อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้โลกปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบหลายปี ในขณะที่ปัจจัยพื้นฐานทั้งด้านกระแสเงินสดและความสามารถในการชำระหนี้ยังอยู่ในระดับที่สูง
  • Technical: ราคาปรับตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
  • กองทุนแนะนำ: UGIS-N

[Theme play คือ กลยุทธ์ที่มองหาโอกาสการลงทุนจากปัจจัยพื้นฐาน การปรับเปลี่ยนเชิงโครงสร้าง เทรนด์ และแนวโน้มการลงทุนใหม่ๆ ที่เป็นโอกาสการลงทุน]

 

ทำไมต้องลงทุนในตราสารหนี้?

ตราสารหนี้ (Fixed Income) เป็นสินทรัพย์การลงทุนขั้นพื้นฐานในการจัดพอร์ตโฟลิโอที่นักลงทุนต้องมี ด้วยคุณสมบัติที่ให้ผลตอบแทนคงที่ (Fixed Coupon) และความสามารถในการกระจายความเสี่ยง (Diversification) โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลกต้องเผชิญกับภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้ความสามารถดังกล่าวมีความน่าสนใจลดลงตามลำดับ

 

อย่างไรก็ดี INVX ประเมินว่าในปัจจุบันพบว่าตราสารหนี้โลกมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ทั้งด้านการให้ผลตอบแทนที่คงที่ซึ่งในปัจจุบันพบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ (UST 10Y) ซึ่งนักลงทุนมักใช้เป็นตัวแทนในการติดตามการลงทุนตราสารหนี้โลกนั้น มีการปรับตัวขึ้นจนเข้าใกล้กรอบ 4.5% ซึ่งถือเป็นระดับที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในระยะยาว ประกอบกับความสามารถในการกระจายความเสี่ยงที่กลับมาสูงขึ้น หลังจากในช่วงปี 2022 นั้นตราสารหนี้และตราสารทุนมีความสามารถในกระจายความเสี่ยงที่แย่ลง ตลอดจนอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้โลกที่สูงกว่า 4% บนตราสารหนี้ที่มีคุณภาพดีนั้นถือเป็นโอกาสที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยมากนักใน 10 ปี ที่ผ่านมา

 

Macroeconomic

  1. ภาวะทางการเงินเริ่มมีความตึงตัวน้อยลง หลังจาก FED เปลี่ยนผ่านจากวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง หลังแรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดลง ส่งผลดีต่อตลาดการเงินและสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ โดยทาง INVX คาดว่า FOMC จะทำการลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในปี 2024 และอีก 1% ในปี 2025
  2. ในด้านภาวะดอกเบี้ยนโยบายโลกนั้นพบว่าธนาคารกลางอื่นๆ อย่าง ECB, BOC ตลอดจน BOE ขานรับนโยบายดอกเบี้ยขาลงไปในทิศทางเดียวกันและมีแนวโน้มจะลดมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่มีความเสี่ยงชะลอตัวและความเสี่ยงของสงครามการค้าครั้งใหม่ที่กำลังจะมาถึง
  3. สำหรับด้านความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทเอกชน ตลอดจนการก่อหนี้ในปัจจุบันนั้นยังอยู่ในระดับที่แข็งแรงทั้งด้านกระแสเงินสดอิสระ และหนี้สินต่อกำไรต่อดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (Net Debt to EBITDA)

 

Valuation & Advantage

  • INVX ประเมินว่าจังหวะการลงทุนที่เหมาะสมของตราสารหนี้โลกนั้นควรพิจารณาอยู่ 2 มิติ 1.ผู้ออกตราสารหนี้นั้นมีความสามารถในการชำระหนี้หรือไม่ และ 2.อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในปัจจุบันนั้นเป็นอย่างไร

 

ภาพที่ 1:  ผลตอบแทนของตราสารหนี้ในปัจจุบันสะท้อนถึงผลตอบแทนในอีก 12 เดือนข้างหน้าของการลงทุนตราสารหนี้โลก

