Keyword
Company History

Berkshire Hathaway (BRK.A/ BRK.B) การลงทุนที่หลากหลายและผลตอบแทนเหนือกว่าตลาด ภายใต้การนำของ Warren Buffett

2 Jul 25 10:02 AM
Berkshire Hathaway (BRK.A/ BRK.B) การลงทุนที่หลากหลายและผลตอบแทนเหนือกว่าตลาด ภายใต้การนำของ Warren Buffett
สรุปสาระสำคัญ

Berkshire Hathaway Inc. (BRK.A & BRK.B) บริษัทโฮลดิ้งรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก กำลังเขียนประวัติศาสตร์ใหม่เมื่อ Warren Buffett ตำนานนักลงทุนแห่งโอมาฮาอายุ 94 ปี ประกาศมอบหมายตำแหน่ง CEO ให้กับ Gregory Abel รองประธานฝ่ายธุรกิจนอกประกัน (Vice Chairman of Non-Insurance Operations) เพื่อเริ่มดำรงตำแหน่งในปี 2026 ขณะที่ Buffett ยังคงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการต่อไปจนถึงปลายปี 2025 การตัดสินใจครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเครือข่ายการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นมาอย่างต่อเนื่องกว่า 6 ทศวรรษ ด้วยกลยุทธ์การลงทุนที่เน้นมูลค่าระยะยาวและการสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคง (Value Investing)

จากบริษัทสิ่งทอสู่จักรวรรดิการลงทุน

 

Berkshire Hathaway เริ่มต้นเป็นบริษัทสิ่งทอในปี 1839 ก่อนที่ Warren Buffett จะเข้ามาซื้อหุ้นใหญ่และควบคุมบริษัทในปี 1965 ขณะที่อายุเพียง 35 ปี การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อ Buffett ปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจจากการผลิตสิ่งทอไปสู่บริษัทโฮลดิ้งและการลงทุน โดยใช้หลักการลงทุนแบบ Value Investing ที่เน้นการซื้อหุ้นบริษัทที่มีคุณภาพดีในราคาที่เหมาะสม

ปี 1967 Berkshire เริ่มเข้าสู่ธุรกิจประกันภัยด้วยการซื้อ National Indemnity Company ซึ่งกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุด เพราะธุรกิจประกันให้ "Float" หรือเงินที่ลูกค้าจ่ายเป็นเบี้ยประกันล่วงหน้าก่อนที่จะมีการจ่ายค่าสินไหมทดแทน เงินส่วนนี้กลายเป็นแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำที่ Buffett ใช้ลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทน

ในทศวรรษ 1970-1980 Berkshire ขยายธุรกิจไปยังหลายสาขา ทั้งการซื้อบริษัททั้งหมดและการลงทุนในหุ้นของบริษัทชั้นนำ เช่น Coca-Cola, American Express และ Wells Fargo การเข้าซื้อ GEICO ในปี 1996 และ BNSF Railway ในปี 2010 เป็นการลงทุนสำคัญที่แสดงให้เห็นกลยุทธ์การขยายสู่ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานที่มีกระแสเงินสดมั่นคง

 

โครงสร้างรายได้

 

Berkshire Hathaway มีโครงสร้างรายได้ที่กระจายความเสี่ยงได้ดีเยี่ยม แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มธุรกิจหลัก

 

1. Insurance Operations – 25% ของรายได้รวม

ธุรกิจประกันภัย และการประกันภัยต่อ (Reinsurance) ที่เป็นแกนหลักของบริษัท ครอบคลุมประกันรถยนต์ (GEICO) ประกันทรัพย์สิน ประกันชีวิต และ Reinsurance กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตสูงจากการขยายตัวของประชากรและความต้องการประกันภัยที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ GEICO ที่มีผลประกอบการโดดเด่นด้วยกำไรจากการประกันภัย ภายใต้การบริหารของ Todd Combs

 

