Keyword
ลงทุนก้าวแรก

คู่มือกระชับสำหรับมือใหม่ลงทุนในหุ้นญี่ปุ่น -- ทำความรู้จักตลาด สู่การเลือกช่องทางลงทุนอย่างมั่นใจ

By ดร.รัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ|5 Aug 25 4:35 PM
Japan Flag
สรุปสาระสำคัญ

ทำไมตลาดหุ้นญี่ปุ่นจึงน่าจับตามอง

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในตลาดทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยระบบที่มีประวัติความเป็นมายาวนานและโครงสร้างที่แข็งแกร่ง ภายใต้การดำเนินงานของ Japan Exchange Group (JPX) ซึ่งก่อตั้งจากการควบรวมของ Tokyo Stock Exchange (TSE) และ Osaka Securities Exchange (OSE) เมื่อปี 2013 จุดเด่นของ JPX ไม่ได้อยู่แค่ในญี่ปุ่น แต่ยังขยายบทบาทเชิงภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์จีนผ่านโครงการ Japan-China ETF Connectivity ที่เปิดโอกาสให้เงินทุนข้ามพรมแดนได้สะดวกยิ่งขึ้น

ความมุ่งมั่นด้าน ESG ของตลาดหุ้นญี่ปุ่น

JPX ยังให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างยั่งยืน ผ่านการส่งเสริมธรรมาภิบาลและการเปิดเผยข้อมูล ESG อย่างโปร่งใส โดยได้เข้าร่วมโครงการ Sustainable Stock Exchanges Initiative ของสหประชาชาติ และสนับสนุน Task Force on Climate-related Financial Disclosures ตั้งแต่ปี 2017 และ 2018 ตามลำดับ ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของบริษัทจดทะเบียน และดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลกที่ต้องการผลตอบแทนควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคม

โครงสร้างตลาดใหม่ของ TSE: เข้าใจง่าย ตอบโจทย์นักลงทุน

เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและความชัดเจน TSE ได้ปรับโครงสร้างตลาดครั้งใหญ่ในปี 2022 โดยจัดแบ่งตลาดออกเป็นสามกลุ่มหลัก ได้แก่ Prime Market สำหรับบริษัทชั้นนำที่มีสภาพคล่องสูงและเน้นธรรมาภิบาล Standard Market สำหรับบริษัทที่มั่นคงในระดับกลาง และ Growth Market สำหรับบริษัทที่มีศักยภาพเติบโตแม้จะมีความเสี่ยงสูง นอกจากนี้ยังมี TOKYO PRO Market และ PRO-BOND Market สำหรับนักลงทุนมืออาชีพโดยเฉพาะ ซึ่งเน้นความยืดหยุ่นและการตรวจสอบจาก J-Advisers แทนตลาดหลักทรัพย์โดยตรง

ดัชนีหุ้นหลัก: ทำความเข้าใจเพื่อมองภาพรวมตลาด

ในโลกของการลงทุน การเข้าใจดัชนีหุ้นเป็นสิ่งสำคัญ ดัชนี Nikkei 225 คือหนึ่งในดัชนีที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น โดยสะท้อนการเคลื่อนไหวของหุ้นบลูชิพ 225 ตัวจากหลากหลายอุตสาหกรรม ดัชนีนี้มีลักษณะถ่วงน้ำหนักตาม “ราคา” หุ้น ทำให้หุ้นที่มีราคาสูงมีอิทธิพลมากกว่า ขณะที่ดัชนี TOPIX ซึ่งใช้การถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาดสะท้อนภาพรวมที่กว้างและมีความสมดุลกว่า โดยเฉพาะในช่วงที่นักลงทุนต้องการมองภาพรวมเศรษฐกิจญี่ปุ่นอย่างชัดเจน
ดัชนี JPX-Nikkei 400 ถือเป็นอีกหนึ่งดัชนีที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนสถาบัน เพราะเน้นการคัดเลือกหุ้นที่มีผลการดำเนินงานแข็งแกร่งและธรรมาภิบาลที่ดี เป็นการรวมคุณลักษณะของดัชนีแบบดั้งเดิมเข้ากับมิติด้าน ESG และคุณภาพขององค์กร

ทางเลือกการลงทุนในหุ้นญี่ปุ่น: หลากหลายและยืดหยุ่น

สำหรับนักลงทุนทั่วไป มีหลายช่องทางในการเข้าถึงตลาดหุ้นญี่ปุ่น วิธีที่ตรงที่สุดคือการลงทุนในหุ้นรายตัวของบริษัทญี่ปุ่นผ่านบริษัทหลักทรัพย์ในญี่ปุ่น ซึ่งช่วยให้สามารถเลือกลงทุนได้อย่างเจาะจง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจำเป็นต้องเข้าใจความเสี่ยงของแต่ละบริษัทและกระจายพอร์ตอย่างรอบคอบ เพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนจากเหตุการณ์เฉพาะเจาะจง

อีกทางเลือกหนึ่งคือการลงทุนผ่านบริษัทในประเทศไทยที่เปิดให้บริการ ซึ่งรวมถึง InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX เครือเดียวกับธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเปิดให้ซื้อขายหุ้นญี่ปุ่นได้สะดวกผ่านแอป InnovestX