UGIS-N_1.jpg

Source: PIMCO as of 31 Oct 2024

  • จากการศึกษาของ PIMCO (1976 -2024) พบว่าระดับอัตราผลตอบแทนของ ดัชนี Bloomberg US Aggregate กับผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับในช่วง 5 ปีข้างหน้ามักเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน ดังนั้น หากนักลงทุนเลือกลงทุนตราสารหนี้ในช่วงที่ดัชนี Bloomberg US Aggregate มีอัตราผลตอบแทนอยู่ในระดับที่สูง นักลงทุนมักจะได้รับอัตราผลตอบแทนในระดับที่ใกล้เคียงกัน 5 ปีข้างหน้า

 

ภาพที่ 2: กระแสเงินสดอิสระของบริษัททั่วโลกอยู่ในระดับสูง ในขณะที่การก่อหนี้เมื่อเทียบกับกำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษีตลอดจนค่าเสื่อมราคานั้นต่ำเป็นประวัติการณ์

UGIS-N_2.jpg

Source: WPS, Bloomberg as of 21 Nov 2024

  • ในด้านปัจจัยพื้นฐาน (ภาพที่ 2) พบว่าในปัจจุบันแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลก อยู่ในระดับที่สูงที่สุดในรอบ 10 ปี ที่ระดับราว 5% ก็ตาม แต่ความสามารถในการชำระหนี้และคุณภาพของบริษัทจดทะเบียนทั่วโลกกลับไม่ได้ลดลงและยังแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 10 ปีอีกด้วย สะท้อนผ่านกระแสเงินสดต่อหุ้นที่สูงที่สุดและการก่อหนี้เมื่อเทียบกับกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ที่อยู่ในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์สะท้อนว่าว่าธุรกิจมีความสามารถในการชำระหนี้ในระดับที่สูง

 

ภาพที่ 3: ความสามารถในการกระจายความเสี่ยงของตราสารหนี้โลกเริ่มเพิ่มขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา

UGIS-N_3.jpg

Source: WPS, Bloomberg as of 21 Nov 2024

  • ในด้านความสามารถในการกระจายความเสี่ยง (ภาพที่ 3) ตราสารหนี้มีความสามารถในการกระจายความเสี่ยงดีขึ้นอย่างต่อเนื่องนับจากปี 2022 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลกอย่างรวดเร็วจึงทำให้ความผันผวนของตลาดการเงินเพิ่มสูงขึ้นและกระทบต่อความสามารถในการกระจายความเสี่ยงของตราสารหนี้ในที่สุด โดยปัจจุบันนับจากต้นปี 2024 พบว่าความสามารถในการกระจายความเสี่ยงของตราสารหนี้เริ่มกลับมา สะท้อนผ่านค่าสหสัมพันธ์ที่เริ่มลดลงและเข้าใกล้ค่าเฉลี่ยมากยิ่งขึ้น

 

ภาพที่ 4: Yield curve มีแนวโน้มจะมีความชันเพิ่มขึ้น (Steepening)

UGIS-N_4.jpg

Source: WPS as of 24 Nov 2024

  • ในมุมมองของ INVX เราประเมินว่าในปี 2024 ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยอีกราว 0.25% และในปี 2025 มีโอกาสลดได้ราว 4 ครั้งรวมทั้งหมด 1% โดยการลดดอกเบี้ยดังกล่าว จะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ประกอบกับการเปลี่ยนผู้นำของสหรัฐฯ และแนวโน้มในการใช้นโยบายการขาดดุลการคลังที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลนั้นมีแนวโน้มที่จะชันมากขึ้น (Steepening) โดยเฉพาะตราสารหนี้ที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ลงมานั้นมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงเนื่องจากในภาวะที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงดอกเบี้ยขาลงและยังมีการเติบโตต่อเนื่อง ทำให้การลงทุนในตราสารหนี้โลกนั้นต้องเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น-กลาง (Duration < 3-5 ปี) จึงมีความน่าสนใจ

 