2. Manufacturing, Service, and Retailing – 28% ของรายได้รวม

ธุรกิจการผลิต บริการ และค้าปลีกที่รวมบริษัทต่าง ๆ เช่น Precision Castparts (ชิ้นส่วนการบิน) Clayton Homes (บ้านสำเร็จรูป) และ Fruit of the Loom (เสื้อผ้า) กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและอัตราการบริโภคในสหรัฐฯ

 

3. Wholesale and Logistics – 23% ของรายได้รวม

ธุรกิจขายส่งและโลจิสติกส์ที่ประกอบด้วย McLane Company เป็นผู้จัดจำหน่ายขายส่งรายใหญ่ และ Pilot Travel Centers เป็นเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันและบริการเดินทาง แม้ว่า บริษัท Pilot จะเผชิญกับการลดลงของรายได้ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลง และปริมาณการขายจากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลง

 

4. Railroad (BNSF) – 6% ของรายได้รวม

ระบบขนส่งทางรถไฟ Burlington Northern Santa Fe (BNSF) ที่เป็นหนึ่งในเครือข่ายขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ มีแนวโน้มเติบโตจากการขนส่งสินค้าทั่วไป เคมีภัณฑ์ และสินค้าอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าการขนส่งทางถนน

 

5. Energy (Berkshire Hathaway Energy) – 6% ของรายได้รวม

ธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค Berkshire Hathaway Energy ครอบคลุมการผลิตไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ และพลังงานทดแทน กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตจากการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและการขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน

 

6. Investment Income and Other – 12% ของรายได้รวม

รายได้จากการลงทุนในหลักทรัพย์และธุรกิจอื่นๆ รวมถึงเงินปันผลจากการลงทุนในหุ้นบริษัทชั้นนำ เช่นหุ้น Apple แม้ว่าจะได้ลดสัดส่วนการถือครองลงประมาณสองในสาม ในปี 2024 รายได้จากการลงทุนของกลุ่มประกันภัยเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่มาจากอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนระยะสั้นที่สูงขึ้น โดย Berkshire ถือเงินสดและหลักทรัพย์ระยะสั้น 

 

Picture3qq.png

 

โครงสร้างรายได้ที่หลากหลายนี้ช่วยให้ Berkshire สามารถสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงแม้ในช่วงเศรษฐกิจผันผวน และสามารถใช้เงินสดที่เหลืออยู่มาลงทุนในโอกาสใหม่ ๆ ได้อย่างยืดหยุ่น

 

 

กลยุทธ์การลงทุนและจุดแข็งที่โดดเด่น

 

Berkshire มีจุดแข็งหลักจากกลยุทธ์การลงทุนแบบ "Buy and Hold" ที่เน้นการถือครองระยะยาว การมี Float จากธุรกิจประกันภัยให้สามารถใช้เงินต้นทุนต่ำในการลงทุน และการบริหารแบบกระจายอำนาจที่ให้อิสระแก่ผู้บริหารของบริษัทย่อยในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ Berkshire ยังมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งด้วยเงินสดและหลักทรัพย์คล่องตัวจำนวนมาก ทำให้สามารถมีโอกาสลงทุนในช่วงที่ตลาดผันผวนได้ดีกว่าคู่แข่ง การไม่จ่ายเงินปันผลแต่เลือกนำกำไรไปลงทุนต่อเป็นกลยุทธ์ที่สร้างมูลค่าระยะยาวให้ผู้ถือหุ้น

 

 

เปรียบเทียบกับคู่แข่งระดับโลก

 

เทียบกับ SoftBank Group Corp (9984.T) ในญี่ปุ่น: SoftBank Group คือบริษัทโฮลดิ้งด้านการลงทุนจากญี่ปุ่น ก่อตั้งโดย Masayoshi Son มุ่งเน้นลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยี โทรคมนาคม และสตาร์ทอัพระดับโลก ผ่านกองทุน Vision Fund โดยมีผลงานเด่นจากการลงทุนใน Alibaba, ARM และ Uber ทั้ง SoftBank และ Berkshire Hathaway เป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ลงทุนหลากหลายเพื่อสร้างมูลค่าในระยะยาว แต่มีแนวทางต่างกันBerkshire นำโดย Warren Buffett เน้นลงทุนในธุรกิจมั่นคงด้วยกลยุทธ์ Value Investing เช่น ประกันภัยและพลังงาน ขณะที่ SoftBank มุ่งเน้นเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพผ่าน Vision Fund โดยรับความเสี่ยงสูงเพื่อโอกาสเติบโตเร็ว