American Depository Receipts (ADRs): ทางลัดสู่หุ้นญี่ปุ่น

สำหรับผู้ที่ลงทุนผ่านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ADRs เป็นทางเลือกที่สะดวกในการถือครองหุ้นญี่ปุ่นในรูปแบบของใบรับรองที่ออกโดยธนาคารในสหรัฐฯ ช่วยให้ซื้อขายเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเผชิญกับขั้นตอนที่ซับซ้อนของตลาดญี่ปุ่นโดยตรง ตัวอย่างหุ้นญี่ปุ่นที่มี ADR ได้แก่ Toyota, Sony และ Mitsubishi UFJ Financial

ETFs: ทางเลือกยอดนิยมของมือใหม่และมือโปร

Exchange-Traded Funds (ETFs) เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่เหมาะสำหรับการลงทุนในหุ้นญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการกระจายความเสี่ยงโดยไม่ต้องเลือกหุ้นรายตัว ETFs มีลักษณะคล้ายกองทุนรวม แต่สามารถซื้อขายได้เหมือนหุ้น ให้ความยืดหยุ่น โปร่งใส และค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่ากองทุนทั่วไป

ETF ญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยม เช่น iShares MSCI Japan (EWJ), JPMorgan BetaBuilders Japan ETF (BBJP) และ WisdomTree Japan Hedged Equity Fund (DXJ) ซึ่งออกแบบมาเพื่อลดความผันผวนจากค่าเงินเยน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเน้นผลตอบแทนจากหุ้นญี่ปุ่นโดยตรง

กองทุนรวมหุ้นญี่ปุ่น: ทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกและมืออาชีพดูแล

สำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการเลือกหุ้นรายตัวเองหรือกังวลกับอัตราแลกเปลี่ยนและการเข้าถึงตลาดต่างประเทศโดยตรง กองทุนรวมที่เน้นลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นถือเป็นทางเลือกที่สะดวกและน่าสนใจ กองทุนเหล่านี้มีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพคอยบริหารพอร์ต โดยคัดเลือกหุ้นที่มีศักยภาพตามแนวทางการลงทุนเฉพาะ เช่น เน้นการเติบโต เน้นคุณค่า หรือเน้นหุ้นขนาดใหญ่ที่มีธรรมาภิบาลดี เช่น กอง KT-JAPANALL-A ที่เป็นกอง active ที่ลงทุนหุ้นญี่ปุ่น All Cap ที่มีมูลค่าเหมาะสม หรือกอง KFJPINDX-A ที่เป็นกอง passive ลงทุนหุ้นญี่ปุ่นชั้นนำ 225 ตัว เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ลงทุนได้ผ่านแอปของ InnovestX

กลยุทธ์การลงทุนที่ใช้ได้กับตลาดญี่ปุ่น

นักลงทุนสามารถเลือกใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investing) เพื่อมองหาบริษัทที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน หรือเลือกแบบเน้นการเติบโต (Growth Investing) โดยเน้นบริษัทที่คาดว่าจะมีกำไรเติบโตสูงกว่าตลาดในระยะยาว นอกจากนี้ กลยุทธ์แบบเน้นเงินปันผล (Dividend Investing) ก็เหมาะกับผู้ที่มองหารายได้ต่อเนื่องจากบริษัทที่มีประวัติการจ่ายปันผลที่มั่นคงและเติบโตต่อเนื่อง

บทสรุป

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่น่าสนใจ โดยได้รับการสนับสนุนจากปัจจัยเชิงบวกหลายประการ เช่น การปฏิรูปองค์กรที่ส่งเสริมธรรมาภิบาลและการคืนผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้น ภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคที่แข็งแกร่งขึ้นด้วยนโยบายการเงินที่เอื้ออำนวยและการเติบโตของค่าจ้าง รวมถึงกระแสเงินทุนจากต่างชาติที่กลับเข้ามาลงทุน การฟื้นตัวของดัชนีหลักอย่าง Nikkei 225 ที่ทะลุระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษเป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในตลาดนี้

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในญี่ปุ่นยังคงมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเฉพาะตัวที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เช่น ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์ที่นำไปสู่การขาดแคลนแรงงาน ปัจจัยทางด้านการเมือง และความท้าทายด้านธรรมาภิบาลองค์กรและระบบราชการ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในหุ้นรายตัวหรือผ่าน ETF หรือกองทุนรวม การทำความเข้าใจในกลยุทธ์การลงทุนต่างๆ เช่น เน้นคุณค่า เน้นการเติบโต หรือเน้นเงินปันผล จะช่วยให้นักลงทุนสามารถปรับแนวทางให้เข้ากับเป้าหมายและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ การพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของบริษัท การวิเคราะห์แนวโน้มตลาด และการติดตามนโยบายเศรษฐกิจของญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น

 

---

ดาวน์โหลดและเปิดบัญชีกับ InnovestX ลงทุนได้ 23 ประเทศ 31 ตลาด

https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b

 

คำเตือน: คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

 

Author
DR RHATSARUN TANAPAISANKIT
ดร.รัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ

Head of Investment Strategy & Trading Product Specialist

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5