ภาพที่ 5 : การลงทุนในปี 2025 นั้นอาจจะต้องมีการ “เลือก (Selection) ” มากยิ่งขึ้น

UGIS-N_5.jpg

Source: PIMCO as of 31 Oct 2024

  • โดย INVX พิจารณาสถานการณ์การลงทุนในปัจจุบันและมองไปข้างหน้าในอนาคต สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนกำลังจะต้องเผชิญคือ “ความไม่แน่ไม่นอน” เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงผู้นำสหรัฐฯ ดังนั้นการเลือกสินทรัพย์ลงทุนนั้นจำเป็นต้องมีความพิถีพิถันมากยิ่งขึ้น เนื่องจาก Valuation ตลาดสินทรัพย์การเงินแม้กระทั่งตราสารหนี้โลก ก็พบว่าไม่ได้มีความถูกมากนักเมื่อเทียบกับในอดีต (ภาพที่ 5) ทำให้การลงทุนจำเป็นต้องมีการหมุนเวียนเปลี่ยนวนสินทรัพย์เข้าออกเป็นระยะ (Asset Rotation) ทาง INVX จึงประเมินว่าการเลือกลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่มีความพร้อมต่อการปรับเปลี่ยนจากความไม่แน่ไม่นอนในอนาคตนั้นจึงเป็นปัจจัยหลักประการหนึ่งเพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าว

 

ภาพที่ 6: Agency MBS ในปัจจุบันนั้นมีความน่าสนใจในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม

UGIS-N_6.jpg

Source: PIMCO as of 31 Oct 2024

  • สำหรับตราสารหนี้ประเภทหนึ่งที่ในปัจจุบันนั้นยังมีข้อได้เปรียบจากทั้งการลดดอกเบี้ย, Valuation โดยเปรียบเทียบยังอยู่ในระดับถูก ตลอดจนปัจจัยพื้นฐานนั้นยังสอดรับกับความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ยในอนาคตได้ในปัจจุบันนั้นก็คือ “Agency MBS” หรือตราสารทางการเงินที่ถูกออกโดยสถาบันที่ค้ำประกันโดยรัฐบาล โดยในปัจจุบัน (ภาพที่ 6) พบว่าเมื่อเปรียบเทียบส่วนต่างผลตอบแทน (Spread) ระหว่าง Agency MBS และ Investment Grade Corporate Bond แล้วพบว่าส่วนต่างอัตราผลตอบแทนของ Agency MBS นั้นอยู่ในระดับที่สูงถึง 1.5% ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2023 ซึ่งเป็นช่วงที่มีอัตราดอกเบี้ยนโยบายสูงสุดของ FOMC นั้นแตะระดับสูงสุด จึงเป็นโอกาสที่น่าสนใจแก่การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่มีความสามารถในการเข้าลงทุน Agency MBS เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนดังกล่าวได้

 

Technical analysis

ในมุมมองเชิงเทคนิค พบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ทดสอบระดับ 4.5% และมีการเคลื่อนไหวเป็นแนวโน้มขาลง สะท้อนความน่าสนใจในการเลือกลงทุนเพื่อล็อคผลตอบแทนในระยะยาว ในระดับ UST 10Y ปัจจุบัน

 

ภาพที่ 7 :  UST 10Y Technical

UGIS-N_7.jpg

 

กองทุนแนะนำ: UGIS-N

 

จากข้อมูล Universe กองทุนตราสารหนี้โลก ของทาง InnovestX Wealth Products & Strategy กองทุนตราสารหนี้โลกที่เป็นกลุ่ม General (กองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้หลายประเภท ทั่วโลก) จะมีทั้งหมด 32 กองทุน โดยกระจายไปลงทุนในกองทุนหลัก 11 กองทุน รายละเอียดดังนี้

 

UGIS-N_8.jpg

 

ทั้งนี้ เพื่อให้ตอบโจทย์กับกลยุทธ์การลงทุนที่ต้องการลงทุนในกลุ่มตราสารหนี้ระยะสั้น – กลางเพื่อรับประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทีม InnovestX Wealth Products & Strategy จึงคัดเลือกจาก 11 กองทุนหลักในข้างต้นที่มี portfolio duration อยู่ราว 3 – 5 ปี จนออกมาเหลือ 5 กองทุนหลัก ดังนี้

 

UGIS-N_9.jpg

 