 

 

เปรียบเทียบกับธุรกิจในประเทศไทย

 

บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด มหาชน (GULF): GULF เป็นบริษัทชั้นนำของไทยที่ดำเนินธุรกิจใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ พลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน และดิจิทัล มีโรงไฟฟ้ากว่า 28 โครงการทั่วประเทศ และดำรงตำแหน่งหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ของไทย GULF และ Berkshire Hathaway เป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ลงทุนในหลากหลายธุรกิจ โดย GULF เน้นพลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน และดิจิทัลในไทยและเอเชีย ส่วน Berkshire Hathaway ลงทุนในธุรกิจประกันภัย การเงิน พลังงาน และอุตสาหกรรมทั่วโลก ทั้งสองมีเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้น อย่างไรก็ตาม GULF มีขอบเขตการดำเนินงานในระดับภูมิภาค ขณะที่ Berkshire Hathaway มีขอบเขตธุรกิจระดับโลกและมีชื่อเสียงจากการบริหารโดย Warren Buffett ซึ่งเน้นการลงทุนระยะยาวในธุรกิจคุณภาพ

 

 

ความท้าทายและความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ

 

Berkshire เผชิญความท้าทายจากการที่บริษัทมีขนาดใหญ่มากจนการหาโอกาสลงทุนที่จะสร้างผลกระทบต่อผลประกอบการโดยรวมเป็นเรื่องยาก นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงผู้นำจาก Warren Buffett สู่ Greg Abel อาจสร้างความไม่แน่นอนเรื่องทิศทางการลงทุนในอนาคต ธุรกิจประกันภัยก็มีความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นและการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนธุรกิจพลังงานต้องปรับตัวกับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด และธุรกิจขนส่งทางรถไฟอาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานโลกและการแข่งขันจากระบบขนส่งรูปแบบอื่น

 

 

อนาคตและโอกาสของ Berkshire Hathaway

 

แม้จะมีความท้าทาย แต่ Berkshire ยังคงมีโอกาสเติบโตจากฐานะการเงินที่แข็งแกร่งและความสามารถในการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีและพลังงานทดแทน การที่ Greg Abel มีประสบการณ์ด้านพลังงานและสาธารณูปโภคอาจเป็นข้อได้เปรียบในการนำบริษัทสู่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ นอกจากนี้ Berkshire ยังสามารถใช้ประโยชน์จากเทรนด์การเติบโตของตลาดประกันภัยในประเทศเกิดใหม่ การขยายตัวของ E-commerce ที่ส่งผลดีต่อธุรกิจขนส่ง และการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่เปิดโอกาสลงทุนใหม่ ๆ

 

สนใจลงทุนในหุ้น Berkshire Hathaway (Ticker: BRK.A & BRK.B หรือ DR: BRKB80) Berkshire Hathaway มี 2 ประเภทหุ้นคือ BRK.A และ BRK.B โดย BRK.A มีราคาสูงและสิทธิ์ออกเสียงเต็ม ส่วน BRK.B ราคาต่ำกว่า มีสิทธิ์ออกเสียงน้อยกว่า และเหมาะกับนักลงทุนรายย่อย

 

 และหุ้นเทคโนโลยีอื่น ๆ เปิดประสบการณ์ลงทุนไร้ขีดจำกัดกับแอป InnovestX! เข้าถึง 23 ประเทศ 31 ตลาดทั่วโลกได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว เปิดบัญชีลงทุน คลิกเลย! 👉https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b

 

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

Stocks Mentioned
BRKb.N
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5