ในด้าน Qualitative เมื่อดูจากตารางข้างต้นจะเห็นได้ว่าพอร์ตการลงทุนของ PIMCO GIS Income Fund สามารถมีอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่ากองทุนในกลุ่มเดียวกันกัน ในขณะที่สามารถคงอันดับความน่าเชื่อไว้สูงกว่าเช่นกัน ซึ่งสื่อให้เห็นถึงปรัชญาการลงทุนที่มุ่งเน้นความสมดุล โดยกองทุนจะลงทุนทั้งในสินทรัพย์ที่ High Quality และ High Yield จึงทำให้กองทุนมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนได้อย่างเต็มที่ ในขณะที่ยังคงคุณภาพของตราสารในพอร์ตไว้ในระดับสูงไปพร้อม ๆ กันได้


นอกเหนือไปจากนั้นแล้ว PIMCO GIS Income Fund ยังเป็นกองทุนตราสารหนี้โลกที่มีความยืดหยุ่น และมีความไดนามิคสูง โดยผู้จัดการกองทุนพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้แต่ละชนิด รวมถึง duration ของพอร์ตการลงทุนไปให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดอยู่เสมอ

 

UGIS-N_10.jpg

 

UGIS-N_11.jpg

 

ซึ่งความสามารถของผู้จัดการกองทุนหลักก็ได้ถูกสะท้อนผ่านผลการดำเนินงานย้อนหลังในระยะยาวของกองทุน โดยเราจะเห็นได้ว่าจะเห็นได้ว่ากองทุน PIMCO GIS Income Fund สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีอย่างต่อเนื่องในช่วง 1, 3, และ 5 ปีย้อนหลัง โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีย้อนหลังที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้เฉลี่ย 3.17% ต่อปี รวมถึงยังเป็นกองทุนที่มีผลการดำเนินงานเมื่อปรับด้วยความเสี่ยงดีที่สุดเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับกลุ่มกองทุนในกลุ่มเดียวกันในช่วง 3 และ 5 ปีย้อนหลัง และดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ในช่วง 1 ปีย้อนหลังอีกด้วย


ในด้านกองทุนไทย ปัจจุบันมีกองทุนที่ลงทุนในใน PIMCO GIS Income เป็นกองทุนหลักเพียงกองทุนเดียวทั้งหมด 12 กองทุน โดยแบ่งออกเป็น Class สะสมมูลค่า (Accumulation) 7 กองทุน และ Class รับซื้อคืนอัตโนมัติ 5 กองทุน โดยมีรายละเอียดค่าธรรมเนียม ดังนี้

 

UGIS-N_18.jpg

 

ซึ่งกองทุน UGIS-N เป็นกองทุนที่ลงทุนใน PIMCO GIS Income Fund แบบสะสมมูลค่า (Accumulation) และป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนโดยมีค่าใช้จ่ายต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับกองทุนอื่น ๆ

 

แนวทางที่ InnovestX Wealth Products & Strategy คัดเลือกกองทุน UGIS-N

  1. กองทุนหลักมีอายุเฉลี่ยของตราสารในพอร์ตอยู่ที่06 ปี ซึ่งทีม InnovestX Wealth Products & Strategy มีมุมมองว่าตราสารในกลุ่มที่มีอายุราว 3 – 5 ปี จะได้รับประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
  2. กองทุนหลักมีความสม่ำเสมอในด้านปรัชญาการลงทุน โดยจะมุ่งเน้นสร้างพอร์ตการลงทุนที่มีความสมดุลระหว่าง High Quality และ High Yield ในขณะที่ทีมผู้จัดการกองทุนหลักมีประสบการณ์สูง บริหารพอร์ตแบบยืดหยุ่นโดยพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนให้พอร์ตการลงทุนเข้ากับสภาวะตลาดอยู่ตลอดเวลา
  3. กองทุนหลักสามารถสร้างผลตอบแทนเหนือดัชนีตราสารหนี้โลกได้อย่างสม่ำเสมอในระยะยาว
  4. กองทุน UGIS-N เป็นกองทุนใน Class สะสมมูลค่า และ FX Hedged ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำสุด

 

สรุปจุดเด่นของกองทุน UGIS-N

  1. PIMCO เป็นบริษัทจัดการการลงทุนที่จัดตั้งมาอย่างยาวนานถึง 53 ปี โดยมีจุดเด่นด้านการลงทุนในตราสารหนี้โดยเฉพาะ
  2. กองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund ถูกบริหารโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการลงทุนมากกว่า 20 ปี
  3. กรอบการลงทุนกว้างขวางทำให้ผู้จัดการกองทุนหลักสามารถเฟ้นหาโอกาสการลงทุนได้มากขึ้น
  4. พอร์ตการลงทุนมีการกระจายตัวไปยังหลากหลายกลุ่มสินทรัพย์ ทั้งในกลุ่ม High Quality และ High Yield
  5. ทีมผู้จัดการกองทุนหลักเน้นการบริหารแบบเชิงรุก พร้อมปรับสัดส่วนของตราสารในพอร์ตให้สอดคล้องไปกับสภาวะตลาด
  6. พอร์ตการลงทุนของกองทุนหลักมีความยืดหยุ่นสูง ทีมผู้จัดการกองทุนสามารถปรับ Duration ระหว่าง 0 – 8 ปี ตามมุมมองการลงทุน ณ ขณะนั้น
  7. พอร์ตการลงทุนที่กระจายตัวทำให้ PIMCO GIS Income Fund สามารถทำผลตอบแทนที่ดีเหนือการลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์เดียวในหลายช่วงสภาวะตลาด
  8. PIMCO GIS Income Fund สามารถเอาชนะดัชนีชี้วัดนับตั้งแต่จัดตั้ง โดยสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 5.03% ต่อปี
  9. กองทุน UGIS-N เป็นกองทุนที่ลงทุนใน PIMCO GIS Income Fund แบบสะสมมูลค่า (Accumulation) และ FX Hedged โดยมีค่าธรรมเนียมต่ำกว่ากองทุนอื่น ๆ ที่ลงทุนในกองทุนหลักเดียวกัน
  10. มีให้เลือกทั้ง Class ที่มีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (UGIS-N) และ Class ที่ไม่ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน FX Unhedged (UGISFX-N) และยังสามารถสับเปลี่ยนระหว่าง 2 กองทุนได้ตามมุมมองค่าเงินโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

 

กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์  (UGIS-N) เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่ลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้โลกคุณภาพสูง ที่มีประวัติจัดตั้งมาอย่างยาวนาน 

 

แต่ก่อนที่จะเจาะลึกไปที่ตัวกอง เราอยากพาทุกคนไปรู้จักกับ PIMCO โดย PIMCO นั้นคือ บริษัทจัดการการลงทุนที่มีประวัติจัดตั้งมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1971 และมีจุดเด่นด้านความเชี่ยวชาญในเรื่องของการลงทุนในตราสารหนี้โดยเฉพาะ และในปัจจุบัน PIMCO ยังมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) สูงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2024) ในขณะที่ทีมบริหารกองทุน PIMCO GIS Income Fund นั้นต่างเพรียบพร้อมไปด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปีขึ้นไปกันทั้งสิ้น

 

โดยหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้กองทุน PIMCO GIS Income Fund นั้นได้รับความนิยมก็คือ การที่ผู้จัดการกองทุนมุ่งบริหารแบบเชิงรุกโดยมีกรอบการลงทุนที่กว้างขวาง สามารถเลือกลงทุนในหลากหลายกลุ่มสินทรัพย์ ซึ่งทำให้ทีมผู้จัดการกองทุนสามารถเฟ้นหาโอกาสที่ซ่อนตัวอยู่ในทุกแง่มุมของตลาดได้ เพิ่มเวทีให้ทีมผู้จัดการกองทุนได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ และยังทำให้ผลตอบแทนของกองมาจากหลากหลายกลุ่มสินทรัพย์ ไม่กระจุกตัวอยู่ในตราสารกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากเกินไป

 

และเมื่อดูจากพอร์ตการลงทุนปัจจุบันของ PIMCO GIS Income Fund ที่มีอัตราผลตอบแทนสูง (Current Yield) ถึง 4.81% ต่อปี ในขณะที่ยังสามารถคงอันดับความน่าเชื่อถือเฉลี่ยของพอร์ตที่ระดับ AA- ได้นั้นเป็นผลมาจากการที่ทีมผู้จัดการกองทุนสามารถเลือกลงทุนได้ในทั้งกลุ่มสินทรัพย์ที่มีคุณภาพสูง และกลุ่มสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงนั่นเอง

 

ตัวอย่างกลุ่มสินทรัพย์หลักที่ทาง PIMCO เลือกลงทุนประกอบไปด้วย

  • ตราสารหนี้ภาครัฐฯ เช่น พันธบัตรรัฐบาลของประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งเป็นตราสารที่มีคุณภาพสูง โดยปัจจุบันมีสัดส่วนราว 15% ของพอร์ต
  • ตราสารหนี้ภาคเอกชน ทั้งในกลุ่ม Investment Grade ที่มีคุณภาพสูง และ High Yield ที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่มีความเสี่ยงสูงกว่า โดยปัจจุบันมีสัดส่วนราว 18% ของพอร์ต
  • ตราสารหนี้กลุ่ม Securitized เช่น MBS ซึ่งเป็นตราสารทางการเงินที่ถูกค้ำประกันโดยสินทรัพย์ที่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้ โดยตราสารกลุ่มที่เป็นสัดส่วนหลักของพอร์ตราว 37% คือ กลุ่ม Agency MBS ซึ่งเป็น MBS ที่ออกโดยสถาบันทางการเงินซึ่งถูกค้ำประกันโดยภาครัฐ ซึ่งเป็นตราสารกลุ่มที่มีอันดับความน่าเชื่อถือเทียบเท่ากับพันธบัตรรัฐบาล แต่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

และอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กันเลยคือ การที่ทีมผู้จัดการกองทุนยังมีความยืดหยุ่นสูง โดยมุ่งบริหารแบบเชิงรุก ผสมผสานทั้งการวิเคราะห์เชิง Top-down และ Bottom-up ในการที่จะปรับเพิ่ม-ลดสัดส่วนการลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์ที่คุณภาพสูง เช่น ตราสารหนี้ภาครัฐฯ และ Agency MBS และตราสารกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนสูง เช่น ตราสารหนี้กลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา และหุ้นกู้กลุ่ม High Yield รวมถึงปรับเพิ่ม-ลด Duration ระหว่าง 0-8 ปี ไปให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย โดยปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 4.06 ปี

 

UGIS-N_16.jpg

Source: PIMCO as of 31 Oct 2024


จากข้อดีที่เราได้กล่าวถึงไป ไม่ว่าจะเป็น การเป็นบริษัทจัดการการลงทุนที่เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในตราสารหนี้โดยเฉพาะ และการมีทีมผู้จัดการกองทุนที่มากประสบการณ์ การสามารถเลือกลงทุนได้ในหลายสินทรัพย์ หรือแม้แต่กลยุทธ์การลงทุนที่มีความสมดุลและยืดหยุ่น ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ก็ได้ช่วยให้ PIMCO GIS Income Fund สามารถสร้างผลตอบแทนได้อยู่ในระดับต้น ๆ อย่างสม่ำเสมอ เมื่อเทียบกับการลงทุนในตราสารหนี้กลุ่มต่าง ๆ เพียงอย่างเดียว ตามที่เห็นในรูปด้านล่าง

 

UGIS-N_17.jpg

Source: PIMCO and Bloomberg as of 31 Oct 2024

 

โดยกองทุน PIMCO GIS Income Fund ยังสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยได้มากถึง 5.03% ต่อปี นับตั้งแต่จัดตั้งในปี ค.ศ. 2012 เอาชนะดัชนีชี้วัดอย่าง Bloomberg US Aggregate Index ที่มีผลตอบแทนในช่วงเวลาเดียวกันเฉลี่ยเพียงปีละ 1.49% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ต.ค. 2024) ซึ่งก็พอจะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่า PIMCO GIS Income Fund นั้นมีความสามารถ และมีความเชี่ยวชาญในการลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลก

 

 

คลิกที่นี่เพื่อดูกองทุนเคาะซื้อใน INVX Satellite Portfolio ล่าสุด

 

คำเตือน: ผลการดำเนินในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนที่ได้รับในอนาคต กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บล.อินโนเวสท์ เอกซ์

Most Viewed Ideas
1/5
Related Ideas
Most Viewed Ideas
1/5